พสกนิกรทั่วไทยถวายอาลัยพระศพเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ

พสกนิกรทั่วหล้าส่ง" สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี"สู่สวรรคาลัย

พสกนิกรทั่วหล้าร่วมถวายอาลัย

วันนี้ (9 เม.ย.)  ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ  บริเวณหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ตรงข้ามหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน มีประชาชนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลมารอเฝ้าชมริ้วขบวนพระอิสริยยศ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี    ส่วนบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า มีประชาชนแต่งกายชุดดำ ทยอยเดินเท้าข้ามสะพานจากฝั่งธนบุรีเพื่อเข้ามาร่วมในพระราชพิธี อย่างต่อเนื่อง บางรายใช้วิธีนั่งเรือข้ามฟากมา แล้วเดินเท้าเข้ามาจับจองที่นั่งรอบพื้นที่สนามหลวง  นอกจากนี้ก็ยังมีชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจต่างพากันเข้ามาสอบถามถึงรายละเอียดของงานพระราชพิธีดังกล่าว

ส่วนบรรยากาศบริเวณหน้าศาลฎีกามีประชาชนมาจับจองที่นั่งกันตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อร่วมถวายสักการะและร่วมไว้อาลัยอย่างใกล้ชิดให้ได้มากที่สุด โดยมีประชาชนทั้งชาวต่างประเทศ อาทิ ชาวอิสราเอล เบลเยี่ยม แคนาดา ฝรั่งเศส และจีน พร้อมทั้งประชาชนชาวไทยจากทั่วสารทิศที่มาแบบครอบครัว  บางคนได้เตรียมดอกไม้ธูป เทียน มากราบระหว่างที่ขบวนพระมหาพิชัยราชรถ อัญเชิญพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพผ่าน

ทยอยรับเสด็จตั้งแต่ช่วงเช้า

นางกุลชา เปรมสมาน อายุ 79 ปี อดีตพนักงาน รพ.จุฬาลงกรณ์ บอกว่า เดินทางนั่งรอตั้งแต่ช่วงเช้า แม้ตนเองจะเดินไม่ได้ แต่ก็ให้ลูกสาวพานั่งรถเข็นมา เพื่อจะได้ร่วมส่งเสด็จสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สู่สรวงสวรรค์เป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ ที่วังรื่นฤดีเพียง 3 ครั้ง แต่ก็รู้สึกซาบซึ้งถึงพระกรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทย ทรงมีพระทัยที่ดียิ่ง และทรงเป็นแบบอย่างในด้านการทรงงานแบบส ่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นงานเพื่อการกุศลที่ตนเองได้นำเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยการช่วยงานของสมาคมสังคมสงเคราะห์ต่างๆ

นางบัวขาว มาตุการุญ อายุ 63 ปี บอกว่า ตั้งใจมาร่วมงานมากๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้ป่วยป็นโรคมะเร็งกระดูก และต้องตัดแขนขวาทิ้ง แต่ขายังเดินได้ปกติ จึงภาวนาให้แผลจากการผ่าตัดหายก่อนถึงวันพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ เพื่อจะได้มาร่วมส่งเสด็จสวรรค์คาลัย  เพราะเคยมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงพระศพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งถือเป็นพิธีสำคัญและเป็นการส่งเสด็จสู่สวรรค์เป็นครั้งสุดท้ายที่จะสามารถทำได้
ด้านนางฉลวย อิน ทรศิริ อายุ 50 ปี เผยว่า เดินทางมาร่วมงานตั้งแต่เวลา 04.00 น. ของวันนี้ เพื่อพาลูกๆ มารอร่วมส่งเสด็จสมเด็จเจ้าฟ้าฯ และชมริ้วขบวนที่งดงามสมพระเกียรติ ซึ่งตนเองและครอบครัวรู้สึกเสียใจมาก ที่เสียเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินที่มีพระจริยวัตรอันงดงาม และทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะด้านการศึกษา ทรงมีพระกรุณาธิคุณในการสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เด็กๆ

คุณยายวัย87ปีร่วมถวายอาลัย

นางกุ้ย ผดุงกิจ อายุ 87 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ 10 ต.ศีรษะกระบือ อ.องครักษ์ จ.นครนายก กล่าวว่า ช่วงเย็นวานนี้ (8 เม.ย.) ตนกับหลานสาวเดินทางจากบ้านพักที่จ.นครนายก มาพักที่ย่านรังสิต เพื่อเตรียมตัวเดินทางมาร่วมงานพระราชพิธีแต่เช้า ตอนแรกลูกหลานก็ห้ามไม่ให้มาเพราะเป็นห่วงสุขภาพ แต่ตนก็อยากจะมาร่วมงานจึงให้หลานสาวมาส่งที่สนามหลวงแล้วเดินเข้ามาคนเดียว ตนเคยเดินทางมาร่วมพระราชทานเพลิงพระศพพระบรมวงศานุวงศ์มาแล้ว 3 พระองค์ ตั้งแต่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ,สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ส่วนงานพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่านั้นไม่ได้มา เพราะป่วย  ทุกครั้งที่มาร่วมงานรู้สึกปลาบปลื้ม ไม่ว่าลูกหลานจะห้ามอย่างไรก็ตั้งใจจะมาให้ได้

