กองปราบจับผู้ต้องหาร่วมกันใช้เอ็ม 16 ยิงถล่มป้อมเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.อนุภาพ วิศรัมวัน รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ปกรณ์ ราชคาม  พ.ต.ท.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย สว.กก.6 บก.ป. นำกำลัง เข้าจับกุม นายสุรศักดิ์ สุขสี อายุ 37 ปี และ ประชา สุขสี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 1 ต.สุนทรนนท์ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 212 และ 213/2554 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2554 ตามลำดับ ข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จับกุมนายสุรศักดิ์ ได้ที่ริมถนน พื้นที่หมู่ 9 ต.โพธิ์หัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี ส่วนนายประชา จับกุมได้ในพื้นที่ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันที่ 12 สิงหาคม 2554 ผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มใส่ป้อมรักษาความปลอดภัยเรือนจำกลาง  จ.นครศรีธรรมราช ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช เป็นเหตุให้นายทวีศักดิ์ นวลแก้ว อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณรอบนอกของเรือนจำดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บ โดยถูกกระสุปืนที่บริเวณสะโพก ส่วนป้อมรักษาความปลอดภัยได้รับความเสียหาย ภายหลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บน 3633 นครปฐม หลบหนีไป ก่อนที่ระบบเกียร์ของรถคันดังกล่าวเกิดเสีย ผู้ต้องหาจึงจอดรถทิ้งไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบแผ่นป้ายทะเบียนปลอมหลายแผ่นถูกซุกซ่อนอยู่ในรถด้วย ส่วนสาเหตุจากการสืบสวนทราบว่า นายทวีศักดิ์ ผู้เสียหาย ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับเรือนจำแห่งนี้มาเป็นเวลานาน และมักจะมีผลงานในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ลักลอบนำโทรศัพท์มือถือและยาเสพติดส่งเข้ามาในเรือนจำได้บ่อยครั้ง จนสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้กระทำความผิด และก่อนหน้านี้ยังเคยถูกโทรศัพท์ข่มขู่ คุกคามหลายครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ต้องหา จนถูกก่อเหตุยิงใส่ดังกล่าว ต่อมาชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออนุมัติศาลออกหมายจับ และติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองไว้ได้
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาจึงนำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.รับไว้ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไปเนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่ามีผู้ร่วมขบวนการยาเสพติดที่เกี่ยวพันกับผู้ต้องหาด้วย
ภาพประกอบข่าว

This entry was posted in News