เจ้าหน้าที่ ตรวจพบห้องจัดเลี้ยงโรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว ต้นเหตุเพลิงไหม้ไม่ติดสปริงเกอร์ และมีเพดานเตี้ยกว่าปกติ คาด อาจจะมีการต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต เตรียมตรวจสอบว่าได้มีการขออนุญาตหรือไม่...
ภายหลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่จากวิศวะกรรมสถาน ได้เข้าตรวจสอบภายในโรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว ซอยสุขุมวิท 22 ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เสร็จสิ้น นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ ประธานคณะกรรมการวิศวะกรรมความปลอดภัย วิศวะกรรมสถานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การมาตรวจในวันวันนี้ เบื้องต้นได้มาตรวจสอบว่า เพราะเหตุใดควันไฟจึงสามารถแพร่กระจายไปทั่วโรงแรมได้อย่างรวดเร็ว โดยจากการตรวจสอบพบว่า ลักษณะของอาคารได้ออกแบบให้อยู่ข้างลิฟต์ ซึ่งเป็นลักษณะของช่องเปิดแนวดิ่ง ทำให้เมื่อเกิดเพลิงไหม้บริเวณชั้น 5 ทำให้ ควันลอยขึ้นไปชั้นอื่น และกระจายไปชั้นต่างๆ อย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันในส่วนของบันไดหนีไฟ พบว่ามีเฉพาะด้านปีกขวาของอาคารเพียงด้านเดียว ทำให้ผู้ที่พักอยู่ภายในห้องทางปีกซ้ายต้องเดินผ่าน กลุ่มควันตามทางเดินเพื่อไปยังบันไดหนีไฟ ทำให้ส่วนใหญ่ต้องตัดสินใจ ที่จะทุบกระจกห้องเพื่อขอความช่วยเหลือ ส่วนความเสียหายของอาคารที่พบส่วนใหญ่จะจำกัดอยู่แต่เฉพาะในห้องจัดเลี้ยงเท่านั้น ส่วนในพื้นที่อื่น ๆ เป็นลักษณะได้รับผลกระทบจากเขม่าควันมากกว่า
ด้าน นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุชั้น 5 ซึ่งเป็นอาคารจัดเลี้ยง พบว่าไม่มีการติดตั้งสปริงเกอร์ ซึ่งต่างจากโซนที่เป็นห้องพัก ที่มีการติดตั้งสปริงเกอร์ และระบบตรวจสัญญาณควันทุกห้อง ซึ่งเบื้องต้นก็สันนิษฐานว่า โรงแรมนี้อาจจะมีการต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากพบว่าชั้น 5 ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ มีเพดานเตี้ยกว่าปกติ และจุดเชื่อมกับทางจอดรถ ไม่มีสปริงเกอร์ดับเพลิง คาดว่าอาจจะเป็นการนำที่จอดรถไปทำอาคารจัดเลี้ยง ซึ่งจะต้องรอให้ทางสำนักงานโยธาไปตรวจสอบแบบที่ทางโรงแรมยื่นมาว่าถูกต้องหรือไม่ ส่วนความสูงของอาคารจากการตรวจสอบพบว่า มี 17 ชั้น ตามที่ขออนุญาตเดิม
อย่างไรก็ดี จากการที่เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารสูง 2 ครั้งภายในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้ทางกรุงเทพมหานคร ต้องคณะกรรมการขึ้นมา 50 ชุด โดยแต่ละชุดจะประกอบด้วยตัวแทนจากสำนักงานโยธา เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่เทศกิจ และตัวแทนของเขต ร่วมกันทำการตรวจสอบ อาคารสูงทุกประเภทในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งที่ก่อสร้างก่อนและหลัง ปี พ.ศ.2535 ว่ามีจำนวนเท่าใด และมีใบอนุญาตดัดแปลงอาคารและดัดแปลงตามที่ขออนุญาตหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งหากพบว่ามีเจ้าของอาคารรายใด ปล่อยปละละเลยเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย หรือทำการต่อเติมดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต จะต้องได้รับโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 6 หมื่นบาท หรือปรับรายวัน วันละ 1 หมื่นบาท จนกว่าจะมีการปรับปรุงอาคารให้ถูกต้องตามที่ได้รับอนุญาต.
แหล่งที่มาข้อมูล www.thairath.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น