ขณะที่นางมณีพรรณ ถุงจินดา ประชาชนย่านจตุจักร กล่าวว่า ตนและตรอบครัวเดินทางมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงพระศพตั้งแต่ในช่วงเช้า และรู้สึกภาคภูมิใจ ที่ได้เห็นพิธีโบราณราชประเพณีของราชวงศ์ไทย และจะอยู่รอเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะพระราชดำเนินมาร่วมพิธีในช่วงเย็นด้วย

นักท่องเที่ยวประทับใจริ้วขบวน

นายเซอิด ลารี่ นักท่องเที่ยวชาวแคนาดา  หนึ่งในผู้ที่เดินทางมาร่วมชมพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคิณีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดา สิริโสภาพรรณวดี กล่าวว่า  ตนเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา รับทราบข่าวพิธีพระราชทานเพลิงพระศพในวันนี้จากอินเตอร์เน็ต และตั้งใจเดินทางมาร่วมแสดงความไว้อาลัย ในประเทศแคนาดา ไม่มีสถาบันกษัตริย์เหมือนประเทศไทย จึงรู้สึกซาบซึ้งใจ ที่ได้เห็นประชาชนชาวไทย ร่วมเดินทางมาร่วมพิธีกันอย่างเนืองแน่น รวมไปถึงการได้เห็นริ้วขบวนพระอิสรยยศ และกองทหาร ซึ่งแต่งกายเต็มยศ ทำให้รู้สึกน่าตื่นตาตื่นใจมาก

ด้านนักท่องเที่ยวชายชาวอังกฤษวัย 58 ปี กล่าวว่า ตนรู้สึกว่า การที่ได้มาเห็นริ้วขบวนพระอิสริยยศในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต และเป็นวัฒนธรรมประเพณีที่เก่าแก่ของประเทศไทย ก่อนหน้านี้ ตนได้เข้าร่วมชมขบวนในพิธีซ้อมใหญ่ ที่ผ่านมาด้วย และในพิธีจริงวันนี้ ได้เห็นประชาชนชาวไทยจำนวนมาก เข้ามาร่วมถวายความอาลัยและความจงรักภักดี โดยพร้อมเพรียงกัน รู้สึกทึ่งมาก

ถ่ายทอดสดงานพระราชพิธีทั่วโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ตามโบราณราชประเพณีสุดยิ่งใหญ่ตระการตานั้น ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ได้จัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดโทรทัศน์นานาชาติ (IBC) ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทำการถ่ายทอดสดและบันทึกสัญญาณเพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนชาวไทยและต่างชาติ ได้รับชมโดยพร้อมเพรียงกัน และส่งผ่านสัญญาณดาวเทียมไปทั่วโลกทางเครือข่ายไทย โกลบอล ทั้งหมด 6 ทวีป 177 ประเทศทั่วโลก และส่งสัญญาณวิทยุถ่ายทอดเสียงภาคภาษาไทยคลื่นความถี่ เอฟเอ็ม92.5, เอเอ็ม 819 และคลื่นความถี่ เอฟเอ็ม 88, เอเอ็ม 918 สำหรับภาคภาษาอังกฤษ

จัดมหรสพงานออกพระเมรุยิ่งใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางกรมศิลปากร ได้จัดมหรสพงานออกพระเมรุ โดยจัดการแสดงมหรสพบนเวทีกลางแจ้ง บริเวณท้องสนามหลวง  3 เวที กำหนดการแสดงในวันพระราชทานเพลิงพระศพในวันนี้ ( 9 เม.ย.) ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึงเวลา 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) ใช้เวลาการแสดงทั้งสิ้น  10 ชั่วโมง โดยจะหยุดการแสดงในช่วงเวลาพระราชทานเพลิงจริง ประมาณ 1 ชั่วโมง มีการแสดงหน้าพระเมรุ และแต่ละเวทีดังนี้ การแสดงหน้าพระเมรุ เรื่องรามเกียรติ์ ชุด นางลอย, เวทีที่ 1 ด้านสะพานพระปิ่นเกล้า การแสดงหนังใหญ่ ชุดเบิกหน้าพระ- จับลิงหัวค่ำ และโขนหน้าจอ เรื่องรามเกียรติ์ รวม 16 ตอน ได้แก่ ตอนสีดาหาย , ตอนปราบพญาขร พญาฑูษณ์ ,ตอนตามกวาง , ตอนระบำวานรพงศ์ , ตอนพิเภษณ์ถูกขับ- สวามิภักดิ์ , ตอนจองถนน , ตอนศุขะ สารัณ ปลอมพล , ตอนองคตสื่อสาร , ตอนศึกนาคบาศ , ตอนระบำอสุรพงศ์ , ตอนศึกทศกัณฑ์ ครั้งแรก ทัพสิบขุนสิบรถ และตอนพระรามคืนนคร

