วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

ทุกหัวใจปลาบปลื้ม ย้อนยุคเรโทร ดื่มด่ำเพลงระดับตำนาน ธานินทร์


ประสบความสำเร็จเหนือคำบรรยาย แม้จะเป็นศิลปินเก่า แต่ก็ได้รับการขานรับจากแฟนเพลงรุ่นเก๋าแห่เข้าชมจนแน่นขนัด สำหรับคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีของ ธานินทร์ อินทรเทพ ใน “นี่คือฉันเอง ดีส อีส มี! ธานินทร์ ไลฟ์ อิน คอนเสิร์ต” ที่เพิ่งจบไปหมาด ๆ ณ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว

บรรยากาศในเย็นวันนั้นคลาคล่ำไปด้วยบุคคลระดับบิ๊ก ๆ และอมตะของวงการบันเทิง อาทิ ลลนา สุลาวัลย์, วิยะดา อุมารินทร์, ปิยะ ตระกูลราษฎร์, ยอดชาย เมฆสุวรรณ, วินัย พันธุรักษ์ เป็นต้น โดยความรู้สึกไม่ต่างอะไรไปจากงานเลี้ยงรวมรุ่นทีเดียว เพราะแม้ไม่ได้เจอหน้ากันมานาน แต่ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของหัวใจแต่ละดวงที่ชื่นชอบแนวเพลงรุ่นเก่า และติดตามผลงานของเขาผู้นี้มาตั้งแต่คราหนุ่มสาว หลังเปิดเวทีปุ๊บ ธานินทร์ อินทรเทพ ก็ทักทายแฟนเพลงด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึกบาดอารมณ์ ด้วยบทเพลงอมตะ ’ฝากเพลงถึงเธอ“ เรียกเสียงปรบมือจากแฟนเพลงได้ดังกึกก้อง เพราะนอกจากจะอินไปกับน้ำเสียงและบทเพลงแล้ว ความสมบูรณ์ของระบบแสง สี เสียง ยังอลังการงานสร้างด้วย ก่อนจะส่งเพลงไพเราะต่อเนื่องเอาใจแฟน ๆ แบบจัดหนัก อาทิ ’คิดถึงเธอทุกลมหายใจ”, “แจกันรัก”, ’รักเอย”, ’เหมือนคนละฟากฟ้า“ ตามด้วยการร่วมแจมของแขกรับเชิญ ไม่ว่าจะเป็น หทัยชนก สวนศรี เมดเล่ย์เพลง ’ผมถูกใส่ร้าย + จับกระแต“ และร่วมร้องกับ อิสริยา คูประเสริฐ ใน ’รักใต้ร่มไทร“ ก่อนจะได้ ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ออกมาแจมดนตรีจากใน ’ทานตะวัน“ และ ’นกขมิ้น“ แล้วปิดท้ายช่วงแรกด้วย ’ศาลาหัวใจ” และ ’เพ็ญโศภา” จากนั้น ธานินทร์ ก็กระชับความสัมพันธ์กับแฟนเพลงด้วยบทเพลงอมตะอย่าง ’โอ้รัก“, ’น้ำตาร่วงหลังพวงมาลัย“, ’เหมือนไม่เคย“, ’หน้าเนื้อใจเสือ“ ตามมาด้วยการหยิบเพลงของรุ่นน้อง แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์ มาขับขานด้วยลีลาน้ำเสียงสุดระทมอย่าง ’แสนรัก“ และ “ห้องสีขาว” และมาปิดฉากอำลาด้วย 2 เพลงที่อยู่ในใจแฟนเพลงตลอดกาล ’ทำไมถึงต้องเป็นเรา“ และ’ฉันวันนี้“ เพื่อเป็นการยืนยันเจ้าของตำแหน่งศิลปินยิ่งใหญ่และครองใจแฟนเพลงได้ยาวนานจริง ๆ และจะอยู่ในความทรงจำของแฟนเพลงไปอีกยาวนานอีกด้วย.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

'เบลล์' ฟุ้ง 'แบงค์' หวง คอยสกรีนห้ามแต่งตัวเซ็กซี่


เพราะเป็นหนึ่งในสมาชิกวงวงเกิร์ลกรุ๊ปอย่างเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ ที่มีคอนเซปต์วงเซ็กซี่สำหรับสาว “เบลล์-มนัญญา ลิ่มเสถียร” เลยทำให้การแต่งตัวเวลาขึ้นคอนเสิร์ตงานต่าง ๆ ก็ค่อนข้างเซ็กซี่เช่นกัน งานนี้ไม่รู้หวานใจ “แบงค์-อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม” จะขอสกรีนการแต่งตัวสาวเบลล์หรือเปล่า ล่าสุดเจอตัวสาวเบลล์เลยคว้าตัวมาอัพเดตงานเพลงซิงเกิ้ลใหม่แล้วก็เรื่องความรักว่าแฮปปี้ดีหรือเปล่า เจ้าตัวเลยเปิดใจให้ฟังทั้งหมด

