วันนี้ (2 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ 2 แสนเม็ด ที่จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า เราได้ผู้ต้องหา 2 ราย และในช่วง 03.00 น. วันนี้ได้วางแผนขยายผลจับกุมได้อีกกว่า 4 ล้านเม็ด เป็นคนร้ายสองคนทราบว่าเป็นผู้ใหญ่บ้าน ส่วนอีก 2 คนหลบหนีไปได้ แต่ตำรวจได้รถของกลางและรู้ตัวผู้กระทำผิดและขอศาลอนุมัติออกหมายจับแล้ว โดยได้กำชับไปว่าอย่ากระทำการที่รุนแรง เพราะต่างชาติจับตามองอยู่ และตำรวจจะแถลงข่าวคดีนี้ในช่วงบ่ายวันนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยาบ้าที่จับได้เป็นของใหม่ไม่ใช่ของค้างเก่า
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า สถานการณ์ยาเสพติดในประเทศขณะนี้น้อยลง เพราะตำรวจให้ความร่วมมือดี มีการพูดคุยกันตลอด และได้กำชับทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในการทำงานไปแล้วเพราะถ้าเข้ามาทางด่าน แม่สายจะง่ายมาก ทั้งนี้ต้องขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ที่ให้ความร่วมมือ ติดรั้วลวดหนามริมชายแดนแม่น้ำสาย ทำให้เส้นทางเข้าออกทำได้ยากขึ้น และเราตรวจสอบง่ายขึ้น ซึ่งตนใช้วิธีการให้ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ไปฝังตัวและทำงานร่วมกับตำรวจภูธร นโยบายของเราคือทำอย่างไรก็ได้ให้ยาเสพ ติดไม่ระบาดในบ้านเรา และไม่ให้มาอยู่ตามแนวชายแดน จึงต้องกำหนดเป็นวาระภูมิภาค และต่อไปก็ต้องขอร้องทั่วโลกอย่าให้เมืองไทยเป็นเส้นทางผ่านยาเสพติด
เมื่อถามว่าช่องทางเข้าออกยาเสพติดในจุดสำคัญของภาคเหนือสามารถสกัดกั้น ได้หมดหรือยัง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขบวนการยาเสพติดเข้าออกมาจาก 8 จังหวัด มากถึง 87 เปอร์เซ็นต์ และมี 3 จังหวัดที่เข้ามามากที่สุด คือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ในวันที่ 3 มี.ค. ตนจะลงพื้นที่ จ.ลพบุรี ที่พบว่ามีการระบาดหนัก เพราะเป็นที่จำหน่าย และสัปดาห์หน้าจะไปประชุมร่วมกับผู้ว่าฯ ตำรวจ และกำนันผู้ใหญ่บ้าน 8 จังหวัดภาคเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่ เพราะท้องถิ่นมีความสำคัญ จากนั้นถ้าสภาฯปิดจะทัวร์ทั่วประเทศอีกครั้ง ต้องไปกระตุ้นเรื่องนี้ ส่วนกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่มีความต้องการยาเสพติดถึง 67 เปอร์เซ็นต์ ทางตำรวจนครบาลได้กดดันปิดล้อมตรวจค้นจับได้
เมื่อถามว่าจะการดำเนินอย่างไรกับเภสัชกรที่ลักลอบสั่งยาที่มีสารตั้งต้น ของยาเสพติดไปจำหน่าย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ระวังอยู่ เมื่อก่อนสารตั้งต้นมาวิธีอื่น แต่ตอนนี้มาแบบยาแก้ไอ แก้หวัด แต่สกัดกั้นอยู่โดยไม่ให้สารตั้งต้นออกไปได้และเมื่อกลับมาเป็นยาเสพติดก็ ไม่ให้กลับเข้ามาได้ มั่นใจว่าภายใน 1 ปี ที่นายกรัฐมนตรีจะลดปัญหายาเสพติด เพราะเราทำงานเป็นทีม เมื่อถามว่าจะตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างไร เนื่องจากการจับกุมในแต่ละครั้งมีข่าวว่าผู้ต้องหามีส่วนพัวพันกับท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ของรัฐ รองนายกฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐเบาลง และตนไล่ตำรวจออกเยอะ ตำรวจชั่วมีน้อย จึงใช้วิธีลงโทษด้วยการไล่ออกและตนก็ไม่ปราณีด้วย แต่เป็นแค่ส่วนน้อยเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไปประนามว่าอาชีพนี้ชั่วคนที่ตั้งใจทำงานก็เสียกำลังใจ.
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า สถานการณ์ยาเสพติดในประเทศขณะนี้น้อยลง เพราะตำรวจให้ความร่วมมือดี มีการพูดคุยกันตลอด และได้กำชับทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในการทำงานไปแล้วเพราะถ้าเข้ามาทางด่าน แม่สายจะง่ายมาก ทั้งนี้ต้องขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ที่ให้ความร่วมมือ ติดรั้วลวดหนามริมชายแดนแม่น้ำสาย ทำให้เส้นทางเข้าออกทำได้ยากขึ้น และเราตรวจสอบง่ายขึ้น ซึ่งตนใช้วิธีการให้ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ไปฝังตัวและทำงานร่วมกับตำรวจภูธร นโยบายของเราคือทำอย่างไรก็ได้ให้ยาเสพ ติดไม่ระบาดในบ้านเรา และไม่ให้มาอยู่ตามแนวชายแดน จึงต้องกำหนดเป็นวาระภูมิภาค และต่อไปก็ต้องขอร้องทั่วโลกอย่าให้เมืองไทยเป็นเส้นทางผ่านยาเสพติด
เมื่อถามว่าช่องทางเข้าออกยาเสพติดในจุดสำคัญของภาคเหนือสามารถสกัดกั้น ได้หมดหรือยัง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขบวนการยาเสพติดเข้าออกมาจาก 8 จังหวัด มากถึง 87 เปอร์เซ็นต์ และมี 3 จังหวัดที่เข้ามามากที่สุด คือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ในวันที่ 3 มี.ค. ตนจะลงพื้นที่ จ.ลพบุรี ที่พบว่ามีการระบาดหนัก เพราะเป็นที่จำหน่าย และสัปดาห์หน้าจะไปประชุมร่วมกับผู้ว่าฯ ตำรวจ และกำนันผู้ใหญ่บ้าน 8 จังหวัดภาคเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่ เพราะท้องถิ่นมีความสำคัญ จากนั้นถ้าสภาฯปิดจะทัวร์ทั่วประเทศอีกครั้ง ต้องไปกระตุ้นเรื่องนี้ ส่วนกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่มีความต้องการยาเสพติดถึง 67 เปอร์เซ็นต์ ทางตำรวจนครบาลได้กดดันปิดล้อมตรวจค้นจับได้
เมื่อถามว่าจะการดำเนินอย่างไรกับเภสัชกรที่ลักลอบสั่งยาที่มีสารตั้งต้น ของยาเสพติดไปจำหน่าย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ระวังอยู่ เมื่อก่อนสารตั้งต้นมาวิธีอื่น แต่ตอนนี้มาแบบยาแก้ไอ แก้หวัด แต่สกัดกั้นอยู่โดยไม่ให้สารตั้งต้นออกไปได้และเมื่อกลับมาเป็นยาเสพติดก็ ไม่ให้กลับเข้ามาได้ มั่นใจว่าภายใน 1 ปี ที่นายกรัฐมนตรีจะลดปัญหายาเสพติด เพราะเราทำงานเป็นทีม เมื่อถามว่าจะตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างไร เนื่องจากการจับกุมในแต่ละครั้งมีข่าวว่าผู้ต้องหามีส่วนพัวพันกับท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ของรัฐ รองนายกฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐเบาลง และตนไล่ตำรวจออกเยอะ ตำรวจชั่วมีน้อย จึงใช้วิธีลงโทษด้วยการไล่ออกและตนก็ไม่ปราณีด้วย แต่เป็นแค่ส่วนน้อยเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไปประนามว่าอาชีพนี้ชั่วคนที่ตั้งใจทำงานก็เสียกำลังใจ.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น