ไฟไหม้โรงพักวังทองหลางผู้ต้องหาเจ็บ2ราย

ไฟฟ้าลัดวงจรเผาห้องเก็บของบนโรงพักวังทองหลาง เจ้าหน้าที่เร่งดับเพลิงแต่กลุ่มควันพวยพุ่งทำให้ผู้ต้องหาในห้องขังสำลักควันเจ็บ 2 ราย รีบนำส่งรพ.ตำรวจ ก่อนใช้เวลาราว 20 นาทีคุมเพลิงไว้ได้

วันนี้ ( 13 มี.ค.) เวลา 05.45 น. ร.ต.อ.ตระการ ศักดิ์ศรีกรม พงส.(สบ1) สน.วังทองหลาง ปฏิบัติหน้าที่อยู่สน. วังทองหลาง เลขที่ 289 แขวงพลับพลา เขตลาดพร้าว ได้รับแจ้งจาก ด.ต.ธีรพัฒน์ วงศ์กล้า ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม ทำหน้าที่สิบเวรควบคุมห้องขัง ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้และกลุ่มควันจำนวนมากในห้องขัง โดยต้นเพลิงมาจากห้องเก็บของกลางขนาดใหญ่ ในสน.วังทองหลาง จึงแจ้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยบางกะปิและหัวหมากจำนวน 4 คัน ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมี พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น.4 พ.ต.อ.ลือชัย สุดยอด รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผกก.สน.วังทองกลาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุด้วย

ที่เกิดเหตุบริเวณห้องเก็บของกลางขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 10 ตร.ม. อยู่ด้านหลังสน.และติดกับห้องผู้ต้องขัง เพลิงกำลังลุกไหม้พัดลมระบายอากาศ  และมีกลุ่มควันเป็นจำนวนมากปลิวเข้าไปในห้องผู้ต้องขัง ทำให้ผู้ต้องหาที่ถูกขังอยู่ข้างในทั้งหมด 13 คน สำลักควันและร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่จึงรีบใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงพร้อมกับลำเลียงผู้ต้องหาออกมาจากห้องขังอย่างทุลักทุเล โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบเพลิงได้ลุกไหม้เพดาน อุปกรณ์สำนักงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและโล่พลาสติกเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยควันไฟคละลุ้งไปทั่วชั้นล่าง และมีผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันอีก 2 ราย คือ นายอดิศร เป้าแก้ว อายุ 44 ปี และนายสุริยันต์ วรบัณฑิตย์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาเมาแล้วขับทั้งคู่ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจทันที

จากการสอบถาม ด.ต.ธีรพัฒน์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีผู้ต้องหาอยู่ในห้องขังทั้งหมด 13 ราย ตนนั่งอยู่ด้านหน้าก็ได้ยินเสียงผู้ต้องหาตะโกนร้องว่าไฟไหม้ จึงรีบวิ่งเข้าไปดูก็พบว่ามีกลุ่มควันเป็นจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากห้องเก็บของกลางด้านหลังที่อยู่ติดกับห้องขัง จึงรีบแจ้งร้อยเวรทันที จากนั้นก็รีบลำเลียงผู้ต้องหาออกมาด้านนอกได้อย่างปลอดภัย สาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ไม่ใช่ผู้ต้องหาจุดไฟเผาอย่างแน่นอนเพราะก่อนที่ตนจะนำผู้ต้องหาเข้าไปขัง ได้ตรวจสอบทุกคนอย่างละเอียดแล้วว่าไม่มีไฟแช็ค หรืออุปกรณ์ที่จะก่อให้เกิดเปลวไฟเข้าไปด้านในได้อย่างเด็ดขาด และคงไม่มีใครคิดสั้นจุดไฟเผาตัวเอง แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากเครื่องดูดอากาศที่ใช้มานานจนเกิดไฟช็อตมากกว่า

ด้าน พ.ต.อ.ธวัช กล่าวว่า เบื้องต้นสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร โดยต้นเพลิงเกิดที่เครื่องดูดอากาศที่ติดกับห้องขัง ซึ่งห้องดังกล่าวปัจจุบันใช้เป็นห้องเก็บพัสดุต่างๆ ของสน. จากนั้นเพลิงก็ลุกลามที่เพดานห้องและเกิดควันไฟเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงสำลักควันไฟเล็กน้อย หลังจากนี้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง และทางสน.จะนำเต็นท์มากางไว้ที่ด้านหลังสน. เพื่อรับแจ้งความจากประชาชนเป็นการชั่วคราวก่อน เพราะสำนักงานชั้นล่างใช้การไม่ได้เกือบทั้งชั้น แต่หลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเสร็จก็จะรีบทำความสะอาดและปรับปรุงให้ใช้งานได้โดยเร็ว คาดว่า 1-2 วันก็จะใช้งานได้ตามปกติ

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

This entry was posted in News