เบลล์ เผยว่า “รายการบิวตี้บีเบลล์ ช่อง 8 วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 18.20-18.30 น. ฟีดแบ็กดีมาก ที่เข้ามาเหมือนกับเป็นการแชร์ความรู้ เทคนิค เวลามีคำถามก็จะมาถามเรา แล้วก็จะมีน้อง ๆที่มีความรู้เรื่องนี้เข้ามาตอบ” ตอนแรกเหมือนมีความกดดันนิดนึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนงานหรือว่าเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ” ตอนนี้ถือว่าลงตัวหรือยัง? “ต้องบอกว่ากดดันมาก เราเป็นนักร้องมาสิบปีก็จริงแต่เป็นนักร้องอย่างเดียว พิธีกรก็น้อยมากที่จะได้ทำ แต่นี้ให้เราเป็นผู้จัด ให้ลงไปวิ่งหาลูกค้าเอง ให้มาวางผังรายการเองไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด” ทำไมถึงเลือกทำรายการความสวยความงาม? “มันใกล้ตัว ตื่นขึ้นมาปุ๊บเราก็ต้องทาครีมล้างหน้า แต่งหน้าออกจากบ้าน มันเป็นอะไรที่เราต้องทำทุกวัน ความสวยกับคนที่ดูแลตัวเองเป็นของคู่กันค่ะ”

เรื่องของกำลังใจแบงค์ช่วยอะไรบ้าง? “เวลามีปัญหาอะไร เราก็จะไปปรึกษา เขาจะคอยสอนเราว่าเขาไม่ได้มีประสบการณ์เยอะหรอกนะ เราลงไปคุยกับคนนี้ไหม ลองปรึกษากับคนนี้ไหม ให้แนวทาง ให้กำลังใจ พาไปเจอลูกค้า เขาจะช่วยเรามาก ๆ” เรียกว่าตอนนี้ทั้งงานและความรักราบรื่นดี? “เบลล์ว่าทุกอย่างไม่มีอะไรราบรื่นที่สุด การงานก็ไม่ได้ราบรื่น ความรักก็ไม่ได้ราบรื่น แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างมันมีอุปสรรคขึ้นอยู่กับว่าเราผ่านไปได้มั้ย” อุปสรรคไม่เยอะใช่ป่ะความรัก? “มันก็เรื่อย ๆ ค่ะ เมื่อคืนก็ทะเลาะกัน (หัวเราะ) ล้อเล่น มันมีบ้าง แต่มันขึ้นอยู่กับใจเรา เดี๋ยวนี้ทุกคืนอ่านหนังสือธรรมะตลอด” คบกับแบงค์ถึงกับต้องอ่านหนังสือธรรมะ? “ไม่ใช่ คือเราอ่านแล้วสามารถนำมาใช่ได้จริง ไม่ใช่แค่เรื่องความรักอย่างเดียว ใช่ได้ทุกเรื่องในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน หรือว่าเรื่องเพื่อน ครอบครัว”

ส่วนใหญ่สาเหตุอะไรที่ทำให้ทะเลาะ? “มันเป็นเรื่องแบบว่าหิวข้าว หงุดหงิดอะไรแบบนี้ เบลล์ว่าทุกคนเป็นนะ หิวข้าวแล้วทำให้อารมณ์เสีย หรือว่าอากาศร้อนมาก ๆ ทำให้อารมณ์ไม่ดี ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อยมากกว่า” มีทะเลาะกันด้วยเรื่องผู้หญิงบ้างมั้ย? “ไม่มีนะเท่าที่เรารู้ เราก็สบายใจ” เรื่องของความเซ็กซี่ของเราล่ะเขามีบ่น มั้ย? “มีเรื่อย ๆ ค่ะ” อย่างซิงเกิ้ลใหม่ของเราออกมาเขามีถามเรื่องเสื้อผ้าของเรามั้ย? “เขามีเช็กเรื่อย ๆ ค่ะ ชุดไปเล่นคอนเสิร์ตเป็นยังไง ชุดคอนเซปต์เป็นอย่างไร”

มีบอกมั้ยว่าเยอะไปนะ? “มีบ้าง แต่เขารู้ว่าเป็นเรื่องของหน้าที่การงานเขาก็จะไม่เข้ามาก้าวก่าย แต่ว่าถ้าเป็นชุดไปเที่ยว เราจะรู้ว่าเขาไม่ชอบอันนี้ อันนี้แต่งได้ อันนี้ไม่ควรแต่ง” ดูแบงค์น่าจะเป็นคนชอบสาวเซ็กซี่นะ? “ใช่ ชอบมอง”แต่ไม่ชอบให้แฟนแต่ง ? “ใช่ ไม่ชอบเลยจริง ๆ” ค่อนข้างจะหวง? “หวงมากเลยล่ะ หนูรู้สึกนะ ด้วยความที่เขาเป็นคนช่างสังเกต เขาจะสังเกตผู้หญิงแต่ละคน ชอบสังเกตปฏิกิริยาคนที่เดินรอบข้าง เขามาบอกเราว่า มันเป็นปกติของผู้ชายที่ชอบมองผู้หญิงที่แต่งตัวเซ็กซี่ เขาก็เลยไม่อยากให้เราแต่งตัวแบบนั้น” มีถามเวลาแต่งตัวขึ้นคอนเสิร์ตต่าง ๆ มั้ย? “เขาถามอยู่แล้วว่าคอนเซปต์อย่างไรบ้าง เราก็บอกเลยว่ากระโปรงชั้นแรก กางเกงขาสั้นตัวที่สอง กางเกงซับตัวที่สาม และก็กางเกงชั้นในเป็น 4 ชั้น เขาโอเค พอเถอะ 4 ชั้นจะใส่อะไรอีกไม่มีที่จะใส่แล้วใส่  4 ชั้น มันดูอ้วนแล้ว (หัวเราะ)”.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

