วันนี้ ( 10 มิ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน
กล้่วถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างสภาฯโดยพรรคเพื่อไทยกับศาลรัฐธรรมนูญในขณะ
นี้ว่าเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากเป็นพิเศษ
เพราะพรรคเพื่อไทยพยายามใช้เสียงข้างมากในสภาฯ
ทำทุกวิถีทางในการสถาปนาอำนาจเดี่ยวอีกครั้งหนึ่ง
จึงพยายามที่จะขัดขืนคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ชะลอการลงมติ ในวาระ 3
ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ก่อน
นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยยังใช้มวลชนเสื้อแดงซึ่งเป็นมวลชนของพรรคทำลายความน่า
เชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญสารพัดวิธี
ดังนั้นหากพรรคเพื่อไทยเล่มเกมยื้อไม่ลงมติวาระ 3 ในสัปดาห์ที่แล้ว
แต่อาจจะลงมติในที่ประชุมนัดพิเศษวันที่12มิ.ยนี้หรือถ้าที่ประชุมรัฐสภายอม
ถอยรับคำสั่งศาลแต่ก็แค่ยอมในยกแรก
พอถึงขั้นตอนการร่างรัฐธรรมนูญเชื่อแน่ว่าจะมีการลดทอนอำนาจของศาลรัฐ
ธรรมนูญหรือออกแบบให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงได้มากขึ้น
นายสุริยะใสกล่าวต่อว่ามีประเด็นที่น่าตั้งข้อสังเกตในขณะนี้การปลุก กระแสไม่รับคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยและ นปช.ลุกลามไปถึงขั้นการท้าทายอำนาจตุลาการทั้งระบบ โดยพยายามสร้างและให้ความหมายที่บิดเบือนของคำว่าตุลาการภิวัฒน์ ว่าเป็นเพียงเครื่องมือของอำมาตย์กลั่นแกล้งเล่นงาน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร การปลุกกระแสคนเสื้อแดงเผชิญหน้ากับอำนาจตุลาการครั้งนี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะรัฐมนตรีร่วมคณะรัฐบาล อย่างนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ข้าราชการการเมืองของพรรค และ สส.พรรคเพื่อไทย หลายคนไปขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีศาลรัฐธรรมนูญอย่างเปิดเผย จึงเท่ากับว่าฝ่ายบริหารโดยรัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังเผชิญหน้ากับฝ่ายตุลาการ โดยตรง
"นี่เป็นแค่ยกแรกของการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายบริหารกับตุลาการเพราะปลาย ทางของพ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่ายคือการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่หวังไปยกเลิกคำพิพากษาของศาล และนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณถือเป็นปลายทางที่แท้จริง เพราะหากในยกแรกพรรคเพื่อไทยเพลี่ยงพล้ำก็จะทำให้ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองชะตาขาดไปด้วย โอกาสได้กลับบ้านอย่างเท่ห์ๆ ก็หมดสิทธิ์ จึงต้องสร้างกระแสกดดันอำนาจตุลาการหรือศาลเพื่อเปิดทาง ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเพื่อทักษิณ ความขัดแย้งในประเด็นที่อ่อนไหวแบบนี้น่าเป็นห่วงเพราะเป็นการสร้างเงื่อนไข ให้เกิดการรัฐประหาร ถ้าคนเสื้อแดงเกลียดกลัวการรัฐประหารและเป็นนักประชาธิปไตยจริงต้องไม่สร้าง เงื่อนไขแบบนี้และก็ต้องต่อต้านอำนาจนักการเมืองที่พยายามแทรกแซงและอยู่ เหนืออำนาจตุลาการเช่นกัน"นายสุริยะใส กล่าว.
นายสุริยะใสกล่าวต่อว่ามีประเด็นที่น่าตั้งข้อสังเกตในขณะนี้การปลุก กระแสไม่รับคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยและ นปช.ลุกลามไปถึงขั้นการท้าทายอำนาจตุลาการทั้งระบบ โดยพยายามสร้างและให้ความหมายที่บิดเบือนของคำว่าตุลาการภิวัฒน์ ว่าเป็นเพียงเครื่องมือของอำมาตย์กลั่นแกล้งเล่นงาน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร การปลุกกระแสคนเสื้อแดงเผชิญหน้ากับอำนาจตุลาการครั้งนี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะรัฐมนตรีร่วมคณะรัฐบาล อย่างนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ข้าราชการการเมืองของพรรค และ สส.พรรคเพื่อไทย หลายคนไปขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีศาลรัฐธรรมนูญอย่างเปิดเผย จึงเท่ากับว่าฝ่ายบริหารโดยรัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังเผชิญหน้ากับฝ่ายตุลาการ โดยตรง
"นี่เป็นแค่ยกแรกของการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายบริหารกับตุลาการเพราะปลาย ทางของพ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่ายคือการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่หวังไปยกเลิกคำพิพากษาของศาล และนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณถือเป็นปลายทางที่แท้จริง เพราะหากในยกแรกพรรคเพื่อไทยเพลี่ยงพล้ำก็จะทำให้ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองชะตาขาดไปด้วย โอกาสได้กลับบ้านอย่างเท่ห์ๆ ก็หมดสิทธิ์ จึงต้องสร้างกระแสกดดันอำนาจตุลาการหรือศาลเพื่อเปิดทาง ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเพื่อทักษิณ ความขัดแย้งในประเด็นที่อ่อนไหวแบบนี้น่าเป็นห่วงเพราะเป็นการสร้างเงื่อนไข ให้เกิดการรัฐประหาร ถ้าคนเสื้อแดงเกลียดกลัวการรัฐประหารและเป็นนักประชาธิปไตยจริงต้องไม่สร้าง เงื่อนไขแบบนี้และก็ต้องต่อต้านอำนาจนักการเมืองที่พยายามแทรกแซงและอยู่ เหนืออำนาจตุลาการเช่นกัน"นายสุริยะใส กล่าว.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น