วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

ปชป.ยังไม่เคาะชื่อทีมรองผู้ว่าฯกทม.


วันนี้ (2 ม.ค.) นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการส่งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกสมัย ว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังรวบรวมนโยบายที่จะทำร่วมกันระหว่างทีมงานขอ งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และทีมงานของพรรค เพื่อจะหาข้อสรุปร่วมกันว่าจะใช้นโยบายและวิธีการใดเป็นหลักในการหาเสียง ส่วนผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.นั้น พรรคยังไม่ได้ข้อสรุปเช่นกัน แต่โดยหลักการจะเป็นการผสมผสานระหว่างทีมงานที่ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ คัดเลือก และในส่วนที่พรรคคัดเลือก ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้ดี และสานต่องานที่ทำมาตลอดได้
ส่วนกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมดำเนินคดีเอาผิดกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในกรณีทำสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส นั้น นายอภิรักษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่คาดการณ์อยู่แล้ว แต่เชื่อว่าม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ สามารถชี้แจงได้

นายกฯเรียกถกหน่วยมั่นคงดับไฟใต้



ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เวลา 14.00 น.วันที่ 2 ม.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ และหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผบ.ตร. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.
ทั้งนี้คาดว่าจะมีการหารือเรื่องแนวทางการต่อสู้คดีการขึ้นทะเบียนปราสาท พระวิหารเป็นมรดกโลกของกับพูชาด้วย  โดยก่อนการประชุม พล.อ.อ.สุกำพล ได้นำผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหมด เข้าอวยพรปีใหม่ ให้กับนายกรัฐมนตรีด้วย

“ตือ”ซัดนักการเมืองบางพรรคปรามาส“เติ้ง”



เมื่อเวลา14.00 น. วันที่ 2 ม.ค. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา อาสาเดินสายสร้างความปรองดอง หลังปลดล็อคทางการเมืองแต่ถูกนักการเมืองบางพรรคระบุว่าไม่มีทางทำสำเร็จ ว่ากระแสตอบรับของสังคมเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะเป็นความต้องการที่ตรงกันของคนไทยที่อยากเห็นบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติ แต่มีพรรคการเมืองบางพรรค นักการเมืองบางท่านแสดงความคิดไม่เห็นด้วย และยังเย้ยหยัน ดูแคลน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นสำหรับคนที่เป็นนักการเมือง เพราะนักการเมืองน่าจะมีความรัก ความปรารถนาต่อประเทศชาติเหมือนกัน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้อยากให้หันกลับไปดูประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา เวียดนาม ลาว พม่า ในอดีตที่ผ่านมาประเทศเหล่านี้อยู่ในความแตกแยกของผู้คน สังหารและเข่นฆ่ากัน แต่กลุ่มประเทศเหล่านี้หาข้อยุติหันมาสู่ความปรองดอง สร้างชาติบ้านเมืองเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้น ตนคิดว่าสังคมไทยพื้นฐานของคนไทยมีความเมตตา เอื้ออาทรกัน และพร้อมที่จะให้อภัยกันและกัน ดังนั้นการที่นายบรรหารเสนอตัวถือเป็นความกล้าหาญ  และพร้อมที่จะประสานสิบทิศพบกับทุกฝ่าย หาจุดลงตัวให้ได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สังคมไทย นักการเมือง พรรคการเมืองไทยควรให้ความสนับสนุน วันนี้หากสังคมไทยยังก้าวข้ามพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ก็เป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง

วันนี้เจตนาของนายบรรหาร ตนเชื่อว่าไม่ได้มองปัญหาอยู่ที่จะอภัยโทษให้กับใคร หรือนิรโทษกรรมให้กับใคร แต่เป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีความเจ็บปวดกับปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมืองที่ เกิดขึ้น และนำพาประเทศของเราให้ย้ำอยู่กับที่ เพราะฉะนั้นคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาว และมีสำนึกในบ้านเมือง ท่านก็ต้องการอยากเห็นความปรองดองสู่ภาวะปกติ จึงเป็นสิ่งที่น่าจะร่วมมือกันนำความสันติสุขมาสู่ประเทศไทย และนายบรรหารก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา เพราะนโยบายปรองดองเป็นนโยบายของพรรคมาตั้งแต่ต้น อย่าเอาการเมืองมาเป็นตัวตั้ง ต้องเอาประเทศชาติเป็นตัวตั้ง ดังนั้นถึงเวลาที่ฝ่ายการเมืองที่จะทำให้ปัญหาความขัดแย้งยุติลง

“ผมไม่อยากเห็นการนำเอามาตรฐานของตนเองมาถือว่ามาตรฐานของคนอื่นจะต้อง เหมือนกัน จึงอยากถามว่ามาตรฐานตนเองเคยทำอะไรสำเร็จมาบ้าง เป็นพรรคการเมืองที่พูดถึงระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด เป็นพรรคการเมืองที่บอกว่าจะปฏิรูปการเมือง จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ถามว่าทำได้หรือไม่ ในขณะที่นายบรรหารสมัยเป็นนายกรัฐมนตรีปี 2540 ได้ประกาศนโยบายแห่งรัฐว่าจะปฏิรูปการเมืองมาตรา 211 นำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน หลังจากแถลงนโยบายก็ถูกดูแคลนด้วยความรู้สึก จะอคติหรือประการใดก็ตาม ท้ายที่สุดก็ทำสำเร็จ เพราะฉะนั้นการเอาบรรทัดฐาน มาตรฐานของตนเองเป็นที่ตั้ง และวัดมาตรฐานคนอื่นจะต้องเหมือนของตนเองสังคมไทยไปไม่ได้ และไม่มีทางประสบความสำเร็จ” นายสมศักดิ์ กล่าว
   

“ปู” ฟิตเรียก3รมต.แก้รธน.กินข้าวเที่ยง



เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ ในฐานะคณะทำงานศึกษาข้อกฎหมายและวิธีการออกเสียงประชามติ นายวราเทพ รัตนากร รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคณะทำงานศึกษาข้อกฎหมายและวิธีการออกเสียงประชามติ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะคณะทำงานศึกษาข้อกฎหมายและวิธีการออกเสียงประชามติ ได้เดินทางมายังตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าหารือและรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

จากนั้น นายวราเทพ เปิดเผยภายหลังรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับนายกรัฐมนตรี ว่าไม่ได้มีการหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการ แต่มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างการรับประทานอาหาร โดยกรอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงต้องไปพูดคุยกันในพรรคเป็นเรื่องของพรรค วันนี้ยังไม่มี และยังคงต้องรอการหารือของพรรคก่อน

เมื่อถามว่า นายกฯได้แสดงความเป็นห่วงอะไรในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะยังไม่ได้มีการหารือในรายละเอียด และทางพรรคเพื่อไทย ได้นัดว่าจะประชุมกันในวันที่  6-7 ม.ค.นี้ที่เขาใหญ่ ส่วนความชัดเจนของกระทรวงมหาดไทยในการจัดทำเวทีประชาเสวนาและการทำประชามติ นั้น ตนจะมีการหารือกับ นายจารุพงศ์ อีกครั้ง หลังจากที่นัดหารือกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ก่อน โดยทราบว่ากกต. กำลังนำข้อเสนอของคณะทำงานศึกษาข้อกฎหมายและวิธีการออกเสียงประชามติไป พิจารณา ว่าจะสะดวกเข้าหารือเมื่อใด

ต่อข้อถามว่านายกฯได้มีการพูดคุยถึงแนวทางการทำงานในปี 2556 หรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า มีเรื่องที่จะดำเนินการตามแผนงานในปี 2556 แต่ยังไม่ลงรายละเอียดในหลายเรื่อง เป็นเพียงการรับฟังแนวทางการดำเนินงานเท่านั้น ส่วนรายละเอียดคงจะมีการพูดคุยในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า

“หมวดเจี๊ยบ”ตอก“มาร์ค”เลิกเพ้อถึง“แม้ว”


 

เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ร.ท หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ส่งเอกสารให้กับสื่อมวลชนผ่านอีเมล์ โดยมีเนื้อหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ควรเลิกหมกมุ่น เรื่องพ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะทำให้มองทุกอย่างผิดเพี้ยนไป แม้แต่การอ่านผลโพล ก็เป็นการตีความเข้าข้างตัวเอง เหมือนแกล้งไม่เข้าใจว่าประชาชนต้องการสื่ออะไรถึงพรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะ เรื่องการหยุดทะเลาะเบาะแว้ง และความสามัคคี ปรองดอง
ตนอยากถามว่า ใจคอนายอภิสิทธิ์ จะไม่เลิกชวนทะเลาะ และจะไม่ยอมให้บ้านเมืองสงบ จนกว่าจะได้กลับมาเป็นนายกฯ ใช่หรือไม่ อันที่จริงนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ควรคิดเรื่องของพรรคตัวเองว่าจะนำเสนอนโยบายอะไรให้ประชาชนดีกว่า ไม่ใช่เอาแต่พูดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า เราทำการเมืองเพื่อคนไทยทุกคน ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง ขอเตือนด้วยความหวังดีว่า ยิ่งนายอภิสิทธิ์ พูดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ มากเท่าไหร่ ประชาชนจะยิ่งคิดถึงพ.ต.ท. ทักษิณ มากขึ้นเท่านั้น เห็นได้จากผลโพลต่าง ๆ ที่ยกให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสุดยอดซีอีโอบ้าง เป็นนักการเมืองในดวงใจบ้าง คงเป็นเพราะคนไทยเห็นว่าการคิดนโยบายและการทำงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ เหนือชั้นกว่านายอภิสิทธิ์ จนเทียบกันไม่ได้
ในขณะที่ผลงานของนายอภิสิทธิ์ คนไทยแทบจะจำไม่ได้เลย จำได้แต่เรื่องสลายการชุมนุม 99 ศพ รวมทั้งหนีทหาร และฉายา"ดีแต่พูด" เท่านั้น

เผยอาการ“ชุมพล-เสธ.หนั่น”หนัก



วันนี้ (2 ม.ค.) ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล  กล่าวถึงความคืบหน้าอาการของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา หลังจากเข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราชเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า  ผ่านมา 4 สัปดาห์เศษ อาการของ พล.ต.สนั่นโดยทั่วไปยังคงเดิม มีการรับรู้เล็กน้อย และยังใช้เครื่องช่วยหายใจ ช่วงที่ผ่านมามีการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจและทางเดินปัสสาวะไป 1 รอบ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ให้ยาฆ่าเชื้อไปช่วงประมาณกลางเดือนธ.ค.ก็ดีขึ้น แต่ช่วงก่อนปีใหม่มีการติดเชื้ออีกรอบที่ตำแหน่งเดิมคือปอด  ทำให้อาการโดยทั่วไปทรุดลงเล็กน้อย ตอนนี้ให้ยาฆ่าเชื้ออยู่ และคาดว่าควบคุมการติดเชื้อครั้งที่ 2 ได้
“อาการทั่วไปยังคงเหมือนเดิม คือ ใช้เครื่องช่วยหายใจ ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ดี การเต้นของหัวใจอยู่ในเกณฑ์ปกติดี เพียงแต่สมองยังเท่าเดิม คือไม่รับรู้เพิ่มขึ้น คงต้องติดต่อไป ทั้งนี้ได้มีการให้สารอาหารทางหลอดเลือด ทำให้คนไข้มีน้ำหนักตัวลดลงเล็กน้อย” ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าว
ต่อข้อถามว่า อาการทรงตัวนานกี่สัปดาห์ถึงจะบอกได้ว่าดีขึ้นหรือแย่ลง ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวว่า คงต้องติดตามดู แต่ระยะเวลาที่นานขึ้น โอกาสที่การรับรู้จะกลับมาปกติคงจะน้อยลง เพียงแต่เราจะบอก 100% ไม่ได้ว่าท่านจะเป็นเจ้าชายนิทราอยู่หรือเปล่า ก็คงต้องติดตามในระยะยาว เพราะในบางคนเราเคยเจอว่าบางที 6-8 สัปดาห์ไปแล้วก็ยังมีการฟื้นตัว แม้เป็นส่วนน้อยแต่ก็เคยมี อย่างไรก็ตามการติดเชื้อจะทำให้อาการทรุดลง แต่พอควบคุมการติดเชื้อได้ จะกลับมาแต่ไม่ดีเท่าระดับเดิมทีเดียว
ทางด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา  เปิดเผยถึงอาการป่วยของนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เข้าไปเยี่ยมล่าสุดอาการดีขึ้น ร่างกายบางส่วนตอบสนอง มือเริ่มกระดิก แม้จะถอดเครื่องช่วยหายใจ ก็สามารถหายใจเองได้  ยืนยันว่าไม่มีปัญหาต่อการทำงาน เพราะมีรมว.เกษตร ปฎิบัติหน้าที่ทำงานแทนในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวอยู่แล้ว