สายป่าน กดดัน กลัวคนดูไม่อิน ยก ไอมิสยู ท้าทายในบท คุณหมอ


แม้จะผ่านงานหนังมาหลากหลายบทบาท แต่ “สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข” ก็ออกอาการกดดันไม่น้อย เมื่อถูกเลือกให้มารับบท “หมอบี” ตัวแปรสำคัญที่นำพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “รักสามเส้า” ที่เส้าหนึ่งเป็นผี เส้าหนึ่งเป็นคน และอีกเส้าหนึ่งคือคนที่อยู่ตรงกลางระหว่างคนกับผีและในภาพยนตร์โรแมนติกสุดหลอน “ไอมิสยู รักฉัน อย่าคิดถึงฉัน” กำกับการแสดง โดย “อ๊อฟ-มณฑล อารยางกูร” โดย “สายป่าน” เผยถึงความท้าทายครั้งใหม่ให้เราฟังว่า

“ต้องบอกก่อนเลยค่ะ ว่าป่านเป็นคนขี้กังวลกลัวคนดูจะไม่อินกับบทบาทที่ตัวป่านเล่น อันนี้เป็นความรู้สึกทุกครั้งที่เราได้ทำงานชิ้นใหม่ ก่อนเปิดกล้องถ่ายทำเรื่องนี้ ป่านก็จะเกิดความประหม่ามาก จนทำอะไรไม่ถูก ป่านต้องใช้วิธีพูดคุยกับ พี่อ๊อฟ (มณฑล) ผู้กำกับฯ ซึ่งเรื่องที่คุยก็เป็นเรื่องทั่วไป สัพเพเหระไม่ใช่เรื่องบทที่ได้เล่น ก็ช่วยให้ป่านลดความประหม่าและมีความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาบ้าง

บทนี้ป่านว่ามันค่อนข้างน่าสนใจ เพราะคาแรกเตอร์หมอบีดูเหมือนจะมีความซับซ้อนพอสมควร มุมหนึ่งก็เป็นคนสดใสน่ารัก มองโลกในแง่ดี แต่อีกมุมหนึ่งก็มีความมืดที่แฝงร้ายกาจไว้ในตัว ในฐานะ นักแสดงมันท้าทายป่านก็ตรงที่มันเป็นบทที่ป่านไม่เคยแสดงมาก่อน แล้วยังมีเรื่องของจิตใต้สำนึกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถือเป็นการบ้านใหญ่สำหรับสายป่านเลยค่ะ”.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

“โรเบิร์ต เดอ นีโร” ทุ่มสุดตัว ศึกษาชีวิต คนเร่ร่อน “บีอิ้ง ฟลินน์”


การกลับมาพลิกบทบาทครั้งสำคัญของนักแสดงสุดเก๋าอย่าง “โรเบิร์ต เดอ นีโร” กับผลงานภาพยนตร์คอมเมดี้-ดราม่าเรื่องล่าสุด “บีอิ้ง ฟลินน์” หรือที่มีชื่อภาษาไทยว่า “อย่าให้ฝันหวานบินหนี” ภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวของสายสัมพันธ์ที่เปราะบางระหว่างพ่อลูก  ซึ่งดัดแปลงมาจากอนุทินปี 2004 ของ “นิค ฟลินน์” จากผลงานการกำกับ “พอล ไวซ์” โดยงานนี้นักแสดงมากฝีมือ โรเบิร์ต เดอ นีโร ทุ่มสุดตัวสวมบทบาท  โจนาธาน ฟลินน์ นักเขียนระดับปรมาจารย์ที่ต้องกลายมาเป็นคนตกอับ โดย “โรเบิร์ต เดอ นีโร” ได้เผยถึงบทบาท “โจนาธาน ฟลินน์” ที่เขาได้รับว่า…

“โจนาธาน เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง เขารักงานเขียนมากกว่าลูกและภรรยา จนในที่สุดเขาตัดสินใจทิ้งทุกอย่างเพื่อทุ่มเทให้กับงานเขียนของเขา แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตเขาก็ได้พบกับความล้มเหลว  ต้องติดคุก ติดเหล้า แถมยังตกงานกลายเป็นคนร่อนเร่พเนจร สิ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่คือ นิค ลูกชายที่เขาทอดทิ้งมาเกือบ 18 ปี มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่อยู่ ๆ เขาต้องกลับเข้าไปในชีวิตของลูกชายที่เขาทอดทิ้งมา เขาไม่รู้หรอกว่าลูกจะยอมรับและให้อภัยกับสิ่งที่เขาได้ทำลงไปหรือไม่ ผมได้มีโอกาสได้พบกับ โจนาธาน ฟลินน์ ตัวจริงเสียงจริง เขาเล่าเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาให้ผมได้ฟัง มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก เพราะตัว โจนาธาน ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาอย่างสุดโต่ง มีทั้งเรื่องตลกขบขัน ความหดหู่ ความอดทนที่ต้องต่อสู้กับการโดนดูถูกเหยียดหยาม ความล้มเหลว แต่เขาก็สามารถผ่านมันมาได้จนถึงทุกวันนี้

ผมพยายามใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด ของการเป็น โจนาธาน การไว้ผมยาวรุงรัง ไว้เล็บดำขรุขระเพื่อให้สมกับบทบาทคนเร่รอน บ่อยครั้งที่ผมเดินทางไปบอสตันเพื่อไปสำรวจสถานที่พักพิงที่เป็นต้นกำเนิดของเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อไปสังเกตว่าคนเหล่านั้นใช้ชีวิตกินอยู่หลับนอนกันอย่างไร ผมพยายามถ่ายทอดตัวตนของ โจนาธาน ให้ออกมาดีที่สุด เพื่อเป็นการให้เกียรติเขา ที่ให้เราหยิบยกเรื่องราวของเขามาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ ในขณะที่เจ้าตัวยังมีชีวิตอยู่ แน่นอนว่าผมต้อง
ทำอย่างเต็มที่เพราะผมตกหลุมรักในความซับซ้อนของตัวละครตัวนี้ มันอาจจะเป็นเรื่องราวที่ทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความรักความผูกพันของสายสัมพันธ์ครอบครัว ที่ผมเชื่อว่ายังไงซะมันก็ไม่มีทางตัดกันขาดอย่างแน่นอน...” โจนาธาน กล่าว.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

จ๋า - ณัฐฐา คืนจอ ฟุ้งบทผี ไม่ง่าย


ห่างหายจากการเล่นหนังไปพักหนึ่ง สำหรับนางเอกสาวมากความสามารถ “จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ทองมี” ล่าสุดขอหวนกลับมาอีกครั้งกับบท “ผี” ในเรื่อง “ไอมิสยู รักฉัน อย่าคิดถึงฉัน” ที่จะพาคุณไปสัมผัส ความคิดถึง” …ที่เกินวันตาย ท่ามกลางกลิ่นอายความรัก ความหลอน… อย่างโรแมนติก ประกบคู่กับพระเอกมาดแมน “ติ๊ก-เจษฎาภรณ์” โดย “จ๋า” เผยถึงการกลับมาสร้างความสยองขวัญใน ครั้งนี้ว่า

“เรื่องนี้จ๋ารับบทผีที่เป็นผีจริง ๆ เลย ไม่ใช่โดนผีอำ หรือ โดนผีสิง แต่เป็นผีตัวเป็น ๆ ปกติจ๋าจะไม่รับบทแบบนี้ ส่วนตัวคือไม่ชอบ ไม่ใช่กลัว แต่รู้สึกว่าตัวเองไม่อยากเป็นผี เพราะที่ผ่านมา จ๋าคิดไปเองว่าผีเนี่ย มักไม่ค่อยได้อารมณ์อะไรเท่าไหร่ ก็เลยทำให้จ๋าเองไม่อยากจะเล่นเป็นผี แถมยังมีจินตนาการไปอีกว่าจะต้องเป็นผีที่ออกมาหลอกหลอน แบบนั้นยิ่งไม่ใช่ ไม่เอา ไม่เล่น

แต่เรื่องนี้ที่รับเล่น เพราะบทน่าสนใจ เป็นผีที่ต้องเล่นเหมือนคน แต่อาจจะมีบางอารมณ์ที่ต้องนิ่งสงบอย่างที่คาดเดาไม่ได้รู้สึกอะไร โกรธหรือเกลียดอะไร มากกว่าคน มันท้าทาย มันไม่ได้ง่ายเลย หนึ่งคือเป็นผี สอง คือ ดราม่าทั้งเรื่อง จะว่าเป็นมันก็เป็นเรื่องความรักที่รักแบบสามเส้า เส้าหนึ่งเป็นผี เส้าหนึ่งเป็นคน และอีกเส้าหนึ่งคือคนที่อยู่ตรงกลางระหว่างคนกับผี แต่เรื่องนี้จะสนุกสนานแค่ไหน เข้มข้นครบรส และมีความโรแมนตกที่เจือปนความสยองขวัญแค่ไหนอันนี้ต้องไปพิสูจน์กันนะคะ” จ๋า กล่าว.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

อัพเดทหนังใหม่ วันที่ 25 เมษายน 2555


เซฟ โคตรระห่ำ ทะลุรหัส
แนวแอ๊คชั่น, ทริลเลอร์, อาชญากรรม
ผู้กำกับบอซ ยาร์กิน
นักแสดงเจสัน สเตทแธม, เจมส์ หงส์, วิคเตอร์ พาร์แกน,เรดจี้ จี
กำหนดฉาย 26 เมษายน 55
เรื่องย่อ

