ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.00 น. วันนี้ ( 7 ส.ค. ) พล.อ.ยุทธศักดิ์
ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอของ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี
ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
เสนอให้ใช้ยุทธศาสตร์กองโจรในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เป็นความคิดที่ถูกต้อง เพราะ
พล.อ.พัลลภผ่านอะไรมามาก มีประสบการณ์สูง
ภาพของการดำเนินการในพื้นที่ก็เป็นลักษณะนั้นที่กลับไปใช้วิธีการแบบเก่า
เมื่อถามว่า หากใช้รูปแบบกองโจรจะสู้กับโจรใต้ได้หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์
กล่าวว่า ตนไม่อยากพูดในระดับปฏิบัติ เดี๋ยวจะถูกต่อว่าอีก
เพราะตนดูระดับนโยบาย ดังนั้นขอให้ไปถามแม่ทัพภาคที่ 4
เมื่อถามว่าหากใช้วิธีการที่รุนแรงตอบโต้เหตุการณ์จะยิ่งบานปลายหรือไม่
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เราจะไม่ใช้วิธีที่รุนแรง เพราะมี
ศอ.บต.ทำงานทางด้านการเมืองและการพัฒนาอยู่แล้ว
โดยเราจะพยายามใช้ศอ.บต.มากยิ่งขึ้นเพื่อดึงมวลชนให้มาอยู่ฝ่ายเรามากขึ้น
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ตนได้เชิญ สมช. และ กอ.รมน. มาชี้แจงแผนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมดว่า แต่ละหน่วยร่างแผนกันอย่างไร และจะประสานให้เป็นแผนเดียวกันได้อย่างไร เพราะทั้งกอ.รมน. และสมช.ต่างก็มีตุ๊กตาของตัวเอง เมื่อได้ความคิดเป็นอันหนึ่งอันเดียวแล้วก็ให้ไปร่างแผนมาใหม่ เพื่อนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีเห็นชอบก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมเชิงปฏิบัติการใน วันที่ 8 ส.ค. ทั้งนี้แผนการปฏิบัติงานใหม่นี้จะมีความเปลี่ยนแปลงจากเดิม อาทิ จะมีการข่าวที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน รวดเร็วขึ้น และศูนย์ข่าวส่วนกลางที่อยู่ในกทม. ก็จะประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งข่าวให้ทราบถึงขั้นตอน และสถานการณ์ต่างๆ ให้ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นข่าวเดียวกัน รวมทั้งติดต่อประสานงานกับในพื้นที่ด้วยความรวดเร็ว ในกรณีที่หน่วยปฏิบัติไม่สามารถประสานงานหรือขอร้องหน่วยงานสำคัญระดับ กระทรวงได้ ทางศูนย์ก็จะเป็นผู้ประสานการทำงานและผลักดันให้อีกที เพื่อให้กระชับ รวดเร็ว เป็นต้น
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในวันที่ 8 ส.ค.แล้ว ก็จะเริ่มนำแผนปฏิบัติงานใหม่นี้ไปดำเนินการทันที โดยศูนย์ข่าวส่วนกลางจะเป็นผู้ประเมินผลงานของแต่ละหน่วยงานที่ลงไปทำ ซึ่งจะประเมินในรอบ 1 เดือน และรอบ 3 เดือน หากหน่วยงานไหนยังทำงานไม่เป็นไปตามยุทธศาสตร์ร่วมที่กำหนดไว้ เราก็จะต้องขับเคลื่อนไปยังกระทรวงนั้น ๆ เพื่อขอให้ดำเนินการให้ทันการด้วย ซึ่งต่อไปนี้ทุกหน่วยงานต้องลงไปอยู่ในพื้นที่พร้อม ๆ กัน เช่น กระทรวงการต่างประเทศ จะต้องชี้แจงสถานการณ์ทีเกิดขึ้นแทนรัฐบาล เพราะต่างประเทศให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ในส่วนของงบประมาณที่แต่ละกระทรวงขอไปเพื่อใช้สำหรับแก้ปัญหาพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้ เราจะไม่ให้เปลี่ยนแปลงในปลายปี หรือนำไปใช้ในเรื่องอื่น จะต้องนำงบลงไปให้หมด หรือหากใช้ไม่หมดก็จะต้องผูกพันเอาไว้ โดยจะมีสำนักงบประมาณมาตรวจสอบการใช้งบประมาณด้วย ทั้งนี้หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในวันที่ 8 ส.ค.แล้ว ก็จะเริ่มนำแผนปฏิบัติงานใหม่นี้ไปดำเนินการในทันที
เมื่อถามว่าแผนปฏิบัติการใหม่จะสำเร็จได้หรือ ในเมื่อเหตุการณ์เกิดมานาน 8-9 ปียังแก้ปัญหาไม่ได้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ตอบว่า แผนนี้เป็นแผนปิดช่องว่าง และเพิ่มความกระชับ บูรณาการแต่ละหน่วยให้สมบูรณ์มากขึ้น โดยต่อไปนี้เราจะให้อำนาจแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้เลือกบุคลากรในการปฏิบัติงานได้ด้วยตัวเอง ขณะที่ศูนย์ส่วนกลางก็จะเป็นผู้ประเมินการทำงานของแม่ทัพ ส่วนการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่เป็นเพียงแนวความคิด ยังไม่มีการพูดคุยกัน อย่างไรก็ตามการจะประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่เป็นเรื่องของหน่วยปฏิบัติที่จะเสนอ ขึ้นมา หากไม่เสนอมาระดับนโยบายก็จะไม่สั่งการลงไป สำหรับการแจ้งเตือนรถต้องสงสัยที่จะก่อเหตุคาร์บอม 16 คันนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่เจอ ขณะนี้กำลังติดตามอยู่.
