ประสบความสำเร็จเหนือคำบรรยาย แม้จะเป็นศิลปินเก่า แต่ก็ได้รับการขานรับจากแฟนเพลงรุ่นเก๋าแห่เข้าชมจนแน่นขนัด สำหรับคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีของ ธานินทร์ อินทรเทพ ใน “นี่คือฉันเอง ดีส อีส มี! ธานินทร์ ไลฟ์ อิน คอนเสิร์ต” ที่เพิ่งจบไปหมาด ๆ ณ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
บรรยากาศในเย็นวันนั้นคลาคล่ำไปด้วยบุคคลระดับบิ๊ก ๆ และอมตะของวงการบันเทิง อาทิ ลลนา สุลาวัลย์, วิยะดา อุมารินทร์, ปิยะ ตระกูลราษฎร์, ยอดชาย เมฆสุวรรณ, วินัย พันธุรักษ์ เป็นต้น โดยความรู้สึกไม่ต่างอะไรไปจากงานเลี้ยงรวมรุ่นทีเดียว เพราะแม้ไม่ได้เจอหน้ากันมานาน แต่ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของหัวใจแต่ละดวงที่ชื่นชอบแนวเพลงรุ่นเก่า และติดตามผลงานของเขาผู้นี้มาตั้งแต่คราหนุ่มสาว หลังเปิดเวทีปุ๊บ ธานินทร์ อินทรเทพ ก็ทักทายแฟนเพลงด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึกบาดอารมณ์ ด้วยบทเพลงอมตะ ’ฝากเพลงถึงเธอ“ เรียกเสียงปรบมือจากแฟนเพลงได้ดังกึกก้อง เพราะนอกจากจะอินไปกับน้ำเสียงและบทเพลงแล้ว ความสมบูรณ์ของระบบแสง สี เสียง ยังอลังการงานสร้างด้วย ก่อนจะส่งเพลงไพเราะต่อเนื่องเอาใจแฟน ๆ แบบจัดหนัก อาทิ ’คิดถึงเธอทุกลมหายใจ”, “แจกันรัก”, ’รักเอย”, ’เหมือนคนละฟากฟ้า“ ตามด้วยการร่วมแจมของแขกรับเชิญ ไม่ว่าจะเป็น หทัยชนก สวนศรี เมดเล่ย์เพลง ’ผมถูกใส่ร้าย + จับกระแต“ และร่วมร้องกับ อิสริยา คูประเสริฐ ใน ’รักใต้ร่มไทร“ ก่อนจะได้ ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ออกมาแจมดนตรีจากใน ’ทานตะวัน“ และ ’นกขมิ้น“ แล้วปิดท้ายช่วงแรกด้วย ’ศาลาหัวใจ” และ ’เพ็ญโศภา” จากนั้น ธานินทร์ ก็กระชับความสัมพันธ์กับแฟนเพลงด้วยบทเพลงอมตะอย่าง ’โอ้รัก“, ’น้ำตาร่วงหลังพวงมาลัย“, ’เหมือนไม่เคย“, ’หน้าเนื้อใจเสือ“ ตามมาด้วยการหยิบเพลงของรุ่นน้อง แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์ มาขับขานด้วยลีลาน้ำเสียงสุดระทมอย่าง ’แสนรัก“ และ “ห้องสีขาว” และมาปิดฉากอำลาด้วย 2 เพลงที่อยู่ในใจแฟนเพลงตลอดกาล ’ทำไมถึงต้องเป็นเรา“ และ’ฉันวันนี้“ เพื่อเป็นการยืนยันเจ้าของตำแหน่งศิลปินยิ่งใหญ่และครองใจแฟนเพลงได้ยาวนานจริง ๆ และจะอยู่ในความทรงจำของแฟนเพลงไปอีกยาวนานอีกด้วย.
บรรยากาศในเย็นวันนั้นคลาคล่ำไปด้วยบุคคลระดับบิ๊ก ๆ และอมตะของวงการบันเทิง อาทิ ลลนา สุลาวัลย์, วิยะดา อุมารินทร์, ปิยะ ตระกูลราษฎร์, ยอดชาย เมฆสุวรรณ, วินัย พันธุรักษ์ เป็นต้น โดยความรู้สึกไม่ต่างอะไรไปจากงานเลี้ยงรวมรุ่นทีเดียว เพราะแม้ไม่ได้เจอหน้ากันมานาน แต่ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของหัวใจแต่ละดวงที่ชื่นชอบแนวเพลงรุ่นเก่า และติดตามผลงานของเขาผู้นี้มาตั้งแต่คราหนุ่มสาว หลังเปิดเวทีปุ๊บ ธานินทร์ อินทรเทพ ก็ทักทายแฟนเพลงด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึกบาดอารมณ์ ด้วยบทเพลงอมตะ ’ฝากเพลงถึงเธอ“ เรียกเสียงปรบมือจากแฟนเพลงได้ดังกึกก้อง เพราะนอกจากจะอินไปกับน้ำเสียงและบทเพลงแล้ว ความสมบูรณ์ของระบบแสง สี เสียง ยังอลังการงานสร้างด้วย ก่อนจะส่งเพลงไพเราะต่อเนื่องเอาใจแฟน ๆ แบบจัดหนัก อาทิ ’คิดถึงเธอทุกลมหายใจ”, “แจกันรัก”, ’รักเอย”, ’เหมือนคนละฟากฟ้า“ ตามด้วยการร่วมแจมของแขกรับเชิญ ไม่ว่าจะเป็น หทัยชนก สวนศรี เมดเล่ย์เพลง ’ผมถูกใส่ร้าย + จับกระแต“ และร่วมร้องกับ อิสริยา คูประเสริฐ ใน ’รักใต้ร่มไทร“ ก่อนจะได้ ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ออกมาแจมดนตรีจากใน ’ทานตะวัน“ และ ’นกขมิ้น“ แล้วปิดท้ายช่วงแรกด้วย ’ศาลาหัวใจ” และ ’เพ็ญโศภา” จากนั้น ธานินทร์ ก็กระชับความสัมพันธ์กับแฟนเพลงด้วยบทเพลงอมตะอย่าง ’โอ้รัก“, ’น้ำตาร่วงหลังพวงมาลัย“, ’เหมือนไม่เคย“, ’หน้าเนื้อใจเสือ“ ตามมาด้วยการหยิบเพลงของรุ่นน้อง แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์ มาขับขานด้วยลีลาน้ำเสียงสุดระทมอย่าง ’แสนรัก“ และ “ห้องสีขาว” และมาปิดฉากอำลาด้วย 2 เพลงที่อยู่ในใจแฟนเพลงตลอดกาล ’ทำไมถึงต้องเป็นเรา“ และ’ฉันวันนี้“ เพื่อเป็นการยืนยันเจ้าของตำแหน่งศิลปินยิ่งใหญ่และครองใจแฟนเพลงได้ยาวนานจริง ๆ และจะอยู่ในความทรงจำของแฟนเพลงไปอีกยาวนานอีกด้วย.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th