เจสัน สเตทแธม กลับมาบู๊อีกครั้งในหนังเรื่องใหม่ของเขาอย่าง เซฟ กับเรื่องราวในเมืองสุดโหด ที่ถูกปกครองไปด้วยทั้งมาเฟีย, ตำรวจโกงกิน และ เหล่าแก๊งยากูซ่า แต่เป้าหมายทั้งหมดของพวกมันกลับไปจดจ้องอยู่กับที่เด็กน้อยเพียงคนเดียว เพราะเธอนั้นมีรหัสที่จะสามารถปลดเซฟที่กุมเงินอยู่ถึงหลายล้านดอลลาร์ จึงทำให้เดือดร้อนไปถึงพระเอกของเราอย่าง เจสัน สเตทแธม ที่ต้องเข้าไปเสี่ยงตายเพื่อช่วยเด็กสาวคนนี้ไว้ให้ได้
แหกคุกกลางอวกาศ
แนวแอ๊คชั่น, ทริลเลอร์, ไซไฟ, ลึกลับ
ผู้กำกับเจมส์ แมตเตอร์, สตีเฟ่น เซนต์ ลีเจอร์
นักแสดงกาย เพียร์ซ, แมกกี้ เกรซ, ปีเตอร์ สตอแมร์, เลนนีเจมส์
กำหนดฉาย 26 เมษายน 55
เรื่องย่อ

เป็นเรื่องราวของ เอ็มเอส-วัน ยานอวกาศที่ล้ำสมัยที่สุดแห่งโลกอนาคต ที่อาชญากรสุดอันตรายกว่า 500 คน ถูกขังเอาไว้ในสภาวะจำศีล อย่างไรก็ตามเมื่อ เอมิลี่ ลูกสาวประธานาธิบดีสหรัฐ ขึ้นไปปฏิบัติภารกิจเรื่องสิทธิมนุษยชน เหล่านักโทษก็ตื่นขึ้นมาและยึด เอ็มเอส-วัน เอาไว้ได้ ด้วยเวลาและหนทางที่เหลืออยู่ไม่มาก ประธานาธิบดีจำเป็นต้องส่งอดีตเจ้าหน้าที่ฝีมือดี แต่บ้าระห่ำอย่าง สโนว์ ขึ้นไปบน เอ็มเอส-วัน โดยมีภารกิจเพียงหนึ่งเดียวก็คือ ช่วยลูกสาวของเขากลับมาสู่โลกให้ได้ โดยการที่เขาต้องฝ่าด่านเหล่านักโทษสุดโหดบนยานลำนี้
ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหาริย์
แนวแอนิเมชั่น
ผู้กำกับโกโร่ มิยาซากิ
นักแสดงมาซามิ นางาซาวะ, จูนิชิ โอกาดะ, ยูริโกะ อิชิดะ,จูน ฟูบูกิ
กำหนดฉาย26 เมษายน 55
เรื่องย่อ

เกิดขึ้นในเมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น ในปี 1963 เป็นเรื่องรักที่มีตัวละครเอกเป็นนักเรียนไฮสคูล ผู้กลายเป็นกลุ่มคนญี่ปุ่นใหม่รุ่นแรก ขณะที่ประเทศนี้เริ่มฟื้นตัวจากความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่สอง คนรุ่นใหม่ต้องดิ้นรนกับการก้าวไปสู่อนาคตที่เจิดจรัสแต่ก็พยายามไม่สูญเสียสิ่งต่าง ๆ จากอดีตที่ทำให้พวกเขากลายมาเป็นพวกเขาในวันนั้น

แอนิเมชั่นที่สดใสและเปี่ยมด้วยรายละเอียดของเรื่องถ่ายทอดความงดงามจับตาของท่าเรือโยโกฮาม่าและหุบเขาเขียวขจีรอบด้าน และด้วยซาวด์แทร็กที่นำมาจากดนตรีที่วิเศษที่สุดจากยุคสมัยนั้น ที่ได้ถ่ายทอดความรู้สึกตื่นเต้นของความรักหนุ่มสาวและความหวังของรุ่งอรุณใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
อสรพิษ
แนวดราม่า
ผู้กำกับแดนอรัญ แสงทอง
นักแสดงนนท์พิเชษฐ์ วงศ์ชนกศิริกุล, ปรีชา เกตุคำ, ชยุตพลบำเพ็ญ, ชัยชนะ บุญนะโชติ
กำหนดฉาย26 เมษายน 55
เรื่องย่อ

ณ หมู่บ้านแพรกหนามแดง ที่ตั้งอยู่ในชนบทแถบภาคกลางของไทย ยังมีเด็กชายพิการ ขาแขนข้างขวาลีบแปเพราะตกต้นตาล ความพิการของเขาได้กลายเป็นชื่อฉายาที่ใคร ๆ เรียก เขาคือ แป แปมีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนเพียงชั้น ป.4 และต้องช่วยพ่อแม่ซึ่งมีอาชีพชาวนาและรับจ้าง โดยเลี้ยงวัวอยู่ในท้องนา ครอบครัวของแปมีความขัดแย้งกับทรงวาด ร่างทรงเจ้าแม่แพรกหนามแดงซึ่งเป็นผู้นำที่มีอิทธิพลในท้องถิ่น เนื่องจากพ่อแม่ของเขาไม่เชื่อว่าทรงวาดจะเป็นร่างทรงจริง ทั้งยังขาดความเคารพเชื่อถือทรงวาดดังเช่นคนอื่น ๆ ซ้ำยังต่อต้าน เพราะเห็นว่าทรงวาดนั้นหลอกลวงชาวบ้านและใช้อิทธิพลของตนเพื่อผลประโยชน์ของตน โดยยึดที่ดินสาธารณะมาเป็นที่ดินของส่วนตัว โดยอ้างชื่อเจ้าแม่แพรกหนามแดง และแปเองก็มีเรื่องชกต่อยกับลูกชายเกเรของทรงวาด ทรงวาดจึงเกิดความไม่พอใจต่อเขาและครอบครัวอยู่ไม่น้อย