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ตนได้เชิญ สมช. และ กอ.รมน. มาชี้แจงแผนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมดว่า แต่ละหน่วยร่างแผนกันอย่างไร และจะประสานให้เป็นแผนเดียวกันได้อย่างไร เพราะทั้งกอ.รมน. และสมช.ต่างก็มีตุ๊กตาของตัวเอง เมื่อได้ความคิดเป็นอันหนึ่งอันเดียวแล้วก็ให้ไปร่างแผนมาใหม่ เพื่อนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีเห็นชอบก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมเชิงปฏิบัติการใน วันที่ 8 ส.ค. ทั้งนี้แผนการปฏิบัติงานใหม่นี้จะมีความเปลี่ยนแปลงจากเดิม อาทิ จะมีการข่าวที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน รวดเร็วขึ้น และศูนย์ข่าวส่วนกลางที่อยู่ในกทม. ก็จะประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งข่าวให้ทราบถึงขั้นตอน และสถานการณ์ต่างๆ ให้ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นข่าวเดียวกัน รวมทั้งติดต่อประสานงานกับในพื้นที่ด้วยความรวดเร็ว ในกรณีที่หน่วยปฏิบัติไม่สามารถประสานงานหรือขอร้องหน่วยงานสำคัญระดับ กระทรวงได้ ทางศูนย์ก็จะเป็นผู้ประสานการทำงานและผลักดันให้อีกที เพื่อให้กระชับ รวดเร็ว เป็นต้น
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในวันที่ 8 ส.ค.แล้ว ก็จะเริ่มนำแผนปฏิบัติงานใหม่นี้ไปดำเนินการทันที โดยศูนย์ข่าวส่วนกลางจะเป็นผู้ประเมินผลงานของแต่ละหน่วยงานที่ลงไปทำ ซึ่งจะประเมินในรอบ 1 เดือน และรอบ 3 เดือน หากหน่วยงานไหนยังทำงานไม่เป็นไปตามยุทธศาสตร์ร่วมที่กำหนดไว้ เราก็จะต้องขับเคลื่อนไปยังกระทรวงนั้น ๆ เพื่อขอให้ดำเนินการให้ทันการด้วย ซึ่งต่อไปนี้ทุกหน่วยงานต้องลงไปอยู่ในพื้นที่พร้อม ๆ กัน เช่น กระทรวงการต่างประเทศ จะต้องชี้แจงสถานการณ์ทีเกิดขึ้นแทนรัฐบาล เพราะต่างประเทศให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ในส่วนของงบประมาณที่แต่ละกระทรวงขอไปเพื่อใช้สำหรับแก้ปัญหาพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้ เราจะไม่ให้เปลี่ยนแปลงในปลายปี หรือนำไปใช้ในเรื่องอื่น จะต้องนำงบลงไปให้หมด หรือหากใช้ไม่หมดก็จะต้องผูกพันเอาไว้ โดยจะมีสำนักงบประมาณมาตรวจสอบการใช้งบประมาณด้วย ทั้งนี้หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในวันที่ 8 ส.ค.แล้ว ก็จะเริ่มนำแผนปฏิบัติงานใหม่นี้ไปดำเนินการในทันที
เมื่อถามว่าแผนปฏิบัติการใหม่จะสำเร็จได้หรือ ในเมื่อเหตุการณ์เกิดมานาน 8-9 ปียังแก้ปัญหาไม่ได้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ตอบว่า แผนนี้เป็นแผนปิดช่องว่าง และเพิ่มความกระชับ บูรณาการแต่ละหน่วยให้สมบูรณ์มากขึ้น โดยต่อไปนี้เราจะให้อำนาจแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้เลือกบุคลากรในการปฏิบัติงานได้ด้วยตัวเอง ขณะที่ศูนย์ส่วนกลางก็จะเป็นผู้ประเมินการทำงานของแม่ทัพ ส่วนการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่เป็นเพียงแนวความคิด ยังไม่มีการพูดคุยกัน อย่างไรก็ตามการจะประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่เป็นเรื่องของหน่วยปฏิบัติที่จะเสนอ ขึ้นมา หากไม่เสนอมาระดับนโยบายก็จะไม่สั่งการลงไป สำหรับการแจ้งเตือนรถต้องสงสัยที่จะก่อเหตุคาร์บอม 16 คันนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่เจอ ขณะนี้กำลังติดตามอยู่.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น