เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ ( 28 ส.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล
สุวรรณทัต รมว.กลาโหม
เป็นประธานในการประชุมมอบแนวทางการปฏิบัติราชการกระทรวงกลาโหม
โดยพล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม
ในฐานะรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงกลาโหม
ได้มอบนโยบายการปฏิบัติการให้กับหน่วยขึ้นตรงสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
จากนั้น พล.อ.อ.สุกำพลได้แถลงถึงสาเหตุการโยกย้ายพล.อ.เสถียร
เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม
และพล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์
เจ้ากรมเสมียนตราไปช่วยราชการสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมว่า
การย้ายไปช่วยราชการเป็นสิทธิและอำนาจของรมว.กลาโหมที่มีกฎหมายรองรับชัดเจน
ตนทำไปด้วยความจำเป็น เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เพราะการทำงานเริ่มมีอุปสรรคบ้าง เสมือนเป็นทีมฟุตบอล ตนเป็นผู้จัดการทีม
ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นโค้ช เมื่อโค้ชไม่ดี
แพ้บ่อยก็ต้องปรับตัวออกไปพักก่อน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของการบริหารงาน
ตนทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อให้ประสิทธิภาพดีขึ้น
“เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมเป็นผู้ร้ายอยู่ 2 วัน เหมือนกับผมไปก้าวก่าย ต้องเรียนให้ทราบว่า การโยกย้ายของกระทรวงกลาโหม ผมไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่า จะย้ายใครอย่างไร จะปฏิเสธตลอด เพราะขั้นตอนยังไม่เสร็จสิ้น มีการประชุมไปเพียงครั้งเดียวที่ห้องทำงานผม และยังไม่เห็นบัญชีโยกย้าย จนถึงเวลานี้ก็ยังไม่เห็น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะคนที่เป็นบอร์ดคณะกรรมการในการปรับย้าย ไม่ควรจะหลุดไปข้างนอก หรือบอกให้ใครรู้ หรือไปร้องเรียนอะไร นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่ต้องรู้อยู่แล้ว เมื่อเราดำเนินการเสร็จในขั้นตอนของกระทรวงกลาโหม มันต้องพูดกันได้ เพราะเป็นพี่น้องกัน มีอะไรก็พูดกัน ผมเป็นคนพูดง่าย ทำให้ต้องมีการตัดสินใจปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เพื่อให้ดีขึ้นและผมคิดว่า กระทรวงกลาโหมคงเป็นปึกแผ่น เรื่องนี้จะแถลงแค่ครั้งเดียว เพราะเป็นเรื่องที่น่าอายของกระทรวงกลาโหมที่ต้องแถลงเรื่องนี้ จะไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆทั้งสิ้นอีก ส่วนการจัดทำบัญชีโยกย้ายขณะนี้ขั้นตอนยังไม่เสร็จสิ้น คิดว่าคงเสร็จภายในสัปดาห์นี้ตามกติกา และการโยกย้ายที่จะทำต่อไปนั้น ต้องทำตามกติกาทุกอย่าง ผมมีเพียงเสียงเดียวและคณะกรรมการ 6 คนก็มีเสียงเดียวเหมือนกัน”รมว.กลาโหม กล่าว
