วันนี้ ( 12 มี.ค.) นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ฝนที่ตกบริเวณพื้นที่ตอนบนของประเทศในระยะนี้ ทำให้สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือเริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีพื้นที่ที่สถานการณ์หมอกควันอยู่ในขั้นวิกฤต และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รวม 2 จังหวัด 3 อำเภอ ได้แก่ เชียงราย (อ.แม่สาย อ.เมืองเชียงราย) และแม่ฮ่องสอน (อ.เมืองแม่ฮ่องสอน) ปภ.ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปาง เขต 15 เชียงราย และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์หมอกควัน โดยประสานผู้ว่าราชการจังหวัดให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ทำให้เกิดไฟป่าอย่างเข้มงวด จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ และประสานการปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันกับหน่วยงานอื่นอย่างใกล้ชิด โดยจัดทำฝนหลวง หรือจัดรถบรรทุกออกฉีดพ่นน้ำ สร้างความชุ่มชื้นและลดปริมาณหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศ
นายวิบูลย์ กล่าวว่า รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนให้งดเว้นการเผาวัสดุทุกชนิด และการประกอบกิจกรรมใดๆ ที่ทำให้เกิดหมอกควันในพื้นที่ เช่น เผาขยะมูลฝอย เผาหญ้าแห้ง เผาตอซังข้าว เป็นต้น เพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มหมอกควันและปริมาณฝุ่นละอองในอากาศแล้ว ยังส่งผลให้สถานการณ์หมอกควันรุนแรงมากขึ้น พร้อมดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากจำเป็นต้องออกจากบ้านให้สวมหน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าปิดจมูก หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย เช่น ไม่ออกกำลังกายกลางแจ้ง สูบบุหรี่ เป็นต้น ไม่อยู่กลางแจ้งในบริเวณที่มีหมอกควันปกคลุมเป็นเวลานาน หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากหมอกควันไฟป่า สามารถติดต่อสายด่วนนิรภัย 1784 เพื่อประสานการแก้ไขปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่โดยด่วนต่อไป
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น