เตรียมพิจารณาแจกใบแดง“ เก่ง การุณ"



เมื่อวันที่ 2 ม.ค. นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา กล่าวถึงคดีที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งในปีที่ผ่านมา ว่า มีคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ยื่นคำร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งส.ส.เมื่อปี 2554 และการสรรหา ส.ว. ที่รับใหม่เข้ามารวม 20 คดี โดยมีสำนวนค้างเก่า จากปี 2554 นำมาพิจารณาต่อเพียง 1 คดี โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค.55 ศาลพิจารณาคดีเสร็จและมีคำสั่งไปแล้วรวม 18 คดี  จำนวนนั้นเป็นคดีที่ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนการสรรหา ส.ว.รวม 3 ราย คือ นายสัก กอแสงเรือง , นายศรีสุข รุ่งวิสัย และนายประจิตต์ โรจนพฤกษ์ ซึ่งนายประจิตต์ ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปีด้วย

ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส. ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปีตามคำร้องของ กกต. 2 ราย คือ นายพิทยา บุญเฉลียว ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ศรีสะเกษ พรรคมาตุภูมิ และนายอภิราชฐ์ บรรณารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.มหาสารคาม พรรคภูมิใจไทย และให้มีการเลือกตั้งใหม่ 2 คดี คือ ส.ส.ชลบุรี เขต 2 แทนนายอุกฤษ์ ตั๊นสวัสดิ์  ส.ส.พรรคพลังชล และ ส.ส.ลพบุรี เขต 4 แทน นายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย  และจะมีคดีค้างเก่าจากปี 2555  นำไปพิจารณาในปี 2556 รวม 3 รายที่ กกต.ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี ผู้สมัคร ส.ส. และ ส.ส.รวมทั้งให้สั่งเลือกตั้งใหม่ด้วย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีเลือกตั้ง ส.ส.อีก  3 ราย ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เตรียมจะพิจารณาในปี 2556 ประกอบด้วย คดีที่ กกต. ยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี โดยแจกใบแดงนายสมเกียรติ ไตรสรณปัญญา ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ทรัพย์สิน (เงิน) แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเอง โดยศาลรับคำร้องไว้เมื่อวันที่ 11 ก.ค.55 และได้นัดไต่สวนพยาน รวม 4 นัด เริ่มนัดแรกวันที่ 15 ม.ค.56 เวลา 09.30 น.

คดีที่ กกต.ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี กรณีแจกใบแดง นายกลยุทธ เรืองกาญจนเศรษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขต 1  พรรคเพื่อไทย เนื่องจากถูกกล่าวหามีการให้ทรัพย์สินเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลง คะแนนเสียงให้แก่ตนเอง ศาลรับคำร้องไว้เมื่อวันที่ 26 ก.ค.55 นัดไต่สวนพยานรวม 2 นัด เริ่มนัดแรก 20 ก.พ.56 เวลา 09.30 น.
คดีที่ 3  เป็นคดีที่ กกต. ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้ง 12 (ดอนเมือง)ใหม่ และขอให้เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งนายการุณ หรือเก่ง โหสกุล ส.ส.กทม.เขต 12 พรรคเพื่อไทย ที่ กกต.แจกใบแดง เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า ปราศรัยใส่ร้ายด้วยความเท็จ นายแทนคุณ จิตอิสระ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.54 ที่ตลาดนัดบุญอนันต์ และวันที่ 12 มิ.ย.54 ที่ตลาดนัดโกสุมรวมใจ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเข้าใจผิดและงดเว้นการลงคะแนนให้นายแทน คุณ ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งรับคำร้อง เมื่อวันที่ 25 ก.ค.55 และนัดไต่สวนพยาน 2 นัด เริ่มไต่สวนครั้งแรกวันที่ 15 มี.ค.56 เวลา 09.30 น.

"ปชป." โอ่พร้อมคุย "ปู" ถกปมแก้ รธน.ปี 50


วันนี้ (2 ม.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหาทางออกในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคประชาธิปัตย์ยินดีพูดคุยเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ แต่ข้อเสนอของพรรค ประชาธิปัตย์มีความชัดเจนตั้งแต่แรก และไม่ได้มีอะไรซับซ้อนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ เพียงแค่ประกาศว่ามาตราใดมีปัญหาบ้าง พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็น แต่การที่มีปัญหาทุกวันนี้ เพราะรัฐบาลต้องการล้มรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ไม่ได้มีคำรับประกันเลยว่ามาตราใดที่ประชาชนเป็นห่วงจะไม่ได้รับการแตะ ต้อง ทั้งนี้ถ้ารัฐบาลพูดให้ชัดเจนว่าจะไม่มีการล้างความผิด ไม่มีการนิรโทษกรรม และเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราก็น่าจะเสร็จได้นานแล้ว และหากจะมีการพูดคุยกับทุกฝ่ายกันจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องสลัดให้พ้นจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะถ้าสลัดไม่หลุด การพูดคุยก็จะไม่มีประโยชน์ เนื่องจากทุกอย่างขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ 
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับรัฐบาล เพราะเรื่องนี้มีภาคประชาชนที่ไม่เห็นด้วยเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งฝ่ายค้านเพียงแต่เตือนรัฐบาลว่าถ้าเดินหน้าต่อไปจะเกิดความขัดแย้งอีก จึงขอให้รัฐบาลเปิดเผยว่าจะแก้มาตราอะไรบ้างซึ่งอยู่ในแนวทางที่จะทำได้อยู่ แล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เจรจากับพรรคประชาธิปัตย์แล้วจะมีการยอม กันได้ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศ ถ้ารัฐบาลจริงใจก็จะต้องเปิดเผยว่าจะแก้ประเด็นอะไร อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในการสัมมนาใหญ่ของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 6-7ม.ค. นี้ น่าจะได้ข้อสรุปถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งสัญญาณที่ชัดเจนมา.

“มัลลิกา” โพสต์เฟชบุ๊ค ""ของขวัญจากรัฐบาล" ส่งท้ายปีเก่า 2555


วันนี้ (31 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงบนเฟชบุ๊คส่วนตัว “Mallika Boonmeetrakool” ในหัวข้อ "ของขวัญจากรัฐบาล" ส่งท้ายปีเก่า 2555 "จำนำข้าว" สู่ปีหน้าฟ้าใหม่ 2556 "จำนำรถ" ตอนหนึ่งว่า “ครบ 1 ปี 4 เดือนกว่าๆ ของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่เป็นวันครบรอบสารพันปัญหาที่เกิดจากน้ำมือของรัฐบาล เป็นผลพวงมาจากนโยบายลดแลกแจกแถมตามกระแสโพล “โกงจะไม่มีใครว่าถ้าแบ่งกันด้วย" และโครงการ "รับจำนำข้าว" น้ำยังไม่ลด ตอก็ผุด คือ ไม่มีการขายข้าวแบบจีทูจีให้ประเทศจีน และธนาคารโลกซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงวอชิงตันดี.ซี.ของสหรัฐฯ ระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวของไทย กลายเป็นโครงการที่สิ้นเปลืองงบประมาณมากที่สุด คิดเป็นวงเงินสูงราว 115,000 - 150,000 ล้านบาทต่อ 1 ฤดูกาล ทำให้กลไกราคาพังพินาศ สูญเสียงบประมาณแผ่นดิน รวมถึงการจัดเก็บรายได้ที่ไม่เข้าเป้า จะสร้างปัญหาอย่างรุนแรงกับประเทศในปีถัดไป และหากรัฐบาลนี้มีอายุครบ 2 ปี ต้องสูญเงินงบประมาณภาษีของประชาชนประมาณ 4.5 แสนล้านบาท ไปกับโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด นี่คือโครงการเดียวที่ “เสี่ยเปี๋ยง” กับเจ๊ “ด”เอี่ยวทั้งยวง”

น.ส.มัลลิกา ยังได้โพสต์ข้อความอีกว่า  โครงการ "รถคันแรก" นโยบายสร้างปัญหาในหลายมิติ หนี้ภาคครัวเรือนเพิ่ม ขณะที่รัฐต้องจ่ายคืนเงินภาษีกว่า 7 หมื่นล้านบาท แต่ปัญหาทางสังคมที่จะตามมาเพราะรัฐบาลหลอกล่อให้ประชาชนที่ไม่มีความพร้อม สร้างหนี้ที่ไม่สามารถรับผิดชอบได้ ปี 2556 จะเกิดปรากฎการณ์ยึดรถ เพราะขาดผ่อน ด้านการนำเข้าพลังงานที่จะมากขึ้นกว่าเดิม เพราะรถยนต์เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดกว่า 1.2 ล้านคัน ต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดินอุ้มการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซธรรมชาติ ที่สิ้นเปลืองมากเป็นสองต่อ สุดท้ายปี 2555 นี้ได้เจอกับของขวัญ "โครงการรับจำนำข้าว" ไปแล้ว ปีหน้าได้เจอ ของขวัญจากรัฐบาล "โครงการรับจำนำรถ" อย่างที่หลายคนกล่าวแน่นอน