เมื่อถามว่า สาเหตุจริงๆในการโยกย้ายคือ การนำความลับเกี่ยวกับบัญชีโยกย้ายไปแจ้งให้นายกฯรับทราบใช่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เป็นสิ่งหนึ่ง เพราะยังอยู่ในขั้นตอนกระทรวงกลาโหม และเป็นขั้นตอนที่น่าจะรู้กันเฉพาะในบอร์ด ไม่ควรให้ใครรู้ แต่กลับหลุดไปหมด สิ่งเหล่านี้ไม่ถูกต้อง เราเป็นทหาร ในวงการนี้ต้องเด็ดขาด ถ้าปกครองไม่ได้ มันก็อยู่ไม่ได้ เราอยู่ในเรื่องของความมั่นคง ดังนั้นต้องเด็ดขาด เมื่อถามต่อว่าแล้วขณะนี้ยังผลักดัน พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผบ.ทบ.เป็นปลัดกระทรวงกลาโหมอยู่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า การพิจารณายังไม่เสร็จสิ้น คงจะพูดไม่ได้ ตนไม่เคยพูดว่าจะผลักดันใคร ทั้งนี้พล.อ.เสถียร ไม่มีสิทธิ์ที่จะร่วมประชุมบอร์ดคณะกรรมการปรับย้ายแล้ว โดยรักษาการปลัดกระทรวงกลาโหมจะมีหน้าที่เหมือนปลัดทุกอย่าง อย่าไปพูดว่า ตนเอาพล.อ.เสถียร ออกไปแล้ว เท่ากับตนสบายขึ้นในการโยกย้าย ตนมีเสียงเดียวเหมือนเดิม
เมื่อถามว่าจะกลายเป็นมาตรฐานหรือไม่ว่าหากใครมาปฏิบัติอย่างนี้จะต้อง โดนโยกย้าย พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า การทำอะไรจะต้องรอบคอบ ทหารที่เกษียณออกไปจำนวนมากโทรมาให้กำลังใจตน แต่ตนไม่ได้ดีใจ เพราะเป็นเรื่องน่าอายของกระทรวงกลาโหม ที่คุยกันข้างในยังไม่พอ ต้องไปคุยกันข้างนอก ส่วนการดำเนินการต้องดูเป็นแต่ละกรณี ตนไม่ได้เป็นคนที่โหดเหี้ยม แต่ทำด้วยเหตุผล ส่วนกรณีที่พล.อ.ชาตรี เตรียมทำเรื่องฟ้องร้องเรียนขอความเป็นธรรมนั้น ก็ว่ามา ตนก็จะให้ความเป็นธรรม ถ้าพล.อ.ชาตรีเดินมาคุย ตนก็จะคุยด้วย ใครก็แล้วแต่ตนคุยด้วยหมด ส่วนตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมจะต้องมาจากอัตราจอมพลหรือไม่นั้น ระเบียบว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น ระเบียบบอกไว้ชัดเจนว่า จะมาจากจอมพลก็ได้ หรือมาจาก พล.อ.ก็ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.เสถียร ระบุว่า อาจมีการย้ายผบ.เหล่าทัพในลักษณะเดียวกัน พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ต้องดูเป็นกรณี เพราะผบ.เหล่าทัพไม่ได้ทำแบบนั้น และเขามีความรับผิดชอบที่ดี ตนอยู่ใกล้ชิดกับพล.อ.เสถียร ไม่น่าจะมีเรื่องแบบนี้ แต่ผบ.เหล่าทัพก็น่ารัก
“ผมเป็นทหารในคราบนักการเมือง คือเป็นรมว.กลาโหมที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของฝ่ายทหาร แต่เป็นทหารตลอดชีวิต สามารถพูดกับน้องๆได้รู้เรื่อง เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผมทำด้วยความที่ต้องทำ และ ด้วยความถูกต้อง ผมไม่ใช่คนที่จะไปทุบโต๊ะทำแบบนั้น พูดตลอดเวลา น้องๆทุกคนเข้าใจดี และมาคุยกับผม ใครจะมาคุยกับผมก็ได้ รวมถึงทั้ง 3 คนที่ถูกโยกย้าย ไม่มีอะไร เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ส่วนเขาจะร้องเรียนอย่างไรต้องไปถามเขา ไม่สามารถตอบแทนได้ ซึ่งทั้ง 3 คน มีงานให้ทำ โดยจะเสนอวันนี้ว่า ให้ไปทำอะไรบ้าง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีทราบเรื่องดังกล่าวแล้วจากสื่อมวลชน และได้รายงานให้ท่านทราบ การลงนามโยกย้าย เป็นการตัดสินใจของผมเอง และผมก็ทำเอง”รมว.กลาโหม กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงไม่เห็นด้วยกับการโยกย้ายครั้งนี้ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ตนไม่เคยได้ยินข่าว ไม่เช่นนั้นทั้งสองท่านคงโทรมาท้วงติงกับตนแล้ว เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่า ปัญหาจะไม่จบง่ายๆ และมีคลื่นใต้น้ำสร้างความขัดแย้งออกไปอีก พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ถ้าสื่อไม่ขายข่าวมากก็จบ เพราะทหารคือทหาร ต้องเข้าใจ การโยกย้ายก็ยังมีต่อไป.
“เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมเป็นผู้ร้ายอยู่ 2 วัน เหมือนกับผมไปก้าวก่าย ต้องเรียนให้ทราบว่า การโยกย้ายของกระทรวงกลาโหม ผมไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่า จะย้ายใครอย่างไร จะปฏิเสธตลอด เพราะขั้นตอนยังไม่เสร็จสิ้น มีการประชุมไปเพียงครั้งเดียวที่ห้องทำงานผม และยังไม่เห็นบัญชีโยกย้าย จนถึงเวลานี้ก็ยังไม่เห็น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะคนที่เป็นบอร์ดคณะกรรมการในการปรับย้าย ไม่ควรจะหลุดไปข้างนอก หรือบอกให้ใครรู้ หรือไปร้องเรียนอะไร นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่ต้องรู้อยู่แล้ว เมื่อเราดำเนินการเสร็จในขั้นตอนของกระทรวงกลาโหม มันต้องพูดกันได้ เพราะเป็นพี่น้องกัน มีอะไรก็พูดกัน ผมเป็นคนพูดง่าย ทำให้ต้องมีการตัดสินใจปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เพื่อให้ดีขึ้นและผมคิดว่า กระทรวงกลาโหมคงเป็นปึกแผ่น เรื่องนี้จะแถลงแค่ครั้งเดียว เพราะเป็นเรื่องที่น่าอายของกระทรวงกลาโหมที่ต้องแถลงเรื่องนี้ จะไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆทั้งสิ้นอีก ส่วนการจัดทำบัญชีโยกย้ายขณะนี้ขั้นตอนยังไม่เสร็จสิ้น คิดว่าคงเสร็จภายในสัปดาห์นี้ตามกติกา และการโยกย้ายที่จะทำต่อไปนั้น ต้องทำตามกติกาทุกอย่าง ผมมีเพียงเสียงเดียวและคณะกรรมการ 6 คนก็มีเสียงเดียวเหมือนกัน”รมว.กลาโหม กล่าว
เมื่อถามว่า สาเหตุจริงๆในการโยกย้ายคือ การนำความลับเกี่ยวกับบัญชีโยกย้ายไปแจ้งให้นายกฯรับทราบใช่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เป็นสิ่งหนึ่ง เพราะยังอยู่ในขั้นตอนกระทรวงกลาโหม และเป็นขั้นตอนที่น่าจะรู้กันเฉพาะในบอร์ด ไม่ควรให้ใครรู้ แต่กลับหลุดไปหมด สิ่งเหล่านี้ไม่ถูกต้อง เราเป็นทหาร ในวงการนี้ต้องเด็ดขาด ถ้าปกครองไม่ได้ มันก็อยู่ไม่ได้ เราอยู่ในเรื่องของความมั่นคง ดังนั้นต้องเด็ดขาด เมื่อถามต่อว่าแล้วขณะนี้ยังผลักดัน พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผบ.ทบ.เป็นปลัดกระทรวงกลาโหมอยู่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า การพิจารณายังไม่เสร็จสิ้น คงจะพูดไม่ได้ ตนไม่เคยพูดว่าจะผลักดันใคร ทั้งนี้พล.อ.เสถียร ไม่มีสิทธิ์ที่จะร่วมประชุมบอร์ดคณะกรรมการปรับย้ายแล้ว โดยรักษาการปลัดกระทรวงกลาโหมจะมีหน้าที่เหมือนปลัดทุกอย่าง อย่าไปพูดว่า ตนเอาพล.อ.เสถียร ออกไปแล้ว เท่ากับตนสบายขึ้นในการโยกย้าย ตนมีเสียงเดียวเหมือนเดิม