เวทีที่ 2 ด้านศาลฎีกา มีการแสดง 3 เรื่องได้แก่ การแสดงหุ่นกระบอก เรื่องพระอภัยมณี ตอนศึกเก้าทัพถึงพบละเวง, ละครพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที 6 เรื่องศกุลตลา ตอนท้าวทุษยันต์พบนางศกุลตลา, และละครนอก เรื่องสังข์ทอง ตอนพระสังข์หนีนางพันธุรัตถึงพระสังข์พบพระมารดา เริ่มแสดงเวลา 19.00 น. และเสร็จสิ้นเวลา 05.00 น. ในวันที่ 10 เม.ย.ใช้เวลาแสดงรวม 9 ชม. ส่วนเวทีที่ 3 ด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นการแสดงบรรเลง-ขับร้อง โดยวงดนตรีสากล จำนวน 3 วง ได้แก่ วงซียูแบนด์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , วงกรมประชาสัมพันธ์ และคณะนักร้องประสานเสียงสันติราษฎร์ในพระอุปถัมภ์

สายฝนกระหน่ำรอบพระราชพิธี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงเวลา 12.30 น.ซึ่งเป็นเวลาที่เปิดให้ถวายดอกไม้จันทน์ตามจุดต่างๆ ซึ่งทางกรุงเทพมหานครจัดเตรียมไว้ให้กับประชาชน สายฝนได้เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักบริเวณพื้นที่สนามหลวง  โดยฝนตกลงมากว่าครึ่งชั่วโมง ทำให้มีประชาชนบางส่วนต้องวิ่งหลบฝน แต่ก็ยังมีประชาชนบางส่วนได้ออกไปยืนรอรับดอกไม้จันทน์ หลังจากนั้นเมื่อฝนหยุดตกประชาชนก็เริ่มทยอยต่อแถวรอรับดอกไม้จันทน์กันจนเต็มพื้นที่ของแต่ละจุด โดยประชาชนที่ไปถวายดอกไม้จันทน์จะได้รับแจกหนังสือที่ระลึกงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดาฯ  พร้อมทั้งแผ่นพับประวัติของพระองค์   ทั้งนี้สำหรับการถวายดอกไม้จันทน์งานพระราชพิธีฯ ในครั้งนี้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้จัดเตรียมจุดถวายฯ ไว้ทั้งสิ้น 5 จุด ได้แก่ บริเวณทิศเหนือมณฑลพิธีท้องสนามหลวง 3 จุด บริเวณท่าช้างและบริเวณบาทวิถีฝั่งตรงข้ามรูปปั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผม อย่างละ 1 จุด ซึ่งเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมถวายฯ 2 รอบ คือตั้งแต่เวลา 12.30-15.30 น. และ 18.00-21.00 น.โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักการศึกษา กทม. ลูกเสือ เทศกิจ และตำรวจตระเวนชายแดน คอยอำนวยความสะดวกประชาชน.

พ่อเมืองเพชรบุรนำถวายความอาลัย

ส่วนบรรยากาศในต่างจังหวัด พสกนิกรทั่วไทย  ได้ร่วมแสดงความจงรักภักดีและแสดงความอาลัยงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยที่วิหารหลวงวัดมหาธาตุวรวิหาร นายวินัย  บัวประดิษฐ์  ผวจ.เพชรบุรี เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระฉายาลักษณ์ ในพิธีบำเพ็ญกุศลถวายพระศพและพิธีถวายดอกไม้จันทน์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก เมื่อประธานจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระรูปในวิหารหลวง พระสงฆ์ 10 รูปสวดมหาปฐาน(เหตุปัจจโย ) 1 จบ เจ้าหน้าที่อัญเชิญพระฉายาลักษณ์ขึ้นประดิษฐานบนรถในขบวนพิธีฯ ซึ่งออกจากหน้าวิหารหลวง

จากนั้นผวจ.เพชรบุรีนำขบวนข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนวัดมหาธาตุวรวิหารไปตามถนนดำเนินเกษม ผ่านหน้าวัดพลับพลาชัย ข้ามสะพานพระจอมเกล้า ไปยังวัดใหญ่สุวรรณาราม เมื่อขบวนอัญเชิญพระฉายาลักษณ์ถึง พระเมรุ ที่วัดใหญ่สุวรรณาราม เจ้าหน้าที่อัญเชิญพระฉายาลักษณ์ทั้ง 4 พระรูป ประดิษฐาน ณ พระเมรุ  ผวจ.เพชรุรี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยและเครื่องทองน้อยเจ้าหน้าที่อาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล เจ้าหน้าที่อาราธนาธรรมนิยาม พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ ธรรมนิยามฯ เวลา 11.00น.ถวายภัตตาหารเพล  เป็นอันเสร็จพิธีในภาคเช้า

This entry was posted in News