เมื่อเวลา14.00 น. วันที่ 2 ม.ค. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา อาสาเดินสายสร้างความปรองดอง หลังปลดล็อคทางการเมืองแต่ถูกนักการเมืองบางพรรคระบุว่าไม่มีทางทำสำเร็จ ว่ากระแสตอบรับของสังคมเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะเป็นความต้องการที่ตรงกันของคนไทยที่อยากเห็นบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติ แต่มีพรรคการเมืองบางพรรค นักการเมืองบางท่านแสดงความคิดไม่เห็นด้วย และยังเย้ยหยัน ดูแคลน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นสำหรับคนที่เป็นนักการเมือง เพราะนักการเมืองน่าจะมีความรัก ความปรารถนาต่อประเทศชาติเหมือนกัน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้อยากให้หันกลับไปดูประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา เวียดนาม ลาว พม่า ในอดีตที่ผ่านมาประเทศเหล่านี้อยู่ในความแตกแยกของผู้คน สังหารและเข่นฆ่ากัน แต่กลุ่มประเทศเหล่านี้หาข้อยุติหันมาสู่ความปรองดอง สร้างชาติบ้านเมืองเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้น ตนคิดว่าสังคมไทยพื้นฐานของคนไทยมีความเมตตา เอื้ออาทรกัน และพร้อมที่จะให้อภัยกันและกัน ดังนั้นการที่นายบรรหารเสนอตัวถือเป็นความกล้าหาญ และพร้อมที่จะประสานสิบทิศพบกับทุกฝ่าย หาจุดลงตัวให้ได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สังคมไทย นักการเมือง พรรคการเมืองไทยควรให้ความสนับสนุน วันนี้หากสังคมไทยยังก้าวข้ามพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ก็เป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง
วันนี้เจตนาของนายบรรหาร ตนเชื่อว่าไม่ได้มองปัญหาอยู่ที่จะอภัยโทษให้กับใคร หรือนิรโทษกรรมให้กับใคร แต่เป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีความเจ็บปวดกับปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมืองที่ เกิดขึ้น และนำพาประเทศของเราให้ย้ำอยู่กับที่ เพราะฉะนั้นคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาว และมีสำนึกในบ้านเมือง ท่านก็ต้องการอยากเห็นความปรองดองสู่ภาวะปกติ จึงเป็นสิ่งที่น่าจะร่วมมือกันนำความสันติสุขมาสู่ประเทศไทย และนายบรรหารก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา เพราะนโยบายปรองดองเป็นนโยบายของพรรคมาตั้งแต่ต้น อย่าเอาการเมืองมาเป็นตัวตั้ง ต้องเอาประเทศชาติเป็นตัวตั้ง ดังนั้นถึงเวลาที่ฝ่ายการเมืองที่จะทำให้ปัญหาความขัดแย้งยุติลง
“ผมไม่อยากเห็นการนำเอามาตรฐานของตนเองมาถือว่ามาตรฐานของคนอื่นจะต้อง เหมือนกัน จึงอยากถามว่ามาตรฐานตนเองเคยทำอะไรสำเร็จมาบ้าง เป็นพรรคการเมืองที่พูดถึงระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด เป็นพรรคการเมืองที่บอกว่าจะปฏิรูปการเมือง จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ถามว่าทำได้หรือไม่ ในขณะที่นายบรรหารสมัยเป็นนายกรัฐมนตรีปี 2540 ได้ประกาศนโยบายแห่งรัฐว่าจะปฏิรูปการเมืองมาตรา 211 นำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน หลังจากแถลงนโยบายก็ถูกดูแคลนด้วยความรู้สึก จะอคติหรือประการใดก็ตาม ท้ายที่สุดก็ทำสำเร็จ เพราะฉะนั้นการเอาบรรทัดฐาน มาตรฐานของตนเองเป็นที่ตั้ง และวัดมาตรฐานคนอื่นจะต้องเหมือนของตนเองสังคมไทยไปไม่ได้ และไม่มีทางประสบความสำเร็จ” นายสมศักดิ์ กล่าว
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น