โหร คมช. เตือน “ยิ่งลักษณ์” ระวังคนใกล้ตัวทำรัฐพัง


วันนี้ (31 ธ.ค.) นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดังแห่งวิหารหลวงปู่เกวาลัน สำนักสุขิโต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หรือโหร คมช. ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางบ้านเมืองปี 2556 ว่า ดูตามสถานการณ์บ้านเมืองสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องของภัยธรรมชาติ ซึ่งตามที่ได้ดูตามจิตของหลวงปู่เกวาลัน ท่านบอกว่าภัยธรรมชาติจะเริ่มแรงขึ้น โดยเฉพาะเหตุการณ์ภัยธรรมชาติตั้งแต่ปี 2553 เป็น ต้นมา ซึ่งหลายประเทศก็ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับภัยพิบัติ และกระจายไปตามจุดต่าง ๆ ของโลก โดยจะมีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ ส่วนเรื่องที่กล่าวกันว่าโลกถึงเวลาสิ้นโลก ซึ่งความจริงมันไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่เป็นวันโลกาวินาศ คือจะทำให้โลกบอบช้ำในเรื่องมหันตภัยโดยภัยธรรมชาติ เป็นที่มนุษย์กระทำขึ้นมา ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือการไม่ลงลอยของประชาชนที่ไม่ได้เกิดเฉพาะเพียง ประเทศไทยเท่านั้น แต่หลายประเทศทั่วโลกก็เกิดขึ้นด้วยน้ำมือของประชาชน ที่ประท้วงฆ่าฟันกัน ส่วนที่หนักที่สุดคือผลประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้องมากกว่าชาติบ้านเมือง บ้านเมืองที่ได้รับผลกระทบก็เกิดจากฝีมือคน ภัยพิบัติก็เกิดจากฝีมือคน เมื่อคนทำร้ายธรรมชาติ ธรรมชาติก็กลับมาทำร้ายคนซึ่งถือเป็นวงเวียนของธรรมชาติ
ประเทศไทยก็อยู่ในเกณฑ์หนึ่ง ที่เหมือนกับประเทศอื่นๆ ภัยพิบัติไม่ได้เกิดขึ้นกับประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่จะเกิดทั่วทุกภูมิภาคของโลก โดยจะหนักขึ้นตามลำดับจนกระทั่งถึงปี 2560 แล้ว หลังจากนั้นสถานการณ์รุนแรงในเรื่องภัยพิบัติจะคลายลงไปเรื่อย ๆ และกลับมาเป็นปกติ ทั้งนี้สาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากคนไม่ยอมกัน ไม่เข้าใจกันซึ่งกันและกัน เพียงแต่จะเอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวมโดยเฉพาะพวกพ้อง ที่สำคัญคือไม่เคารพในเรื่องของกฎหมาย ไม่เคารพเรื่องประชาธิปไตยที่แท้จริง เมื่อต่างฝ่ายต่างมีความเห็นไม่ตรงกันก็เกิดการปะทะกัน ทะเลาะกัน พยายามชิงชัยชนะที่คิดว่าถูกต้องมาครอบครอง รวมไปถึงบ้านเมืองของเราในปี 2556 ตั้งแต่ ปีใหม่ ถ้าคนไทยทั้งประเทศหันหน้ามาร่วมเป็นหนึ่ง และพยายามประคับประคองบ้านเมือง และทำทุกอย่างให้ผลประโยชน์ทั้งหมดตกอยู่กับบ้านเมือง โดยที่ไม่เบียดเบียน  ไม่ ก่อความเดือดร้อน ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้หนึ่งผู้ใด เมื่อนั้นบ้านเมือง หรือ ประเทศชาติก็จะไปรอด แต่ถ้าหากว่ายังเหมือนเดิมรับรองว่าประเทศชาติจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอีกรอบ แน่ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นจะเกิดด้วยฝีมือคนทั้งสิ้นที่เป็นผู้กระทำ รวมถึงกรรมของบ้านเมืองที่ผสมกันที่คนเป็นสร้างขึ้นมาโหร คมช. กล่าว
               
นายวารินทร์ กล่าวต่อว่า ความแตกแยกของบ้านเมืองจะเกิดขึ้นแน่ หากไม่ยอมหันหน้ามาเจรจากัน พยายามทิ้งผลประโยชน์ส่วนตัว พยายามแก้ไขปัญหาเพื่อที่จะเอาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง และพวกพ้อง หรือ ผู้ใดผู้หนึ่ง หากไม่ทำในเรื่องนี้ความแตกแยกก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้ตนอยากให้ทุกคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมือง บ้านเมืองที่เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย หากมารวมเป็นกันทุกสีมารวมเป็นสีของธงชาติไทย บ้านเมืองถึงจะเดินได้เป็นปกติ ถ้าหากรัฐบาลมุ่งหน้ามุ่งตาปรับการบริหารบ้านเมืองตามครรลองครองธรรมเอื้อ ประโยชน์ให้กับประชาชน เอื้อประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมือง รัฐบาลถึงจะอยู่บริหารประเทศต่อไปได้ แต่ถ้าหากมีเหตุใดเหตุหนึ่งในการเอื้อผลประโยชน์ให้กับผู้อื่น ๆ หรือ คนหนึ่งคนใด หรือ ให้กับกลุ่มพวกพ้อง รับรองได้เลยว่าบ้านเมืองจะเกิดความวุ่นวายไม่เกิน 3-6 เดือน ดังนั้นบ้านเมืองควรจะต้องช่วยกันดูแล และพัฒนากัน ช่วงนี้ไม่น่าจะทำอะไรให้เกิดความขัดแย้ง        
ส่วนโอกาสที่จะมีอัศวินขี้ม้า ขาวอย่างอักษร ป.ปลา หรือ นายทหาร ป. ที่เคยระบุไว้นั้น นายวารินทร์ กล่าวว่า คนอักษร ป.ปลา คนปัจจุบัน ก็ยังคงปฏิบัติงานตามหน้าที่ของเขาอยู่ ถ้าเกิดเหตุนอกจากที่ตนเคยบอกไปแล้ว ก็อาจจะกลุ่มคนหลายคน รวมถึงอักษร ป.ปลา ที่ว่านี้ ก็อาจจะมารวมตัวกันและช่วยกันประคองชาติบ้านเมือง ตนยืนยันเหมือนเดิม  แต่ถ้าหากตอนนี้ มีการดำเนินการของกลุ่มที่มีอำนาจในปัจจุบัน หรือรัฐบาล ที่จะประคับประครองประเทศชาติ ก็สามารถไปรอด หากมีเหตุการณ์ตรงนี้เกิดขึ้น ส่วนดวงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้น ยังไม่มีอะไร เพียงแต่กลัวคนใกล้ตัวมากกว่าที่จะมาสร้างความยุ่งยาก หรือสร้างความวุ่นวายให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถ้าคนอื่นมาสร้างปัญหาให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะทำให้เกิดปัญหารุนแรงเกิดขึ้นได้  ดังนั้นต้องอย่าทำให้เป็นเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง รัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหารชาติบ้านเมืองก็จะต้องควบคุมให้ดี     
สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ​ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีโอกาสจะได้กลับประเทศไทยในปี 2556 หรือไม่นั้น นายวารินทร์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ดูในรายละเอียด แต่ตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาประเทศไทยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าหากจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาอยู่ประเทศไทอย่างถาวรนั้นยังไม่ถึงเวลา คงจะต้องอีกระยะหนึ่ง ส่วนการดูแลความมั่นคงโดยเฉพาะตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกนั้น กองทัพถือเป็นเสาหลักของชาติบ้านเมืองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กองทัพเป็นหลักของบ้านเมืองและมีหน้าที่ดูแลชาติบ้านเมือง เมื่อเกิดเหตุอะไรกองทัพก็จะเข้าไปดูแลทันที ไม่ว่าจะภัยธรรมชาติทหารก็จะออกมาดูแลอย่างเต็มที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงทำหน้าที่ดูแลงานความมั่นคงในปีหน้าปกติ.