เย็นวันหนึ่ง แปโชคร้ายถูกงูเห่ายักษ์ออกจากโพรงพุ่งเข้าฉก แต่แปก็ใช้มือข้างเดียวที่มีกำลังคว้าคองูยักษ์นั้นไว้ได้ทัน มันจึงยิ่งทวีความอาฆาต ตวัดรัดร่างของเขาไว้อย่างเหนียวแน่น เขาต้องทานกำลังของงูที่หมายจะฝังเขี้ยวพิษของมันลงบนร่างของเขาเพื่อเอาชีวิต เขาทรงตัวไว้ไม่อยู่จึงล้มลงฟาดกับซากขอนตาลที่ถูกโค่น หน้าตาบวมปูดบูดเบี้ยว เลือดกบหน้า ทว่าคอของงูยังอยู่ในมือและงูก็ยังรัดเขาแน่น และยิ่งแน่นขึ้น เพื่อนฝูงที่อยู่รอบข้างต่างหนีกระเจิงกันไปตั้งแต่ที่งูปรากฏตัว ด้วยอิทธิพลความเชื่อของชาวบ้าน จึงไม่มีใครยื่นมือเข้าช่วย และยากที่จะช่วยได้ แม้แต่พ่อของเขาก็ถูกขัดขวาง เขาจึงต้องต่อสู้กับชะตากรรมของตนเองเพียงลำพัง.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

"จา พนม" นักบู๊ดัง ร่อนการ์ดวิวาห์ 3 พ.ค.นี้



พระเอกนักบู๊ “จาพนม” เร่งเดินสายแจกการ์ดอีกคู่ หลังคบหา“น้องบุ้งกี๋”ทายาทเจ้าของโรงแรมดาร์กอน นานกว่า3ปี ขณะที่น้องชายนางเอกดัง“พลอย จินดาโชติ”ตั้งโต๊ะสยบข่าวลือพี่สาวท้องก่อนแต่ง ยันได้ข่าวดีจะมีหลานหลังงานวิวาห์
วันนี้ ( 24 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระเอกนักบู๊  นายจาพนม ยีรัมย์ หรือที่รู้จักในนาม “โทนี่ จา” วัย 36 ปี ภายหลังเปลี่ยนชื่อจริงมาเป็น “ทัชชกร ยีรัมย์” นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังที่เคยฝากผลงานมาแล้วหลายเรื่อง อาทิ “องค์บาก” และ“ต้มยำกุ้ง” กำลังเดินสายแจกการ์ดแต่งงานอีกคู่ หลังจากคบหาดูใจกับแฟนสาว “น้องบุ้งกี๋” หรือ น.ส.ปิยรัตน์ โชติวัฒนานนท์  วัย 22 ปี ซึ่งเป็นทายาทเจ้าของโรงแรมดาร์กอน ในจ.ระยอง
โดยทั้งคู่คบหากันมาเป็นเวลากว่า 3 ปี และฝ่ายชายเคยพาแฟนสาวไปร่วมงานวันเด็กที่โรงเรียนบ้านอำปึล ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เมื่อต้นปี 2554 ที่ผ่านมาด้วย  ทั้งนี้ว่าที่คู่บ่าวสาวจะจัดงานฉลองมงคลสมรสขึ้นในวันที่ 3 พ.ค.นี้  ที่หอประชุมกองทัพเรือ อาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ห้องเจ้าพระยา  โดยนายสมศักดิ์ เตชะรัตนะประเสริฐ หรือ เสี่ยเจียง เจ้าของบริษัทสหมงคลฟิล์มรับเป็นประธานในพิธี  

