ถกรธน. ป่วน “วัชระ”พาดพิง แตะ “แม้ว” หวิดถูก ตร. หิ้วออกจากห้องประชุม ปชป.ประท้วงวุ่น
วันนี้ ( 20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการอภิปรายแก้ไขรัฐธรรมนูญตลอดทั้งวัน เป็นไปอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งในช่วงค้ำได้เกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายใน (5) โดยอภิปรายนอกประเด็นและพาดพิงถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย หลายคนลุกขึ้นประท้วง จนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ที่ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ป่ระชุม ขอให้นายวัชระ อภิปรายอยู่ในประเด็น แต่นายวัชระยังคงพูดนอกประเด็นอยู่ นายสมศักดิ์ จึงขอให้ยุติการอภิปราย แต่นายวัชระไม่ยอมยุติ ยังคงพูดต่อไป แม้นายสมศักดิ์จะพยายามให้หยุดพูดก็ตาม
จนในที่สุดนายสมศักดิ์ ใช้อำนาจประธานด้วยการลุกจากที่นั่ง พร้อมสั่งให้นายวัชระนั่งลง แต่นายวัชระไม่ยอมนั่งนายสมศักดิ์ จึงสั่งให้ตำรวจสภา นำตัวนายวัชระออกจากห้องประชุม โดยกำชับให้นำตัวออกไปอย่างสุภาพ แต่นายวัชระ ไม่ออก พร้อมปัดมือเจ้าหน้าที่ตำรวจสภาที่จะมาพาตัวออกไป ซึ่งนายสมศักดิ์ ได้กำชับให้อีกรอบว่า “ขอให้ตำรวจสภายกมือไหว้และตำรวจสภาเชิญตัวออกไปอย่างสุภาพ” ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างลุกขึ้นยืนประท้วงที่จะไม่ให้คุมตัวนายวัชระออกนอกห้องประชุม จนกระทั่งนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตะโกนว่า “ประธานใช้ข้อบังคับ2มาตรฐาน” ทำให้นายสมศักดิ์ ชี้แจงอีกว่า ที่ผ่านมาตนอนุโลมให้มาโดยตลอดแต่เหตุการณ์ที่ตนสั่งให้ออกจากห้องประชุมเพราะหาทางออกไม่ได้ ทั้งนี้ขอให้นายวัชระยอมนั่งลงเถอะเพื่อให้การประชุมเดินหน้าไปได้ด้วยดี ในที่สุดนายวัชระยอมนั่งลงโดยดี
จนกระทั่งนพ.วรงค์ เดชกิจกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นมาขอใช้สิทธิ์เสนอให้มีการนับองค์ประชุม ทำให้นายสุนัยจุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นมาขอให้ที่ประชุมตามระเบียบ เพราะในเมือมีการอภิปรายมาพอสมควรแล้ว และกรรมาธิการฯ เสียงข้างมากเห็นด้วยแล้ว เมื่อมีการนับองค์ประชุม ตนขอเสนอให้มีการปิดอภิปรายมาตรา 291/ 3 ซึ่งภายหลังการนับองค์ประชุมปรากฏว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมจำนวน 345 เสียง ถือว่าครบองค์ประชุม
จากนั้นนายสุนัย ได้เสนอญัตติขอปิดการอภิปรายและให้ลงมติในมาตรา 291/3 แต่นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนให้ทบการขอปิดการอภิปราย ด้วยเสียงข้างมากว่าสมควร และรอบคอบหรือไม่ แต่นายสุนัย ยังคงไม่ยอม พร้อมกล่าวว่า เป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าน่าจะเป็นปัญหา ซึ่งทำให้ทั้ง 2 คนถกเถียงกัน จนพล.อ.ธีรเดช ซึ่งขึ้นมาทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้ขอไกล่เกลี่ยเพื่อให้การประชุมดำเนินต่อไป
จนกระทั่งนพ.วรงค์ เดชกิจกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นมาขอใช้สิทธิ์เสนอให้มีการนับองค์ประชุม ทำให้นายสุนัยจุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นมาขอให้ที่ประชุมตามระเบียบ เพราะในเมือมีการอภิปรายมาพอสมควรแล้ว และกรรมาธิการฯ เสียงข้างมากเห็นด้วยแล้ว เมื่อมีการนับองค์ประชุม ตนขอเสนอให้มีการปิดอภิปรายมาตรา 291/ 3 ซึ่งภายหลังการนับองค์ประชุมปรากฏว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมจำนวน 345 เสียง ถือว่าครบองค์ประชุม
จากนั้นนายสุนัย ได้เสนอญัตติขอปิดการอภิปรายและให้ลงมติในมาตรา 291/3 แต่นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนให้ทบการขอปิดการอภิปราย ด้วยเสียงข้างมากว่าสมควร และรอบคอบหรือไม่ แต่นายสุนัย ยังคงไม่ยอม พร้อมกล่าวว่า เป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าน่าจะเป็นปัญหา ซึ่งทำให้ทั้ง 2 คนถกเถียงกัน จนพล.อ.ธีรเดช ซึ่งขึ้นมาทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้ขอไกล่เกลี่ยเพื่อให้การประชุมดำเนินต่อไป
ได้ จนท้ายที่สุดนายสุนัยยอมถอนญัตติ ทำให้ที่ประชุมได้อภิปรายกันต่อไป
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น