“นายกฯปู” เดินเล่นช็อป –ชิม-ซื้อกลางตลาดนางเลิ้ง

“นายกฯปู” เดินเล่นชอป –ชิม-ซื้อกลางตลาดนางเลิ้ง ชาวบ้านแห่ขอถ่ายรูป-ให้กำลังใจเพียบ ผุดไอเดียสำรวจตลาดอาทิตย์ 1 ตลาด บ่นเซ็ง กบอ.ทำงานล่าช้า

วันนี้ (7 เม.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ประกอบด้วยนายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี  พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รักษาการเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี  ได้ใช้เวลาว่างหลังจากนั้นสิ้นภารกิจในช่วงเช้าที่ทำเนียบรัฐบาล เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่ตลาดนางเลิ้ง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้รับประทานบะหมี่เจ้าเก่าร้าน  “รุ่งเรือง”  หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินเล่นชมตลาด ชิมอาหารและขนมหวานต่าง ๆ  อย่างสบายใจและสนุกสนาน  รวมทั้งได้ซื้ออาหารและขนมกลับบ้านเป็นจำนวนมาก อาทิ บ๊วยหวาน  ข้าวโพดต้ม ถั่วต้ม ไส้กรอกปลาแนม  ขนมเบื้องโบราณ  ขนมเบื้องญวน เป็นต้น

หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แวะดื่มกาแฟโบราณก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้ใช้เวลาในตลาดนางเลิ้งประมาณ 1 ชม. ซึ่งได้รับความความสนใจจากชาวบ้านและบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเป็นอย่างมากและส่งเสียงแสดงความดีใจที่ได้พบกับนายกรัฐมนตรี  ต่างทยอยเข้าสวมกอด  ขอถ่ายรูป ขอลายเซ็น และให้ขนมกับนายกรัฐมนตรีด้วย ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีมีแนวคิดที่จะลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชนและตรวจสอบราคาสินค้าในตลาดต่างๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ตลาด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี  พร้อมคณะได้เดินทางไปยังตึกแดง ซึ่งเป็นสำนักงานของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เพื่อตรวจความเรียบร้อยซึ่งอยู่ระหว่างการตกแต่งปรับปรุงตัวอาคารและห้องทำงานต่าง ๆ และได้ปรารภกับคนใกล้ชิดว่าการทำงานของ กบอ.ค่อนข้างล่าช้าและต้องการเร่งรัดให้การทำงานรวดเร็วกว่านี้ โดยการไปนั่งทำงานที่ กบอ.เลยเพื่อสะดวกและรวดเร็วในการติดตามสถานการณ์และสั่งการ รวมทั้งเรียกประชุม ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้ใช้เวลาตรวจความเรียบร้อยประมาณ 30 นาที อย่างไรก็ตามพล.ต.ต.ธวัช เปิดเผยว่า หลังเทศกาลสงกรานต์นายกรัฐมนตรีจะไปนั่งบัญชาการที่ กบอ.ด้วยตัวเอง เพราะถือว่าเป็นงานสำคัญที่ต้องเร่งรัดและจะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด  โดยห้องทำงานของนายกรัฐมนตรีจะอยู่บริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นชั้นที่กรรการกบอ.นั่งทำงาน

ขณะที่อีกด้าหนึ่งนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้มีการนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา สมัยสามัญนิติบัญญัติ ในวันที่ 10-11 เม.ย. เวลา 09.30 น. โดยจากการตรวจสอบวาระการประชุม ประธานรัฐสภาได้บรรจุ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ... ซึ่งคณะกรรมาธิการ เป็นผู้เสนอ อยู่ในวาระเรื่องที่คณะกรรมาธิการฯพิจารณาเสร็จแล้ว ขึ้นมาพิจารณาก่อนวาระเรื่องด่วนคือ ความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักร ไทยกับรัฐบาลแห่งสหภาพพม่า ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ และกรอบการเจรจากู้เงินจากต่างประเทศสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ระยะที่ 3 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งค้างการพิจารณามาตั้งแต่การประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อครั้งก่อน อย่างไรก็ตาม ในระเบียบวาระยังได้แจ้งให้สมาชิกรัฐสภาทุกคนรับทราบว่า สามารถรับเอกสารคำแปรญัตติร่างรัฐธรรมนูญได้ที่อาคารรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในร่างคำแปรญัตติของรัฐธรรมนูญได้มีบันทึกหลักการและเหตุผลประกอบร่างรัฐ ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ... โดยมีหลักการดังต่อไปนี้ 1.กำหนดให้รัฐสภาประชุมร่วมกันในกรณีการให้ความเห็นชอบสมาชิกสภาร่างรัฐ ธรรมนูญ ซึ่งมาจากการคัดเลือกโดยที่ประชุมรัฐสภา และกรณีการให้ความเห็นชอบญัตติให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 2.กำหนดให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อทำหน้าที่จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ใหม่ และกำหนดกระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 3.กำหนดให้มีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อรัฐธรรมนูญนี้มีผลใช้บังคับ

ส่วนเหตุผลของการทำร่างแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญ (ฉบับที่...) พ.ศ....นั้น ระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดให้มีวิธีการจัดทำรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ทั้งฉบับ เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญในการปฏิรูปการเมือง โดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญซึ่งประกอบด้วยสมาชิกสองประเภท ประเภทที่ 1 มาจากการเลือกตั้งในจังหวัด จังหวัดละ 1 คน และประเภทที่ 2 มาจากรัฐสภาคัดเลือกบุคคลจากหลายสาขาอาชีพ รวมเป็นองค์กรในการจัดทำรัฐธรรมนูญ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างทางการเมืองขึ้นใหม่ให้มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้น ทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุมัติรัฐธรรมนูญ โดยการออกเสียงประชามติได้ด้วย โดยยังคงรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไว้ตลอดไป จึงจำเป็นต้องตรารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนี้

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

This entry was posted in News