วันเดียวกัน ที่ชั้น 3 อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนอโศกมนตรี  นายฌอห์ณ จินดาโชติ น้องชายของนางเอกสาว พลอย จินดาโชติ ที่เข้าพิธีวิวาห์กับ โอจีฟ-วิตต์ ก้องธรนินทร์ พี่ชายของ เจี๊ยบ-ลลนา อดีตนางสาวไทย ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าพลอยท้องก่อนแต่งแถมยังแอบไปฉกแฟนของเพื่อนมาครอบครองด้วย ได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงเรื่องดังกล่าวแทนพี่สาว โดยระบุว่า ช่วงนี้พี่พลอยมีอาการแพ้ท้อง ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง จึงไม่สามารถมานั่งอธิบายข้อเท็จจริงในประเด็นที่มีคนสงสัยได้ ตนเองถึงต้องรับหน้าที่มาบอกเล่าให้ทุกคนฟังว่า หลังจากพี่เขยและพี่สาวแต่งงานกันแล้ว 2 สัปดาห์ ทางครอบครัวของทั้ง2ฝ่ายก็มีข่าวดีที่จะได้หลาน ส่วนภาพงานแต่งที่พี่พลอยดูอวบขึ้นผิดปกตินั้น อาจเป็นเพราะระยะหลังเริ่มไปศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจไวน์เลยต้องชิมบ่อยๆน้ำหนักถึงได้ขึ้น
 ส่วนประเด็นที่มีการพูดว่าพี่สาวตัวเองไปแย่งแฟนเพื่อนมาครอบครอง และปล่อยให้ตั้งท้องเพื่อหวังจับฝ่ายชายนั้น ขอรับรองได้ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นแค่ข่าวปล่อย ไม่มีมูลความจริง เพราะพี่พลอยเป็นคนมีมารยาท รู้อะไรควรไม่ควร และที่สำคัญความรักของคนทั้งสองเกิดขึ้นหลังจากคบหาดูใจกันมากว่า 1 ปี ถ้าใจไม่ตรงกันก็คงไม่มีวันนี้ และพี่พลอยก็ไม่ใช่มือที่สามตามที่ผู้ไม่หวังดีสร้างข่าวขึ้นมาแน่นอน อย่างไรก็ตามประเด็นต่างๆที่พูดกันไปขณะนี้ ทำให้พี่พลอยและครอบครัวของเราแอบเครียดบ้าง แต่มีข่าวดีๆที่เป็นความสุขทำให้ลืมทุกอย่างได้ สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่ของพี่โอจีฟกับพี่พลอยเป็นไปด้วยดี ไม่มีปัญหาทั้งก่อนแต่งและหลังแต่ง โดยคุณแม่ของพี่โอจีฟยังบอกกับสื่อเองว่างานฉลองมงคลสมรสจะจัดขึ้นปีหน้า ซึ่งกำหนดกันแล้วเป็นเดือน มี.ค. ส่วนสถานที่ยังต้องรอดูกันอีกที
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

คุกหนุ่มแสบแพร่ภาพลามกแฟนสาวลงเน็ต


ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก วันที่ 24 เม.ย. นี้ ศาลอ่านคำพิพากษาคดีดำ อ.233/55  ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายประเสริฐ เบญจวรเดชกุล อายุ 33 ปี ประกอบอาชีพส่วนตัว ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจำเลยในความผิดฐานนำเจข้า, เผยแพร่  ส่งต่อ ภาพลักษณะลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์  ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 31 ม.ค.55  ระบุความผิดสรุปว่า

เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 54 เวลากลางคืน  จำเลยได้แพร่ภาพการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างจำเลยกับ น.ส. ชมพู่ (นามสมมุติ) อดีตแฟนสาว ผู้เสียหาย ลงใน คอมพิวเตอร์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต และเว็บไซต์ที่จำเลยเป็นผู้ดู ทำให้น.ส.ชมพู่ ได้รับความเสียหาย  นอกจากนี้จำเลยยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานที่ โดยไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ด้วย เหตุเกิดที่ ต.บ้านแพรก  - อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา และที่อื่น ๆ เกี่ยวพันกัน ชั้นสอบจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ให้การรับสารภาพชั้นศาล

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลย กระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(4) , 27 เป็นความผิดหลายกรรม ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ 3 กระทง จำคุกกระทงละ  1 ปี รวมจำคุก  3 ปี   ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานปรับ 50,000 บาท ปรับวันละ 300 บาท จำนวน 353 วัน รวมเป็นเงิน 105,900 บาท  จำเลยรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี 6 เดือน ปรับ 77,950  บาท

อย่างไรก็ตามเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์การกระทำผิดประกอบรายงานการสืบเสาะสถานภาพครอบครัว การศึกษา และอื่น ๆ แล้ว เป็นการกระทำให้สังคมเสื่อมเสีย  ทำให้ผู้เสียหายเดือดร้อน เพื่อมิให้ผู้อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง 
แม้จำเลยจะชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 50,000 บาทแก่ผู้เสียหายแล้วก็ไม่มีเหตุเพียงพอที่จะรอการลงโทษ.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

หนุ่มใหญ่เครียดโดดรถไฟฟ้าบีทีเอสตายสยอง


ญาติเผยมีอาการป่วยทางจิตรุมเร้านานนับ 10 ปี ตัดสินใจคิดสั้น กระโดด ชั้น 3 สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส บางนา ตายคาที่
วันนี้(24 เม.ย.) พ.ต.ท.สายชล หงส์สุวรรณ พงส.(สบ 3) สน.บางนา รับแจ้งมีผู้โดดจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส บางนา ถนนสุขุมวิท แขวงและเขตบางนา  รีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ณฤดล พุ่มพวง สว.สส. แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และมูลนิธิร่วมตัญญู

