เอ-อัญชลี ยื่นเรื่องฟ้องศาลจี้อดีตแฟนหนุ่ม เติ้ล-คม กริช จดทะเบียนรับรอง น้องเอวี่ เป็นบุตรนานครึ่งปีแล้ว เผยร้องไห้ท้อใจชะตาชีวิต เพิ่งรู้ฝ่ายชายเล็งแต่งงานใหม่ แย้มว่าที่เจ้าสาวคือคนใกล้ตัว รับช็อคสุดขีดตอนรู้ทั้งสองคบกัน...
หลัง จากที่นางแบบชื่อดัง ‘โย-ยศวดี หัสดีวิจิตร’ น้องสาวอดีตนางแบบสาว “เอ-อัญชลี หัสดีวิจิตร” ได้ออกมาเปิดเผยว่ากำลังเตรียมฟ้องอดีตแฟนหนุ่มของพี่สาว ‘เติ้ล-คมกริช จันทรวิสูตร’ เพื่อ ขอให้จดทะเบียนรับรองบุตร จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งด้านบวกและด้านลบไป แล้วนั้น ล่าสุดเมื่อเจอเจ้าตัวคุณแม่ยังสวย เลยขออัพเดทถึงเรื่องคดีความกันหน่อยว่าตอนนี้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ซึ่งสาวเอเปิดใจว่าได้จริงๆ ได้ยื่นเรื่องต่อศาลให้ ‘เติ้ล’ รับรอง ‘น้องเอวี่’ เป็น บุตรมานานครึ่งปีแล้ว เผยเคยนั่งร้องไห้ท้อใจชะตาชีวิต แต่ยังไงต้องสู้เพื่อลูก และเพิ่งรู้ฝ่ายชายจะแต่งงานใหม่ แย้มหญิงคนนั้นเป็นคนใกล้ตัว รับช็อคสุดขีดตอนที่รู้ว่าทั้งสองคบกัน โดยซิงเกิ้ลมัมให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวเปิดตัว “407 เที่ยวบินผี” ณ เซ็นทรัลเวิลด์
ถามถึงเรื่องคดีหน่อย ตอนนี้ถึงไหนแล้ว? “ตอนนี้ก็ยื่นเรื่องไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวแล้ว จริง ๆ แล้วเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เป็นเรื่องของศาลครอบครัว คือเรื่องนี้เอทำมาตั้งแต่ตอนคลอดน้องใหม่ ๆ แล้ว แต่ว่ายังไม่ยื่นเรื่องสักที เพราะว่ารอเวลาที่จะให้ทางโน้นกลับมาไกล่เกลี่ย ว่าจะทำยังไงเรื่องลูก ทนายเขาก็ดำเนินเรื่องของเขาไป จนวันนึงทนายบอกว่าไม่ได้แล้ว เพราะมันปีกว่าแล้ว สมควรที่ต้องยื่นเรื่องแล้ว เอก็ลังเลใจว่าดีไหม ทนายก็บอกว่าเราทำเพื่อลูก อย่าคิดว่าทำเพื่อเรา สิ่งที่เอทำไปก็อยากให้เขาจดทะเบียนรับรองบุตรให้ถูกต้องตาม
กฎหมาย ให้ลูกของเอมีชื่อพ่อ พอทำเสร็จแล้วก็จะมีขั้นตอนทางทนายของเขาไป ซึ่งอันนี้เอจะพูดมากก็ไม่ได้ คือ เขาไม่เคยจดรับรองบุตรเลย ตั้งแต่เอคบเขามาก็ 2 ปี มีน้องด้วย แล้วนี่น้องจะ 2 ขวบแล้ว เขาก็ไม่เคยติดต่อมาเลย ไม่เคยพยายามแม้กระทั้งแบบขอคุย เจอกันโดยบังเอิญเขาก็วิ่งหนีเรา จะให้วิ่งตามก็ไม่ใช่เรื่อง” เรายังอยากให้คนนี้มาเป็นพ่อของลูกเราอีกเหรอ? “ความ เป็นพ่อ ความเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข จะตัดความสัมพันธ์ยังไง ความเป็นสายเลือดเดียวกัน ถามว่าอยากให้เขามาเป็นสามีหรือคู่ชีวิต คงไม่แล้ว แต่ความเป็นพ่อลูกกันมันตัดไม่ขาด