แนะ “คุณชายหมู” ไขก๊อกหนีปมร้องเรียน


วันนี้ (2 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธาน กกต.กทม. เปิดเผยภายหลังประชุม กกต.กทม. เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า ผู้ว่าฯ กทม. จะครบวาระในวันที่ 10 ม.ค. นี้ หาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. อยู่จนครบวาระ กกต. จะมีเวลาจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน และกำหนดเบื้องต้นไว้วันที่ 17 ก.พ. 56 แต่หาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลาออกก่อนครบวาระ กกต. จะมีเวลาจัดการเลือกตั้งเพิ่มเป็น 60 วัน ดังนั้นน่าจะกำหนดวันเลือกตั้งได้ในวันอาทิตย์ที่ 3 มี.ค. 56
“เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาร้องเรียนและสุ่มเสี่ยงกับการกระทำผิด ตามมาตรา 57 ของกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น จึงอยากขอร้องให้ ม.รว.สุขุมพันธ์ ลาออกก่อนครบวาระ เพราะจะได้หมดปัญหาเรื่องการร้องที่เข้าข่ายการกระทำผิดมาตราดังกล่าว” นายทวีศักดิ์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามในที่ประชุมยังได้หารือกรณีว่าที่ผู้สมัครขึ้นป้ายหาเสียง คู่กับบุคคลสำคัญว่า จะเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ที่ประชุมเห็นว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีข้อห้ามไว้ และว่าที่ผู้สมัครไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง แต่เตือนให้ระมัดระวัง ข้อความหาเสียง เพื่อไม่ให้เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง.

"บิ๊กโอ๋"แจกของขวัญให้ "มาร์ค" พ้นจากราชการ กห.



วันนี้ (2 ม.ค.) พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า วันนี้ (2 ม.ค.) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ 1/2556 เรื่อง การเพิกถอนคำสั่งกระทรวงกลาโหม
โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 ประกอบกับมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.ยศทหาร พ.ศ.2479 และข้อบังคับ กห.ว่าด้วยการบรรจุ ปลด ย้าย เลื่อน และลดตำแหน่งข้าราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2502 หมดว 1 ข้อ 4 (2) จึงให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงกลาโหม ดังต่อไปนี้
1.คำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 720/30 ลง 7 ส.ค. 30 เรื่อง บรรจุบุคคลเข้ารับราชการ เฉพาะในรายหมายเลข 1 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หมายเลขประจำตัว 6302030807 คุณวุฒิ Bachelor of Arts (Philosophy, Politics, and Economics) แห่ง University of Oxford ประเทศอังกฤษ เป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร ตำแหน่ง รรก.อจ.ส่วนการศึกษา รร.จปร. (ชกท.2701) (อัตรา พ.ต.) รับเงินเดือน ระดับ น.1 ชั้น 3 (2,765 บาท) นอกนั้นคงเดิม
2.คำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 339/31 ลง 26 เม.ย. 31 เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการกลาโหมพลเรือนเป็นนายทหารสัญญาบัตร เฉพาะในรายหมายเลข 1 ว่าที่ ร.ต.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หมายเลขประจำตัว 6302030807 รรก.อจ.ส่วนการศึกษา รร.จปร. (เหล่า สบ.) นอกนั้นคงเดิม
ทั้งนี้คำสั่งในข้อ 1 ตั้งแต่ 7 ส.ค. 30 และข้อ 2 ตั้งแต่ 26 เม.ย. 31

ไฟเขียวแจ้งข้อหาบิ๊ก "กทม." ปมต่อสัญญาบีทีเอส


วันนี้ (2 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงผลการสอบสวนกรณีการเข้าทำสัญญาว่าจ้างการให้บริการเดินรถและ ซ่อมบำรุงโครงการขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ระหว่างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ว่า คณะทำงานได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานแล้วมีมติร่วมกันให้ดำเนิน การแจ้งข้อหาแก่ผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารบริษัท กรุงเทพธนาคม และผู้บริหารบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ร่วมกันประกอบกิจการรถรางโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือได้ รับสัมปทานจาก รมว.มหาดไทย ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ลงวันที่ 26 ม.ค. 2515 ข้อ 3,4,11 และ 16 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 ,83,84 และ86 เนื่องจากมีพยานหลักฐานสำคัญคือหนังสือยืนยันอำนาจดำเนินกิจการเกี่ยว กับรถรางเป็นของ รมว.มหาดไทย โดยพนักงานอัยการได้ให้ความเห็นชอบในการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องจำนวน 11 ราย มาสอบปากคำ และในวันนี้ (2 ม.ค.) ตนได้ลงนามส่งหมายเรียกให้ทั้งหมดเข้าพบในวันที่ 9 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 09.00 – 15.00 น.

