วันนี้ (2 ก.ค.) เวลา 09.40 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับสมาชิกเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย
(ค.อ.ท.) ประกอบด้วยสหพันธ์ครูภาคเหนือ ชมรมครูภาคกลาง สมาพันธ์ครูภาคใต้
ชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย กว่า 200 คน
ที่เดินทางเข้าพบเพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจในการทำงาน โดยตัวแทน ค.อ.ท.
กล่าวว่า
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรง มีการบิด
เบือนข้อมูลความจริง มีขบวนการที่มุ่งทำลายความชอบธรรมของนายกรัฐมนตรี
และรัฐบาล พร้อมทั้งขยายปมความขัดแย้งทางสังคม
ประกอบกับมีสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในกลุ่มประเทศยุโรปที่จะส่งผลกระทบต่อ
ประเทศไทย ทำให้คนไทยเกิดความวิตกกังวล ขาดความสุข
และเกิดความแตกแยกในสังคม
จึงเป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ครอบงำและทำลายอำนาจอธิปไตย
ดังนั้นเครือข่าย ค.อ.ท. จึงขอประกาศเจตนารมณ์ร่วมที่จะยืนหยัดเคียงข้างรัฐบาลใน 4 ข้อ ได้แก่ 1. ค.อ.ท.จะสนับสนุนรัฐบาลให้บริหารประเทศต่อไปจนครบวาระ 2.จะปกป้องอำนาจอธิปไตยของปวงชนในการปกป้องคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และความเป็นธรรมให้กับประชาชนอย่างแท้จริง 3.จะร่วมกับทุกองค์กรในการต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ และ 4.ขอสนับสนุนนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ในการขับเคลื่อนโครงการกระทรวงศึกษาไทยใสสะอาด และมุ่งขจัดคอรัปชั่นในทุกรูปแบบต่อไป นอกจากนี้ทาง ค.อ.ท. ยังขอให้ช่วยสนับสนุนการแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับตัวแทนครูว่า ขอขอบคุณและซาบซึ้งต่อองค์กรวิชาชีพครูที่มาให้กำลังใจ เพราะกำลังใจเป็นสิ่งที่ทำให้รัฐบาลพยายามมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อ ประชาชน ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงานก็มีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมาตลอด เริ่มตั้งแต่สถานการณ์อุทกภัย ปัญหาเศรษฐกิจ และยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันกับตัวแทนครูว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ในการดูแลทุกข์สุขและปัญหาของ ประชาชนอย่างเต็มที่และเต็มศักยภาพ และพร้อมที่จะทำงานกับทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน รวมทั้งขอให้ครูซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญ ช่วยกันชี้แจงทำความเข้าใจทั้งในองค์กรครูด้วยกันเอง นักศึกษา และประชาชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ทำอย่างไรที่จะให้เกิดความมั่นใจ และความเชื่อมั่นในประเทศ ความขัดแย้งทางความคิดเกิดขึ้นได้ แต่ขออย่าให้ทำลายความสามัคคี และความเชื่อมั่นของพวกเราทุกคนการที่จะฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปให้ได้
“สถานการณ์ของรัฐบาล 7-8 เดือนที่สามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้ เพราะเรามีความสามัคคี ร่วมกันเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าต่อไปเราก็จะฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้เช่นกัน และดิฉันจะนำกำลังใจที่ได้นี้ไปมอบให้กับ ครม. เพื่อที่จะตั้งหน้าตั้งตาทำงานรับใช้ประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศชาติต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว พร้อมรับปากว่าจะให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการแก้ไขพ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญ ข้าราชการ พ.ศ. 2539 ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะเป็นประโยชน์กับข้าราชการทุกคน.
ดังนั้นเครือข่าย ค.อ.ท. จึงขอประกาศเจตนารมณ์ร่วมที่จะยืนหยัดเคียงข้างรัฐบาลใน 4 ข้อ ได้แก่ 1. ค.อ.ท.จะสนับสนุนรัฐบาลให้บริหารประเทศต่อไปจนครบวาระ 2.จะปกป้องอำนาจอธิปไตยของปวงชนในการปกป้องคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และความเป็นธรรมให้กับประชาชนอย่างแท้จริง 3.จะร่วมกับทุกองค์กรในการต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ และ 4.ขอสนับสนุนนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ในการขับเคลื่อนโครงการกระทรวงศึกษาไทยใสสะอาด และมุ่งขจัดคอรัปชั่นในทุกรูปแบบต่อไป นอกจากนี้ทาง ค.อ.ท. ยังขอให้ช่วยสนับสนุนการแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับตัวแทนครูว่า ขอขอบคุณและซาบซึ้งต่อองค์กรวิชาชีพครูที่มาให้กำลังใจ เพราะกำลังใจเป็นสิ่งที่ทำให้รัฐบาลพยายามมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อ ประชาชน ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงานก็มีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมาตลอด เริ่มตั้งแต่สถานการณ์อุทกภัย ปัญหาเศรษฐกิจ และยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันกับตัวแทนครูว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ในการดูแลทุกข์สุขและปัญหาของ ประชาชนอย่างเต็มที่และเต็มศักยภาพ และพร้อมที่จะทำงานกับทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน รวมทั้งขอให้ครูซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญ ช่วยกันชี้แจงทำความเข้าใจทั้งในองค์กรครูด้วยกันเอง นักศึกษา และประชาชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ทำอย่างไรที่จะให้เกิดความมั่นใจ และความเชื่อมั่นในประเทศ ความขัดแย้งทางความคิดเกิดขึ้นได้ แต่ขออย่าให้ทำลายความสามัคคี และความเชื่อมั่นของพวกเราทุกคนการที่จะฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปให้ได้
“สถานการณ์ของรัฐบาล 7-8 เดือนที่สามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้ เพราะเรามีความสามัคคี ร่วมกันเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าต่อไปเราก็จะฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้เช่นกัน และดิฉันจะนำกำลังใจที่ได้นี้ไปมอบให้กับ ครม. เพื่อที่จะตั้งหน้าตั้งตาทำงานรับใช้ประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศชาติต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว พร้อมรับปากว่าจะให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการแก้ไขพ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญ ข้าราชการ พ.ศ. 2539 ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะเป็นประโยชน์กับข้าราชการทุกคน.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น