วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2555

อินเทลนำร่อง “แท็บเล็ตต้นแบบ” “ เสริมการเรียนรู้ ไม่ใช่แทนครู ” - ฉลาดคิด

ใกล้เข้ามาทุกที!! กับโครงการแท็บเล็ตป.1 ของรัฐบาล ที่คาดว่าจะเริ่มแจกได้ภายในภาคการศึกษาหน้า

ในขณะที่หลาย ๆ คนอาจจะยังคาใจ กับหลากหลายคำถาม เกี่ยวกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของความพร้อมในการใช้งาน

ล่าสุด…นอกจากภาครัฐจะมีการทดสอบใช้งานในโรงเรียนนำร่องแล้ว ภาคเอกชนในวงการไอทีอย่างอินเทล ก็ได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ทำโครงการนำร่องทดสอบการใช้งานแท็บเล็ตในเด็กเล็ก ที่โรงเรียนอนุบาลสามเสน กรุงเทพมหานคร

โดย “นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ” กรรมการผู้จัดการบริษัทอินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า อินเทลได้เริ่มโครงการดังกล่าวตั้งแต่ 1ก.พ.ที่ผ่านมา โดยนำเสนอแท็บเล็ตพีซี ให้กับโรงเรียนอนุบาลสามเสน จำนวน 45 เครื่อง เพื่อนำไปใช้เป็นอุปกรณ์การเรียนนำร่องสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/4
ไม่ใช่แค่ตัวเครื่องที่เป็นเครื่องต้นแบบที่ใช้อินเทล อะตอม โปรเซสเซอร์ เท่านั้น แต่ผู้บริหารอินเทล บอกว่า โครงการนำร่องที่อินเทลใช้ชื่อว่า “อินเทล เลิร์นนิ่งซีรีส์” นี้ เป็นการนำเสนอทั้งโซลูชั่น โดยมีอินเทลเป็นตัวกลางของความร่วมมือระหว่างพันธมิตรและเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ

ซึ่งจะทำตั้งแต่การออกแบบแท็บเล็ตที่เหมาะสมสำหรับเด็กเล็ก ขนาด 7 นิ้ว จอทัชสกรีนใช้ง่ายและพกพาสะดวก ตัวเครื่องสามารถกันน้ำ กันฝุ่น และทนต่อแรงกระแทก โดยสามารถตกพื้นจากระยะความสูงประมาณ 70 เซนติเมตรได้โดยไม่ได้รับความเสียหายแม้จะไม่มีกระเป๋าหรือซองหุ้ม

และที่สำคัญก็คือมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ “คลาสรูม แมนเนจเมนต์” ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องต้นแบบ ซึ่งจะช่วยให้ครูสามารถดูแลและจัดการระบบการเรียนการสอนภายในห้องเรียนได้แบบง่าย ๆ ผ่านไวไฟ

ซอฟต์แวร์นี้ทำให้คุณครูสามารถที่จะรู้ได้ว่าเด็ก ๆ สนใจบทเรียนมากน้อยแค่ไหน เปิดบทเรียนตามที่ครูสั่งหรือไม่ หากเปิดเกมหรือนอกเหนือคำสั่งก็สามารถที่จะสั่งล็อกเครื่องได้ทันที นอกจากนี้ในเรื่องของความปลอดภัย ก็มีซอฟต์แวร์เตือนภัย ที่จะช่วยแจ้งเตือนในกรณีเครื่องถูกขโมยหรือสูญหายได้อีกด้วย

สำหรับเนื้อหา อินเทลบอกว่ามาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและมีแอพพลิเคชั่นอีกหลายตัวจากแอนดรอยด์มาร์เกต และยังได้นำโครงการอินเทล ทีช มาใช้ในโครงการนำร่องนี้อีกด้วย เพื่ออบรมครูผู้สอนให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์และสามารถประยุกต์ใช้งานให้เข้ากับวิชาที่สอนได้

“ดร.ณัฏฐนันท์ ปั้นลายนาค” ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลสามเสน บอกว่า จากการทดลองใช้งานแท็บเล็ตทำให้เด็กนักเรียนตื่นเต้นและมีความสุขกับการเรียนมากขึ้น

ทั้งนี้มองว่า การใช้แท็บเล็ต ในการเรียนการสอนเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องมีครูเป็นผู้บริหารจัดการที่ดีด้วย เพราะเนื้อหาที่ใส่ลงไปจะช่วยทำให้เด็ก ๆ เข้าใจมากขึ้น สนุกและจำได้มากขึ้น แรก ๆ อาจจะเป็นภาระของครูที่จะต้องศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจกับเทคโนโลยี แต่ระยะยาวเทคโนโลยีเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยทำให้ครูสอนง่ายขึ้นด้วย

ด้าน “คุณครูปิติจิต ยี่สุ่นเทศ” ครูประจำชั้น ป.1/4 บอกว่า ได้ทดลองใช้สอนเด็กมาแล้วประมาณ  1 เดือน โดยใช้ในวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ ซึ่งเด็ก ๆ ก็ให้ความสนใจ เพราะใช้ง่าย เหมาะสำหรับการเรียนเรื่องภาษาที่เน้นทักษะในการพูด

สำหรับคำถามที่ว่าจะสามารถทดแทนหนังสือหรือเป็นสื่อหลักในการเรียนการสอนได้หรือไม่ คุณครูปิติจิต บอกว่า ไม่สามารถทดแทนได้ หนังสือยังมีความจำเป็นสำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะในช่วงชั้นประถมศึกษาตอนต้น ที่ต้องฝึกฝนทักษะทั้งการอ่าน และเขียน

“เทคโนโลยีจะเป็นตัวเสริม ความรู้จากภายนอกให้เด็ก ๆ ทั้งนี้โดยส่วนตัวแล้ว คุณครูมักจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับเทคโนโลยี ทำให้ต้องปรับตัว หาความรู้จากอินเทอร์เน็ตเพื่อนำมาจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมมากขึ้น”

แม้ยังไม่ได้มีการประเมินผล แต่จากหลาย ๆ ความคิดเห็นต่างไม่ปฏิเสธว่า เทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งที่ดีและสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ “คุณครู” ซึ่งจะต้องมีการเตรียมความพร้อม สำหรับสื่อการสอนยุคใหม่ อย่าง แท็บเล็ต ป.1 นั่นเอง!!!.
นาตยา  คชินทร
nattayap@dailynews.co.th

0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources