วันนี้ (22 ต.ค.)
ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยศักดิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าสอบปากคำ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ
รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กรณีถูกพาดพิงว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปล่อยข่าว
กรณีไซฟ่อนเงิน 1.6 หมื่นล้านบาทไปฮ่องกง โดย พ.ต.อ.นิรันดร์
เปิดเผยภายหลังการสอบปากคำว่า เป็นขั้นตอนการค้นหาความจริงในชั้นสืบสวน
ยังไม่มีการตั้งเป้าเอาผิดบุคคลใด
แต่จำเป็นต้องสอบถามข้อเท็จจริงไปตามที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
โฆษกพรรคเพื่อไทย ร้องให้ตรวจสอบ
พ.ต.อ.ดุษฎี ในฐานะที่ให้ข่าวเรื่องดังกล่าว
หลังจากนี้จะเข้าสอบปากคำนายพร้อมพงศ์ในฐานะผู้ร้อง
ก่อนพิจารณาว่าการสอบสวนจะเข้าข่ายฐานความผิดใดหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎี เปิดเผยว่า ได้ชี้แจงกับ พ.ต.อ.นิรันดร์ ตามที่เคยทำหนังสือชี้แจงต่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ไปก่อนหน้านี้ว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าวและไม่ได้เป็นผู้ให้ข่าวคดีไซฟ่อน เงิน ทั้งนี้ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ต้องการเป็นพยานเรื่องนี้ หลังมีกระแส ข่าวดังกล่าวได้มีโอกาสพบนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือ ข่ายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ภชต.) เนื่องจากต้องเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการ ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว เพราะไม่ต้องการให้เป็นประเด็นทางการเมือง
ขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงการสอบปากคำ พ.ต.อ.ดุษฎี ว่า เป็นเพียงขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นกรณีนายพร้อมพงศ์ ร้องเรียนกล่าวหานายมงคลกิตติ์ และพ.ต.อ. ดุษฎี ปล่อยข่าวการไซฟ่อนให้เกิดความระส่ำระสายและความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถือเป็นคดี จึงยังไม่มีการสอบสวนแต่เป็นเพียงการเชิญเข้าให้ข้อมูลเท่านั้น ส่วนกรณีที่ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เรียกตนและพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าพบในวันที่ 24 ต.ค. เวลา 14.00 น. ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นการเรียกประชุมในเรื่องใด แต่คาดการณ์ว่าอาจมีการสั่งการให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว
วันเดียวกัน พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สังกัดสันติบาล เข้ายื่นหนังสือและเอกสารต่าง ๆ ถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลบุคคลและเครือข่ายรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โอนหรือรับโอนเงินต่างประเทศ อันเป็นการสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำการฟอกเงิน ให้ตำรวจดำเนินการ
พ.ต.ท.สันธนะ เปิดเผยว่า มายื่นหลักฐานในฐานะประชาชน ไม่ได้เป็นตัวแทนฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวว่ามีการตรวจพบการไซฟ่อนเงิน จำนวน 16,000 ล้านบาท จากประเทศไทยไปยังฮ่องกง โดยน่าจะเป็นการทุจริตเงินงบประมาณจากการบริหารราชการของรัฐบาล จากข้อมูลของตนคิดว่าไม่น่าเป็นการไซฟ่อนเงินที่ต้องใช้ช่องทางตามระบบของ สถาบันการเงินที่จะตรวจสอบได้โดยภาครัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้หลายฝ่ายยืนยันว่าไม่มีข้อมูลธุรกรรมของเงิน
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า หากยอดเงินดังกล่าวมีการถ่ายโอนจริงจะเป็นลักษณะการฟอกเงิน 16,000 ล้านบาท ซึ่งยอดเงินดังกล่าวไม่สามารถทำได้ในครั้งเดียว ต้องดำเนินการมาหลายเดือนแล้วซึ่งกลุ่มบุคคลและเครือข่ายดังกล่าวต้องมี กิจการเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ตนมีข้อมูลทราบว่ามีกลุ่มบุคคลบางคนที่พูดได้ว่าเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ของ ฮ่องกง เข้าไป
ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎี เปิดเผยว่า ได้ชี้แจงกับ พ.ต.อ.นิรันดร์ ตามที่เคยทำหนังสือชี้แจงต่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ไปก่อนหน้านี้ว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าวและไม่ได้เป็นผู้ให้ข่าวคดีไซฟ่อน เงิน ทั้งนี้ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ต้องการเป็นพยานเรื่องนี้ หลังมีกระแส ข่าวดังกล่าวได้มีโอกาสพบนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือ ข่ายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ภชต.) เนื่องจากต้องเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการ ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว เพราะไม่ต้องการให้เป็นประเด็นทางการเมือง
ขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงการสอบปากคำ พ.ต.อ.ดุษฎี ว่า เป็นเพียงขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นกรณีนายพร้อมพงศ์ ร้องเรียนกล่าวหานายมงคลกิตติ์ และพ.ต.อ. ดุษฎี ปล่อยข่าวการไซฟ่อนให้เกิดความระส่ำระสายและความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถือเป็นคดี จึงยังไม่มีการสอบสวนแต่เป็นเพียงการเชิญเข้าให้ข้อมูลเท่านั้น ส่วนกรณีที่ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เรียกตนและพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าพบในวันที่ 24 ต.ค. เวลา 14.00 น. ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นการเรียกประชุมในเรื่องใด แต่คาดการณ์ว่าอาจมีการสั่งการให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว
วันเดียวกัน พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สังกัดสันติบาล เข้ายื่นหนังสือและเอกสารต่าง ๆ ถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลบุคคลและเครือข่ายรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โอนหรือรับโอนเงินต่างประเทศ อันเป็นการสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำการฟอกเงิน ให้ตำรวจดำเนินการ
พ.ต.ท.สันธนะ เปิดเผยว่า มายื่นหลักฐานในฐานะประชาชน ไม่ได้เป็นตัวแทนฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวว่ามีการตรวจพบการไซฟ่อนเงิน จำนวน 16,000 ล้านบาท จากประเทศไทยไปยังฮ่องกง โดยน่าจะเป็นการทุจริตเงินงบประมาณจากการบริหารราชการของรัฐบาล จากข้อมูลของตนคิดว่าไม่น่าเป็นการไซฟ่อนเงินที่ต้องใช้ช่องทางตามระบบของ สถาบันการเงินที่จะตรวจสอบได้โดยภาครัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้หลายฝ่ายยืนยันว่าไม่มีข้อมูลธุรกรรมของเงิน
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า หากยอดเงินดังกล่าวมีการถ่ายโอนจริงจะเป็นลักษณะการฟอกเงิน 16,000 ล้านบาท ซึ่งยอดเงินดังกล่าวไม่สามารถทำได้ในครั้งเดียว ต้องดำเนินการมาหลายเดือนแล้วซึ่งกลุ่มบุคคลและเครือข่ายดังกล่าวต้องมี กิจการเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ตนมีข้อมูลทราบว่ามีกลุ่มบุคคลบางคนที่พูดได้ว่าเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ของ ฮ่องกง เข้าไป
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น