ที่เกิดเหตุฝั่งตรงข้ามกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  บริเวณด้านล่างใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส บางนา บนพื้นผิวการจราจรช่องทางซ้าย พบศพนายพรชัย มีทรัพย์วัฒนา อายุ 43 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลที่บริเวณ ศีรษะและใบหน้ายุบ แขนขาหักผิดรูป  มีรอยถลอกตามร่างกาย   ทั้งนี้จากการขึ้นไปตรวจสอบบริเวณชั้น 3 ด้านชานชาลาฝั่งมุ่งหน้าไปเส้นหมอชิต เจ้าหน้าที่พบกระเป๋าเป้สีน้ำเงิน ภายในมีเงินสด 1260 บาท พร้อมด้วยพบบัตรผู้ป่วยรพ.มนารมย์ วางไว้ที่พื้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่รปภ.ของสถานนีรถไฟฟ้า ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุชายคนดังกล่าวได้นั่งร้องไห้คุยโทรศัพท์อยู่ที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ต่อมาชายคนดังกล่าวก็ได้ขึ้นไปบนสถานีรถไฟฟ้าบริเวณชั้น 3  ก่อนสบโอกาสในจังหวะที่ไม่มีคนพลุกพล่านตัดสินใจวางกระเป๋าเป้ ก่อนปีนรั้วกำแพงกระโดดลงมาเสียชีวิต อีกทั้งภายหลังญาติผู้เสียชีวิต ก็ได้ยืนยันว่า ผู้ตายมีอาการป่วยทางจิตเป็นเวลา 9 ปี โดยก่อนหน้านี้ได้เข้ารับการรักษาอาการดังกล่าวที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา เป็นเวลา 8 ปี ก่อนที่จะย้ายมารักษาตัวที่รพ. มนารมย์ เมื่อไม่นานมานี้เอง จึงสันนิษฐานว่า ผู้ตายเกิดอาการเครียดด้วยโรคที่เป็นอยู่ จึงตัดสินใจคิดสั้นโดยการกระโดดสถานีรถไฟฟ้าดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำประสานเพื่อขอภาพวงจรปิด เพื่อมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งจะมอบศพให้ญาติไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

ป.ป.ส.สรุปจับยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดีน 3 ปีกว่า


วันนี้ (24 เม.ย.) มีรายงานจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ว่า  ตั้งแต่ปี 2551-2554ป.ป.ส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าจับกุมยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดีน ที่มีการลักลอบนำเข้าจากประเทศสิงค์โป มาเลเซีย และเกาหลีใต้ ได้ประมาณ 48 ล้านเม็ด โดยยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดีน ที่ส่งเข้ามาประเทศไทย ทั้งทางเครื่องบินและทางเรือขนส่งสินค้าทั้งหมดจะถูกส่งต่อไปยังแหล่งผลิตยาเสพติดในเขตอิทธิพลของชนกลุ่มน้อย ฝั่งประเทศพม่า ที่ยังมีการผลิตยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ ป.ป.ส.ได้ประสานทางการพม่า และลาว ในการเข้มงวดจับกุมยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดีน
เนื่องจากเชื่อว่า จะมีการเปลี่ยนเส้นทางส่งยาซูโดอีเฟดีนจากต้นทางไปยังแหล่งผลิตยาเสพติดในประเทศพม่าโดยตรง หลังจากหน่วยงานไทย เข้มงวดการลักลอบนำเข้ายาแก้หวัดและควบคุมการใช้ยาแก้หวัดของโรงพยาบาล เพราะขบวนการผลิตยาเสพติด ยังไม่สามารถคิดค้นสารตั้งต้นชนิดใหม่ ขึ้นมาแทนสารซูโดอีเฟดีนได้  ยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดีน จึงยังเป็นหัวเชื้อหลักในการผลิตยาบ้าและยาไอซ์ ของกลุ่มผลิตยาเสพติด โดย ป.ป.ส.คาดการณ์ว่า มีความต้องการใช้ยาบ้าในไทย กว่าปีละ 360ล้านเม็ด เพราะยังมีจำนวนผู้ติดยาบ้ากว่า ล้านคน ที่ยังไม่ได้เข้ารับการบำบัด    
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

ชงซูโดเกาหลี-คอลเซ็นเตอร์เป็นคดีพิเศษ



วันนี้ (24 เม.ย.)  นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.) รับคดีพิเศษเพิ่ม 2 คดี ประกอบด้วยคดีลักลอบนำเข้าซูโดอีเฟดรีนออกจากประเทศเกาหลีใต้หลังจากสำนักงานอาหารและยา (อย.)ประเทศเกาหลีระบุว่ามีบริษัทเอกชน  2 บริษัทของไทยสั่งนำเข้าซูโดเอฟรีดีนโดยการสำแดงเท็จจำนวน 40 ตัน โดยเป็นการสั่งซื้อและลักลอบนำเข้าล็อตใหญ่
 โดยคดีดังกล่าวจำเป็นต้องเสนอเป็นคดีพิเศษเพิ่มเติมเนื่องจากเป็นคดีที่มีความเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับการลักลอบนำยาแก้หวัดออกจากระบบของโรงพยาบาล นอกจากนี้จะเสนอให้รับคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน-ไต้หวัน 22 ราย ที่เข้ามากระทำความผิดเช่าบ้านพักย่านเมืองทองธานีเพื่อตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเหยื่อโดยเป็นการขยายผลให้เป็นคดีเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ดีเอสไอจับกุมก่อนหน้านี้หลายคดี  ซึ่งที่ผ่านมาดีเอสไอได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร และอาชญากรรมข้ามชาติ  ทั้งนี้ หลังจากรับเป็นคดีพิเศษแล้ว ดีเอสไอจะประสานกับทางการจีนและไต้หวันเพื่อสอบสวนว่าเครือข่ายดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับแก๊งคอนเซ็นเตอร์ในประเทศจีนและไต้หวันหรือไม่ด้วย
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources