วันนี้ (27 ส.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายสุเทพ
เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
และอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)
เดินทางเข้าปากคำกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอตามหมายเรียกในคดีการเสียชีวิต 91
ศพ ช่วงปี 2553 โดยมีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ
ได้มารอให้การต้อนรับถึงหน้าประตูรถยนต์
ทั้งนี้เมื่อนายสุเทพก้าวลงจากรถยนต์ได้เป็นฝ่ายกล่าวสวัสดีทักทายนายธาริต
จากนั้นได้นำนายสุเทพขึ้นไปส่งที่ห้องสอบสวนชั้น 7
เพื่อรอการสอบปากคำต่อจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนว่า ได้ทำบันทึกการให้ถ้อยคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเม.ย.- พ.ค. 2553 เพื่อยื่นให้พนักงานสอบสวนตามที่พนักงานสอบสวนได้แจ้ง โดยเอกสารเป็นการรวบรวมคำสั่งทุกฉบับที่มีการส่งการจนไปถึงการคลี่คลาย สถานการณ์ เชื่อว่าน่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนของดีเอสไอ ทั้งนี้ เอกสารที่เตรียมมาไม่มีอะไรใหม่ แต่เหตุการณ์ผ่านมานานกว่า 2 ปีแล้ว คนอาจจะลืมเลือนหรือมองข้ามข้อเท็จจริงบางประการ จึงได้รวบรวมเอกสารประมาณ 200 หน้ากระดาษ พร้อมภาพถ่ายชายชุดดำมาประกอบการชี้แจง ส่วนจะสามารถหักล้างข้อกล่าวหาได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับดีเอสไอว่าจะทำอย่างไร ต่อไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ตนมีหน้าที่ทำความจริงให้ปรากฏ
เมื่อถามว่ายังมั่นใจการทำงานของดีเอสไอหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ขอไม่ตอบ ความจริงเป็นอย่างไรก็จะชี้แจงไปอย่างนั้น ส่วนกรณีที่นายธาริต อ้างว่าไม่เคยเข้าร่วมการประชุมกับฝ่ายยุทธการจึงไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการ วางแผนนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นความจริงบางส่วน แต่ในการประชุมหลายครั้งอธิบดีดีเอสไออยู่ร่วมกับตนตลอด และเคยแสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้สถานการณ์ ซึ่งตนโชคดีและได้เปรียบนิดหน่อยตรงที่เวลานั่งประชุมจะมีสมุดจดบันทึกส่วน ตัวว่าใครเสนอความเห็นอย่างไร และมีข้อโต้แย้งอย่างไร ดังนั้นการทำบันทึกการให้การครั้งนี้จึงทำได้ง่าย เพราะเป็นการเรียบเรียงจากสมุดบันทึกส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าส่วนตัวตนกับอธิบดีดีเอสไอชอบพอกันดี แต่เรื่องงานก็ว่ากันไปตามหน้าที่
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนว่า ได้ทำบันทึกการให้ถ้อยคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเม.ย.- พ.ค. 2553 เพื่อยื่นให้พนักงานสอบสวนตามที่พนักงานสอบสวนได้แจ้ง โดยเอกสารเป็นการรวบรวมคำสั่งทุกฉบับที่มีการส่งการจนไปถึงการคลี่คลาย สถานการณ์ เชื่อว่าน่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนของดีเอสไอ ทั้งนี้ เอกสารที่เตรียมมาไม่มีอะไรใหม่ แต่เหตุการณ์ผ่านมานานกว่า 2 ปีแล้ว คนอาจจะลืมเลือนหรือมองข้ามข้อเท็จจริงบางประการ จึงได้รวบรวมเอกสารประมาณ 200 หน้ากระดาษ พร้อมภาพถ่ายชายชุดดำมาประกอบการชี้แจง ส่วนจะสามารถหักล้างข้อกล่าวหาได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับดีเอสไอว่าจะทำอย่างไร ต่อไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ตนมีหน้าที่ทำความจริงให้ปรากฏ
เมื่อถามว่ายังมั่นใจการทำงานของดีเอสไอหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ขอไม่ตอบ ความจริงเป็นอย่างไรก็จะชี้แจงไปอย่างนั้น ส่วนกรณีที่นายธาริต อ้างว่าไม่เคยเข้าร่วมการประชุมกับฝ่ายยุทธการจึงไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการ วางแผนนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นความจริงบางส่วน แต่ในการประชุมหลายครั้งอธิบดีดีเอสไออยู่ร่วมกับตนตลอด และเคยแสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้สถานการณ์ ซึ่งตนโชคดีและได้เปรียบนิดหน่อยตรงที่เวลานั่งประชุมจะมีสมุดจดบันทึกส่วน ตัวว่าใครเสนอความเห็นอย่างไร และมีข้อโต้แย้งอย่างไร ดังนั้นการทำบันทึกการให้การครั้งนี้จึงทำได้ง่าย เพราะเป็นการเรียบเรียงจากสมุดบันทึกส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าส่วนตัวตนกับอธิบดีดีเอสไอชอบพอกันดี แต่เรื่องงานก็ว่ากันไปตามหน้าที่
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น