วันนี้ (28 ส.ค.) ที่กระทรวงการคลัง นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร
เปิดเผยว่า กรณีมีข่าวการเสียภาษีของดารานักแสดง น.ส.ไลลา บุญยศักดิ์
อาจมีการเสียภาษีคลาดเลื่อนจากความเป็นจริงนั้น
การเสียภาษีของดารานักแสดงต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 5%
ของเงินที่ได้รับ และเมื่อหักแล้วก็ต้องนำส่งกรมสรรพากรภายใน 7 วัน
นับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงินได้ เมื่อสิ้นปี
ดารานักแสดงก็ต้องนำเงินได้ทั้งหมดไปรวมคำนวณภาษีปลายปีโดยนำภาษีที่ถูกหัก
ไว้มาเครดิตออกจากภาษีสิ้นปีได้
“การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเมื่อสิ้นปีนั้น ก็คำนวณโดยนำเงินได้ทั้งหมดหักด้วยค่าใช้จ่าย กฎหมายกำหนดให้หักได้ตามจริงหรือในอัตราเหมาที่กฎหมายกำหนดและหักค่าลดหย่อน ก่อนจะนำเงินได้สุทธิไปคำนวณอัตราภาษีเงินได้อัตราก้าวหน้า เมื่อได้ภาษีที่ต้องชำระแล้ว ก็นำภาษีที่ถูกหักไว้แล้วมาเครดิตได้” นายสาธิต กล่าว
และว่า สำหรับที่มีการหลีกเลี่ยงภาษีโดยการใช้บุคคลอื่นเป็นผู้รับเงินแทนและทำให้ การหักภาษี ณ ที่จ่ายผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงนั้น ผู้จ่ายและผู้รับเงินมีความรับผิดร่วม หากดาราได้รับเงินได้ในเดือนส.ค. บริษัทผู้จ่ายเงินได้ก็ต้องนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายภายในวันที่ 7 ก.ย.นี้ กรมสรรพากรจะตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายในทันที และหากสิ้นปียังยื่นแบบเสียภาษีประจำปีไม่ถูกต้องอีก ทั้งผู้จ่ายและผู้รับเงิน ต่างก็มีความผิด
อย่างไรก็ตาม กรมสรรพากรจะดำเนินการตามกฎหมายอีกครั้งต่อไป การนำบุคคลอื่นมารับเงินแทนเพื่อให้การเสียภาษี ไม่ถูกต้องครบถ้วน ผู้รับเงินที่แท้จริงต้องรับผิดชอบต่อกรมสรรพากร และหากผู้จ่ายเงินร่วมมือกับผู้รับเงินก็มีความผิดด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้ง กรมสรรพากรจะนำเรื่องคณะบุคคลกับห้างหุ้นส่วนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อให้มีความชัดเจนในการเสียภาษี เพราะทั้ง 2 กรณีมีการเสียภาษีที่แตกต่างกัน.
“การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเมื่อสิ้นปีนั้น ก็คำนวณโดยนำเงินได้ทั้งหมดหักด้วยค่าใช้จ่าย กฎหมายกำหนดให้หักได้ตามจริงหรือในอัตราเหมาที่กฎหมายกำหนดและหักค่าลดหย่อน ก่อนจะนำเงินได้สุทธิไปคำนวณอัตราภาษีเงินได้อัตราก้าวหน้า เมื่อได้ภาษีที่ต้องชำระแล้ว ก็นำภาษีที่ถูกหักไว้แล้วมาเครดิตได้” นายสาธิต กล่าว
และว่า สำหรับที่มีการหลีกเลี่ยงภาษีโดยการใช้บุคคลอื่นเป็นผู้รับเงินแทนและทำให้ การหักภาษี ณ ที่จ่ายผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงนั้น ผู้จ่ายและผู้รับเงินมีความรับผิดร่วม หากดาราได้รับเงินได้ในเดือนส.ค. บริษัทผู้จ่ายเงินได้ก็ต้องนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายภายในวันที่ 7 ก.ย.นี้ กรมสรรพากรจะตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายในทันที และหากสิ้นปียังยื่นแบบเสียภาษีประจำปีไม่ถูกต้องอีก ทั้งผู้จ่ายและผู้รับเงิน ต่างก็มีความผิด
อย่างไรก็ตาม กรมสรรพากรจะดำเนินการตามกฎหมายอีกครั้งต่อไป การนำบุคคลอื่นมารับเงินแทนเพื่อให้การเสียภาษี ไม่ถูกต้องครบถ้วน ผู้รับเงินที่แท้จริงต้องรับผิดชอบต่อกรมสรรพากร และหากผู้จ่ายเงินร่วมมือกับผู้รับเงินก็มีความผิดด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้ง กรมสรรพากรจะนำเรื่องคณะบุคคลกับห้างหุ้นส่วนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อให้มีความชัดเจนในการเสียภาษี เพราะทั้ง 2 กรณีมีการเสียภาษีที่แตกต่างกัน.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น