เมื่อถามว่าจะกลายเป็นมาตรฐานหรือไม่ว่าหากใครมาปฏิบัติอย่างนี้จะต้อง โดนโยกย้าย พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า การทำอะไรจะต้องรอบคอบ ทหารที่เกษียณออกไปจำนวนมากโทรมาให้กำลังใจตน แต่ตนไม่ได้ดีใจ เพราะเป็นเรื่องน่าอายของกระทรวงกลาโหม ที่คุยกันข้างในยังไม่พอ ต้องไปคุยกันข้างนอก ส่วนการดำเนินการต้องดูเป็นแต่ละกรณี ตนไม่ได้เป็นคนที่โหดเหี้ยม แต่ทำด้วยเหตุผล ส่วนกรณีที่พล.อ.ชาตรี เตรียมทำเรื่องฟ้องร้องเรียนขอความเป็นธรรมนั้น ก็ว่ามา ตนก็จะให้ความเป็นธรรม ถ้าพล.อ.ชาตรีเดินมาคุย ตนก็จะคุยด้วย ใครก็แล้วแต่ตนคุยด้วยหมด ส่วนตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมจะต้องมาจากอัตราจอมพลหรือไม่นั้น ระเบียบว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น ระเบียบบอกไว้ชัดเจนว่า จะมาจากจอมพลก็ได้ หรือมาจาก พล.อ.ก็ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.เสถียร ระบุว่า อาจมีการย้ายผบ.เหล่าทัพในลักษณะเดียวกัน พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ต้องดูเป็นกรณี เพราะผบ.เหล่าทัพไม่ได้ทำแบบนั้น และเขามีความรับผิดชอบที่ดี ตนอยู่ใกล้ชิดกับพล.อ.เสถียร ไม่น่าจะมีเรื่องแบบนี้ แต่ผบ.เหล่าทัพก็น่ารัก
“ผมเป็นทหารในคราบนักการเมือง คือเป็นรมว.กลาโหมที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของฝ่ายทหาร แต่เป็นทหารตลอดชีวิต สามารถพูดกับน้องๆได้รู้เรื่อง เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผมทำด้วยความที่ต้องทำ และ ด้วยความถูกต้อง ผมไม่ใช่คนที่จะไปทุบโต๊ะทำแบบนั้น พูดตลอดเวลา น้องๆทุกคนเข้าใจดี และมาคุยกับผม ใครจะมาคุยกับผมก็ได้ รวมถึงทั้ง 3 คนที่ถูกโยกย้าย ไม่มีอะไร เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ส่วนเขาจะร้องเรียนอย่างไรต้องไปถามเขา ไม่สามารถตอบแทนได้ ซึ่งทั้ง 3 คน มีงานให้ทำ โดยจะเสนอวันนี้ว่า ให้ไปทำอะไรบ้าง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีทราบเรื่องดังกล่าวแล้วจากสื่อมวลชน และได้รายงานให้ท่านทราบ การลงนามโยกย้าย เป็นการตัดสินใจของผมเอง และผมก็ทำเอง”รมว.กลาโหม กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงไม่เห็นด้วยกับการโยกย้ายครั้งนี้ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ตนไม่เคยได้ยินข่าว ไม่เช่นนั้นทั้งสองท่านคงโทรมาท้วงติงกับตนแล้ว เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่า ปัญหาจะไม่จบง่ายๆ และมีคลื่นใต้น้ำสร้างความขัดแย้งออกไปอีก พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ถ้าสื่อไม่ขายข่าวมากก็จบ เพราะทหารคือทหาร ต้องเข้าใจ การโยกย้ายก็ยังมีต่อไป.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น