วันนี้ (7 เม.ย.)น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความพร้อมในการรับมือน้ำท่วมว่า ได้ติดตามรายงานจากพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในบางพื้นที่ยังยอมรับว่าอาจจะช้ากว่ากำหนดการบ้าง เพราะติดปัญหาระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ขณะเดียวกันในบางจุดมีการขุดลอกคูคลองบ้างแล้ว ซึ่งในเดือน พ.ค. จะเริ่มเห็นความคืบหน้ามากขึ้น อาทิ การขุดลอกคลองต่าง ๆ ใน กทม. ทางกองทัพบกได้รายงานความคืบหน้าไปถึง 40 เปอร์เซ็นต์แล้ว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในไตรมาส 2 ธุรกิจต่าง ๆ จะเริ่มทยอยเปิดโรงงานและผลักดันการผลิตเต็มที่ในเดือน มิ.ย. ซึ่งภาคธุรกิจคงมีความกังวลบ้าง แต่เมื่อการบริหารจัดการน้ำพร้อม การเตรียมการซ่อมแซมประตูระบายน้ำหรือตามพนังกั้นน้ำต่างๆมีความเป็นรูปธรรม ที่ชัดเจนมากขึ้นก็คงทำให้ประชาชนได้เกิดความสบายใจขึ้นได้ ทั้งนี้ก็อยากขอความร่วมมือต่อประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาว่าการดูแลส่วนใดยัง ขาดตกบกพร่อง ทางรัฐบาลก็ยินดีที่จะไปปรับดำเนินการ เพราะสุดท้ายแล้วเราต่างก็อยากเห็นกระบวนการทุกอย่างแล้วเสร็จเพื่อรองรับ ฤดูกาลฝนที่กำลังจะมาถึง
เมื่อถามว่า ขณะที่บางพื้นที่กลับเจอปัญหาภัยแล้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการปรับระดับน้ำในเขื่อน พร้อมกับการติดตามทบทวนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจากเดิมที่จะมีการปรับะดับให้ลดลง วันนี้เราก็ลดชะลอการระบายน้ำลง เพื่อให้น้ำในเขื่อนนั้นสามารถรองรับด้านการเกษตรกรรมด้วย โดยมีการติดตามทั้งระดับน้ำฝน และระดับน้ำในเขื่อนไปพร้อมๆกัน และเมื่อการวางโครงสร้างระบบน้ำระยะยั่งยืนเป็นรูปร่างมากขึ้น เชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆจะค่อยคลี่คลายลง
"ขณะนี้รัฐบาลได้สั่งให้มีการปรับระดับน้ำในเขื่อนแล้ว โดยจากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 45 % แต่วันนี้ให้คงไว้ที่ระดับ 50% เพื่อสำรองปริมาณน้ำไว้ใช้สำหรับช่วงฤดูแล้ง และติดตามปริมาณน้ำอีกครั้ง"นายกฯกล่าว เมื่อถามว่าสถานการณ์น้ำแล้งวันนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ติดตามอย่างใกล้ชิดและในภาพรวมเราไม่ประมาท เพราะพบว่าหลายพื้นที่ประสบภาวะภัยแล้งแล้ว ซึ่งรัฐบาลจะต้องเข้าไปแก้ไขเป็นรายจังหวัด ส่วนกรณีที่สำนักการระบายน้ำ เปิดเผยข้อมูลว่าการขุดลอกคูคลองในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในปีที่แล้ว โดยเฉพาะเขตดอนเมือง บางพลัด ยังไม่มีการดำเนินการนั้น ตนจะแจ้งกับผู้ว่าฯ และว่าจะเข้าติดตามความคืบหน้าในช่วงหลังจากเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้รับข้อมูลว่าบางส่วนเริ่มดำเนินการไปแล้ว และบางส่วนอยู่ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งคงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อนและหลังสงกรานต์ตนจะติดตามอีก ครั้ง
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการแก้ปัญหาราคาสินค้าแพงว่า คิดว่าโครงการโชห่วยช่วยชาติจะช่วยแก้ปัญหาได้บางส่วน ซึ่งต้องยอมรับว่าเราเองต้องทำงานแข่งกับเวลา โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องทำงานอย่างเข้มข้นขึ้นในการช่วงวางหลัก มาตรฐานราคาสินค้าที่ควรจะเป็นตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบ ส่วนการวางแผนระยะยาวทางรัฐบาลก็ต้องมาดูที่อุปสงค์ อุปทาน โดยต้องขอเวลาในการแก้ไขปัญหานี้ด้วย
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น