เอไม่สามารถไปตัดสินใจ แทนลูกได้ คือสายเลือดเดียวกัน ยังไงวันนึงเขาก็ต้องมาเจอมารู้จักกัน” หลังจากยื่นเรื่องไปทางนั้นติดต่อมาไหม? “ไม่มีค่ะ มีแต่ทางทนายเขาที่ยื่นเรื่องกลับมา เราก็รู้สึกเสียใจเหมือนกันในสิ่งที่เขาพูดกลับมา” เห็นว่าเขาจะฟ้องกลับด้วยที่เราเอารูปเขามาบอกว่าเป็นพ่อของลูก? “อัน นี้ไม่เคยได้ยินนะค่ะ แต่มันเป็นเรื่องจริง เอคิดว่าเรื่องจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย คนที่มีลูกก็อยากจะเปิดเผย แต่ว่าที่น่าอายคือเรื่องความรับผิดชอบต่อการกระทำมากกว่าค่ะ”
เรื่อง พ่อเอบอกน้องยังไง? “เอบอกเขาทุกวันค่ะ เอไม่เคยพูดถึงพ่อเขาในทางที่ไม่ดีเลย จะบอกว่าพ่อไม่สามารถอยู่กับเราได้ เพราะคุณพ่อทำงานอยู่ไกล เราโชคดีแต่คุณพ่อโชคร้าย และเอวี่ก็จะจูบคุณพ่อที่หนังสือก่อนนอนทุกวันค่ะ แต่เอว่ามันถึงเวลาแล้วที่เขาต้องออกมาให้ลุกเอได้รู้ว่าเขาคือพ่อ เอไม่เคยปิดเรื่องพ่อกับเอวี่เลย เพราะเอคิดว่าลูกเกิดมาจากความรักของเอกับเขา ตอนที่ลูกอยู่ในท้องช่วงต้น ๆ เขาก็ให้ความรักดี เอคิดว่าที่เรื่องราวเป็นแบบนี้มีหลายปัจจัย ทั้งเรื่องส่วนตัว ครอบครัวเขา ฐานะของเราที่ไม่เหมาะสมกัน ก็หลายอย่างค่ะ แต่เอก็ไม่เคยคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดี”
ที่บอกว่าทางทนายเขาตอบกลับมา แล้วทำให้เราเสียใจประมาณไหน? “ทั่วไปนะค่ะ คนที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบก็มีหลายอย่าง เอก็เอามาเปิดเผยไม่ได้ วันนึงเดี๋ยวคงรู้ ก็เสียใจว่าทำได้อย่างนี้เชียวเหรอ สำหรับเอ เรื่องมรดกเขาเอไม่สนใจอยู่แล้ว อยากให้เขามาสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้นเอง” ทนายเรามั่นใจเรื่องนี้แค่ไหน? “เขา ก็ยอกว่าจะทำในสิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรมที่สุด สิ่งที่เขาทำไปไม่ได้ต้องเอามาให้เอวันนี้ แต่มันต้องตั้งแต่ลูกเกิดมาจนถึงลูกโต ต้องดูแลยังไงบ้าง แต่สิ่งที่เอต้องการมากที่สุดคือขอชื่อพ่อให้ถูกต้องแค่นั้นเอง ส่วนเรื่องเลี้ยงดูส่งเสียมันอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล เราก็แล้วแต่เขา” เรามีท้อบ้างไหม? “ท้อค่ะ เมื่อวานก็
ร้องไห้เพราะพี่เลี้ยงพม่าคน เก่ากลับบ้าน ไปจ้างพี่เลี้ยงศูนย์ก็หนีออกจากบ้าน พอก ลับบ้านต้องอยู่คนเดียวกับลูก แล้วเหนื่อยมาก เมื่อวานลูกท้องเสีย ไม่รู้จะทำยังไง ทำงานเสร็จต้องขับรถไปส่งลูกที่พัทยา ให้คุณยายช่วยเลี้ยง เพราะจากนี้ไปหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ เอทำงานหนักมาก แล้วพี่เลี้ยงที่ไปทำงานพม่าเอโทรตาม เขาก็ยอมกลับมาค่ะ เราเหนื่อยมากและรู้สึกว่าถ้ามีใครยู่ข้าง ๆ ก็คงจะเหนื่อยน้อยหน่อย พอ เห็นหน้าลูกก็ใจชื้นนะ เขาหน้าเหมือนพ่อมากค่ะ (ยิ้ม) คือเอไม่เคยเสียใจเลยที่มีลูกกับเขา ตอนที่เราคบกันเรารักเขานะ แต่ที่เสียใจตรงที่ว่าทำไมคนถึงจิตใจเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้” เห็นว่าฝ่ายชายจะแต่งงานใหม่? “อันนี้บอกตรง ๆ ว่าเพิ่งรู้ ก็เป็นเรื่อง
ส่วน ตัวของเขาจริง ๆ เอก็คงไปห้ามไม่ได้ แต่เอคิดว่าการที่เขาจะมีครอบครัว เขาคงคิดว่าเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว อนาคตภรรยาเขาต้องมีลุก ลองกลับมามองสิ่งที่เขาทำอยู่ไหม ให้เขามารับผิดชอบตรงนี้ให้เรียบร้อย” เห็นว่าว่าที่เจ้าสาวเป็นเพื่อนเรา? “เอก็ไม่อยากเอ่ยถึงเขานะ ก็เป็นคนที่รู้จักกัน เป็นเพื่อนอยู่ในกลุ่ม เขาก็รู้เรื่องของเรา คือ แค่เรารู้ว่าเขาคบกันกันก็ช็อคแล้วนะ พอรู้ว่าแต่งงานก็ไม่ช็อคนะ เพราะรู้สึกไปแต่แรกแล้ว แต่ไม่คิดว่าเขาจะแต่งงานทั้ง ๆ ที่เรื่องเรายังไม่จบเลยค่ะ ถามว่ามีเสียน้ำตากับเรื่องนี้ไหม ก็มีบ้าง คือเราหันไปมองลูกทีไร ก็อยากให้สิ่งที่ยุติธรรมที่สุดให้ลูก จริง ๆ เอต่อสู้มาตลอดนะคะ แต่ว่ามันผนวกกันมากเลย ตั้งแต่เรื่องที่ยื่นฟ้อง
และ เรื่องที่เขาแต่งงาน ซึ่งเรื่องแต่งงานเอรู้ว่าหลังจากที่เอยื่นฟ้องไปแล้ว ถามว่าตอนนี้ยังรักเขาเหมือนเดิมไหม ถ้านึกถึงตอนที่อยู่ด้วยกันก็เหมือนเดิมนะ เพราะเรามีแต่ความสุข แต่ ณ ตอนนี้ มันก็ไม่ได้เหลือเยื่อใย แค่อย่างเดียวคือสายเลือดเราที่รวมตัวเป็นหนึ่งคน ตอนนี้กำลังเติบโตสวยงามมาก อยากให้เขามีจิตสำนึกบ้างค่ะ ก็ยากให้เขามองว่าเราเลี้ยงลูกได้ดีนะ หันมามองบ้างนิดนึง” ถ้าคดีไม่ชนะจะทำยังไงต่อไป “ถ้า ไม่ชนะ เอก็คิดว่าความจริงคงไม่มีแล้วในโลกนี้ คงต้องทำใจไป เพราะทุกวันนี้เอยืนหยัดเลี้ยงลูกบนฐานของความจริงทุกอย่าง ถ้าจะแพ้ด้วยเรื่องอะไรสักอย่าง เอก็คงต้องยอมรับมัน ส่วนตอนนี้ทางด้านศาลก็นัดไกล่เกลี่ยครั้งแรก 29 มี.ค.”.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น