นายธาริต กล่าวต่อว่า  กรณีดังกล่าวนอกจากเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายอาญาแล้วยังเกิดความเสียหายทาง แพ่งจากสัญญาที่มีการขยายสัมปทานออกไป  จึงได้ทำหนังสือถึง รมว.มหาดไทย ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการตามหน้าที่เพื่อให้ใช้สิทธิในการบอกเลิก สัญญาที่ทำขึ้นใหม่หรืออาจสั่งให้ผู้ว่าฯ กทม. ยกเลิกสัญญาแทน ทั้งนี้ยอมรับว่าหากสัญญาถูกยกเลิกอาจกระทบกับผู้ที่ซื้อ หุ้นไปก่อนหน้านี้แน่นอน แต่ทั้งหมดเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผู้ที่ไม่ดำเนินการตามกฎหมาย  อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอยืนยันว่าไม่ได้ทำคดีตามใบสั่งของฝ่ายการเมือง แต่ดำเนินคดีตามขั้น ตอนที่กฎหมายกำหนด ซึ่งไม่สามารถกลั่นแกล้งหรือช่วยเหลือใครได้ ส่วนกรณีที่ระบุว่าจะฟ้องร้องกลับพนักงานสอบสวนฐานปฏิบัติงานเกินอำนาจ หน้าที่นั้น ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะมีข้อเท็จจริงให้พิจารณารับฟ้องหรือไม่  แต่ขอแนะนำเอาเวลาไปหาข้อเท็จจริงเพื่อแก้ข้อกล่าวหาจะดีกว่า       

สำหรับรายชื่อบุคคลที่ถูกออกหมายเรียกแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 11 คน ประกอบด้วน 1.ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. 2.นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. 3.นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัด กทม. 4.นางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัด กทม. 5.นายธนา วิชัยสาร ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. 6. นายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ  ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพธนาคม 7.นายอมร  กิจเชวงกุล  กรรมการ ผอ.บริษัท กรุงเทพธนาคม 8.นายคีรี  กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ 9.นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผอ.ใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ 10. บริษัท กรุงเทพธนาคม และ 11. บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ

งัดแบงค์ธกส.กวาดเกือบ 8 แสน


เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 2  ม.ค.  ร.ต.ต.พิชิต ขาวสุวรรณ ร้อยเวร สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขา อ.ท่าชนะ เบื้องต้นพบว่าคนร้ายได้งัดเข้าไปภายในธนาคารแล้วขโมยเงินในตู้เอทีเอ็มได้ ทรัพย์สินเป็นเงินสด จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ต.เกียรติพงษ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.พรศักดิ์ นวนหนู รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ชินวัตร เปร่มสง่า ผกก.ท่าชนะ
ที่เกิดเหตุ เป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 2 คูหา เลขที่ 242  หมู่ 4 ต.ท่าชนะ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลท่าชนะ เป็นที่ตั้งของสำนักงานธกส.สาขาท่าชนะ  ที่ประตูด้านหลังอาคาร ซึ่งทำด้วยไม้และมีเหล็กดัด มีร่องรอยถูกงัดออก ส่วนเหล็กดัดถูกตัดเป็นช่องโหว่ด้วยเครื่องตัดแก๊ส นอกจากนั้นยังพบว่าระบบกล้องวงจรปิดที่เชื่อมสัญญาณด้วยระบบอินเทอร์เน็ตถูก คนร้ายตัดสายสัญญาณและนำเครื่องบันทึกข้อมูลออกจากคอมพิวเตอร์ ส่วนระบบแจ้งเหตุซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ส่งสัญญาณที่เชื่อมต่อกับสถานีตำรวจ ทั้ง 2 ตัวถูกเปลี่ยนทิศทางทำให้ไม่ทำงาน และที่ลิ้นชักใส่เงินตู้เอทีเอ็ม มีร่องรอยการใช้เครื่องตัดแก๊ส ตัดเหล็กกล่องบรรจุธนบัตรซึ่งมีจำนวน 5 กล่อง มีร่องรอยถูกลางออกไปจากธนาคาร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า มีกล่องบรรจุเงิน จำนวน 5 กล่อง ถูกทิ้งไว้บริเวณสวนปาล์มน้ำมันห่างจากที่ทำการธนาคาร ไปประมาณ 50 เมตร จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กองพิสูจณ์หลักฐานได้เก็บลายนิ้วแฝงเพื่อใช้เป็นพยาน หลักฐานต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ต.กียรติพงศ์กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าเวลาที่คนร้ายก่อเหตุเวลา 02.54 น.ของวันที่ 1 ม.ค.56 เงินสดที่คนร้ายได้ไปมีจำนวน 741,300 บาท ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 3 คน โดย 1 ในคนร้ายทำหน้าที่ดูต้นทาง เชื่อว่าคนร้ายจะต้องมีความชำนาญและทราบความเคลื่อนไหวของธนาคารเป็นอย่างดี โดยเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคาร ซึ่งคนร้ายทราบวิธีการจัดการเป็นอย่างดี รวมถึงเลือกลงมือขณะที่เป็นเวลาช่วงรอยต่อของปีใหม่ ที่ประชาชนส่วนใหญ่ต่างฉลองเทศกาลกันอย่างคึกคักทำให้บริเวณธนาคารปลอดคน คาดว่ากลุ่มคนร้ายใช้เวลาอยู่ที่ธนาคารและบริเวณที่เกิดเหตุนานพอสมควร
อย่างไรก็ตามได้เร่งรัดสั่งการให้มีการตรวจสอบกล้องวงปิดตามถนนเส้นต่าง ๆ ในเขตเทศบาลท่าชนะ และตามเส้นทางหลบหนีเพื่อหาเบาะแสกับยานพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นการ เร่งด่วนแล้ว

ตะครุบ3หนุ่มข่มขืน2แหม่มรัสเซีย


ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 2 ม.ค. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายอเล็กซ์เซย์ บูดานอฟ รองกงสุลประจำสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. และพล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2  แถลงผลการจับกุมนายวิเชียร หรือบังฟี ใจจา อายุ 35 ปี ชาวชลบุรี  นายธงชัย หรือโก๋ จันทร์ดี อายุ 20 ปี และนายอนุวัตร์ หรือเค วัดอ่อน อายุ 32 ปี ชาวพิษณุโลก พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก รถยนต์กระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บธ-7200 ชลบุรี กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย 1 เครื่อง อาวุธมีด 1 เล่ม กระเป๋าสะพายรูปจระเข้ 1 ใบ เงินสด 1,320 บาท  เงินสิงคโปร์ 7 ดอลล่าร์ สร้อยทองเหลือง 1 เส้น และกุญแจต่างๆ รวม 51 ดอก

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายทั้ง 3 คน ใช้อาวุธปืนและอาวุธมีด จี้บังคับนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซีย 2 คน บริเวณถนนพระตำหนักซอย 2 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยพาขึ้นรถคันดังกล่าว และทำการปล้นทรัพย์จากนั้นได้พาผู้เสียหายทั้งสองไปข่มขืนกระทำชำเราก่อนหลบ หนีไป ทางผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความดำเนินคดีที่สภ.พัทยา 
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นการปฏิบัติร่วมกันภายใต้การควบคุมของของพล.ต.อ.ปานศิริ  โดยภายหลังเกิดเรื่องได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่จนสามารถจับ กุมคนได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้สั่งการให้เยียวยาผู้เสียหายอย่างเต็มที่ โดยผู้เสียหายได้เขียนการ์ดส.ค.ส.ขอบคุณตำรวจไทยที่สามารถจับกุมคนร้ายได้

ทางด้านพล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ติดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ร่วมกับหลักฐานสำคัญอื่น เช่น รถกระบะ อาวุธปืนและมีด จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องการทั้งสามได้ในที่สุด โดยเจ้าหน้าที่จับกุมนายวิเชียรได้ที่โรงแรมบลูไดม่อนด์ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และขยายผลจับกุมนายธงชัยได้ขณะถูกควบคุมตัวที่สภ.พัทยาในข้อหายาเสพติด และจับกุมนายอนุวัตร์ ขณะฟื้นฟูยาเสพติดที่เรือนจำชลบุรี ทั้งนี้ จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยนายวิเชียรและนายธงชัยเป็นผู้ลงมือข่มขืน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายวิเชียรมีหมายจับของศาลจังหวัดกำแพงเพชรในคดี พยายามฆ่า ส่วนนายธงชัยมีหมายจับในข้อหายาเสพติดด้วย

ขณะที่พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุมีคราบเลือดที่ติดในเศษกระเบื้อง และเส้นผมคนร้ายตกอยู่ 2 เส้น มีก้นบุหรี่ที่สูบทิ้งไว้  เมื่อนำมาตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์พบว่าตรงกับผู้ต้องหา ทั้ง 3 ราย พร้อมทั้งผู้เสียหายได้ชี้ตัวยืนยันผู้ต้องหาและยืนยันว่ารถกระบะของกลาง เป็นคันที่ใช้ก่อเหตุจริง นอกจากนี้ พบคราบอาเจียนของผู้เสียหายข้างประตูรถฝั่งด้านซ้าย และเส้นผมตกอยู่ในรถ เมื่อนำมาตรวจสอบพบว่าเป็นหลักฐานเชื่อมโยงกับที่ผู้เสียหายให้การไว้ว่าถูก คนร้ายอุ้มขึ้นรถ และเมื่ออยู่ในรถได้อาเจียนออกมาขณะอยู่บนรถ พบคราบอสุจิและเลือดของผู้เสียหายที่ติดเสื้อของผู้ต้องหา เมื่อเชื่อมโยงพยานหลักฐานทั้งหมดแน่นหนามาก หากคนร้ายปฏิเสธก็สามารถเอาผิดได้

ส่วนนายวิเชียร กล่าวว่า นายธงชัยเป็นคนชวนให้ก่อเหตุ โดยอ้างว่าจะพาไปหาเงิน แต่พอทราบว่านายธงชัยได้ชวนมาปล้นทรัพย์จึงได้ร้องห้าม แต่ไม่ทันการณ์ โดยเงินที่ได้นำไปใช้จ่ายทั่วไป และครั้งนี้ตนได้ก่อเหตุเป็นครั้งแรก ไม่คิดจะข่มขืน แต่ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ตนรู้สึกเสียใจและอยากจะขอโทษผู้เสียหายทั้งสองคน

ทางด้าน นายอเล็กซ์เซย์กล่าวว่า ขอขอบคุณตำรวจไทยที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยความที่เป็นมืออาชีพ และขอให้ปกป้องนักท่องเที่ยวตลอดไป

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้อื่น โดยมีหรือใช้อาวุธปืนและยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีหรือใช้อาวุธปืนพาหญิงอื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำหลังประทุษร้าย ข่มขืนผู้อื่นให้กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ ถูกข่มขืนจำยอมต่อสิ่งนั้นโดยมีอาวุธ หน่วงเหนี่ยวหรือกังขังผู้อื่นหรือทำให้ปราศจากเสรีภาพในการร่างกาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไมได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่ บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าวนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเทศเมืองพัทยาได้มอบกระเช้าดอกไม้ขอบคุณผบ.ตร.และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว และผบ.ตร.ได้มอบเงินรางวัลให้กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมด้วย

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources