วันนี้ (11 มี.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาส.ว.ได้ร้องคัดค้านการสรรหาส.ว.ของผู้ได้รับการสรรหาเป็นส.ว. 31 รายเคยเป็นส.ว.สรรหาและลาออกก่อนครบวาระ ซึ่งอาจทำให้ยังพ้นจากการดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่เกิน 5 ปี ว่า ที่ประชุมกกต.ได้พิจารณาในประเด็นดังกล่าวที่นายเรืองไกร ได้ร้องเข้ามาพิจารณาพร้อมกับการที่กกต.ได้เพิกถอนสิทธิการสรรหาส.ว.ของนายสัก กอแสงเรือง แล้ว โดยที่ประชุมกกต.ได้มีมติเอกฉันท์ให้ยกคำร้องในประเด็นที่นายเรืองไกรได้ร้องคัดค้านว่า ส.ว. 31 รายที่เคยได้รับการสรรหาเป็นส.ว.ชุดแรกแต่ลาออกก่อนครบวาระ3 ปีแรกไม่อาจนำบทเฉพาะกาลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 297 มาบังคับใช้ ซึ่งอาจมีผลให้มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 115 (9)ที่ยังพ้นจากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยังไม่เกิน 5 ปีจนถึงวันได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาส.ว.
นางสดศรี กล่าวต่อว่า กกต.ยกคำร้องของนายเรืองไกรที่ร้อง ส.ว.สรรหา 31 รายอาจขาดคุณสมบัติ เนื่องจากพิจารณาตามบทเฉพาะของรัฐธรรมนูญ มาตรา 297 ที่กำหนดให้ส.ว.ที่มาจากการสรรหาครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญ 2550 ให้มีวาระ 3 ปีและมิให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับการห้ามดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน1วาระมาบังคับใช้กับบุคคลดังกล่าวในการสรรหาคราวถัดไปหลังจากสิ้นสุดสมาชิกภาพ ดังนั้น ส.ว.สรรหา 31 รายที่ได้รับการสรรหาแต่ได้ลาออกก่อนครบวาระเพื่อเข้ารับการเสนอชื่อสรรหาส.ว.เมื่อปี 2554 จึงยังเข้ากับบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ สามารถเข้ารับการสรรหาต่อไปได้เช่นเดียวกับการที่ส.ว.สรรหาชุดแรกอยู่จนครบวาระจนพ้นตำแหน่งก็ยังสามารถได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาได้อีก
“กรณีของนายสักที่กกต.ให้เพิกถอนการสรรหาก็เป็นการร้องนั้นเป็นการพิจารณาคนละประเด็นกันกับ 31 ส.ว. เพราะนายเรืองไกร ได้ร้องว่านายสัก ยังพ้นจากส.ว.เลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ 2540 จนถึงวันได้รับการเสนอชื่อจากสภาทนายความยังไม่เกิน 5 ปี ทำให้กกต.มีมติเอกฉันท์ให้เพิกถอนการสรรหาและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ซึ่งเหมือนกับการที่กกต.ให้ใบแดงส.ส.หลังการประกาศผลการเลือกตั้ง และเมื่อศาลฎีการับคำร้องจากกกต.แล้วก็จะมีผลให้นายสักต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ว.จนกว่าศาลจะมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ส่วนกรณีที่กกต.มีมติเสียงข้างมากให้ดำเนินคดีอาญากับนายสักและสภาทนายความนั้น เนื่องจากคณะอนุกรรมการวินิจฉัยบางคณะเห็นว่าผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเป็นผู้รู้กฎหมายดีเมื่อรู้กฎหมายมากแล้วเลี่ยงกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดีอาญา”
นางสดศรี กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวคณะกรรมการสรรหาส.ว.จะต้องเป็นผู้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการสรรหาส.ว. อีกทั้งสำนักงานกกต.โดยเลขาธิการกกต.ทำหน้าที่ธุรการในการตรวจสอบองค์กรที่ได้เสนอชื่อบุคคลและจะต้องเสนอผลการตรวจสอบคุณสมบัติไปยังกรรมการสรรหาส.ว.6 คน ซึ่งกรณีของนายสักก็อาจมีคนมองว่าละเลยในแง่การตรวจสอบ ส่วนสำนักงานกกต.โดยเลขาธิการกกต.จะละเลยหรือไม่ หากศาลวินิจฉัยยืนตามกกต.ก็อาจมองว่ากรรมการสรรหาส.ว.ได้ละเลยการตรวจสอบได้หรือไม่ แต่หากจะให้ฟ้องกกต.4 คนที่วินิจฉัยก็คงไม่เกี่ยว เพราะกกต.ได้พิจารณาตามที่มีผู้ร้องคัดค้านเข้ามาเท่านั้น
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น