วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555

สอบปากคำพยานเพิ่มไฟไหม้โรงแรมหรูสุขุมวิท 22


วันนี้( 11 มี.ค.) พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผกก.สน.ทองหล่อ เผยถึงความคืบหน้าเหตุไฟไหม้ โรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว กรุงเทพ ซอยสุขุมวิท 22 ว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานเพิ่มเติมไปแล้วจำนวน 8-9 ปาก ซึ่งประกอบด้วย พนักงานของโรงแรม เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานเขตคลองเตย  พนักงานของโรงแรม รวมทั้งเจ้าของโรงแรม ซึ่งตนจะยึดถือให้น้ำหนักไปที่พยานบุคคลของผู้ชำนาญการ เช่น สมาคมวิศวะฯ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตคลองเตย และผลจากกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) รวมทั้งเอกสารเรื่องใบอนุญาตการต่อเติมอาคารเป็นหลัก   นอกจากนี้จะตรวจสอบว่าทางโรงแรมมีอุปกรณ์ป้องกันเหตุเพลิงไหม้หรือไม่ ประตูหนีไฟถูกต้องตามหลักหรือไม่ ส่วนพยานบุคคลเช่น พนักงานโรงแรม หรือ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้สอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนคดีเท่านั้น 

พ.ต.อ.รัฐศักดิ์  กล่าวต่ออีกว่า  คดีดังกล่าวประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1.คดีอาญา ซึ่งเบื้องต้นอาจเป็นความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งจะต้องรอพยานหลักฐานจากหลายส่วน ทั้งนี้หากได้ผลตรวจพิสูจน์รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดส่งมาให้ตนแล้ว  ก็จะสามารถสรุปคดีได้ภายใน 3 วัน ว่าจะสามารถแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับใครได้บ้าง  ส่วนผลตรวจพิสูจน์จากพฐ. จะเสร็จเมื่อใดนั้นตนไม่ทราบ แต่อาจจะมีการล่าช้าบ้างซึ่งเป็นเรื่องของกระบวนการตรวจพิสูจน์สถานที่เกิดเหตุ  ส่วนที่ 2 คดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งทางกทม.เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบว่าอาคารดังกล่าวมีการต่อเติมดัดแปลงหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ เพื่อหาข้อสรุปและดำเนินคดีต่อไป  ส่วนที่ 3 คดีแพ่ง ซึ่งตามกฎหมายนั้นทางโรงแรมจะต้องรับผิดชอบทางแพ่งเต็มๆทุกกรณีไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งทางโรงแรมไม่สามารถปฎิเสธความรับผิดชอบได้ เนื่องจากเหตุเพลิงไหม้เกิดภายในโรงแรม  แม้จะอ้างว่าเกิดเพราะอุบัติเหตุหรือไฟฟ้าลัดวงจรก็ตาม ซึ่งทางผู้เสียหายคือญาติของทางผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจะต้องประสานกับทางโรงแรมเพื่อเจรจาในเรื่องการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายว่าจะมีส่วนในการรับผิดชอบอย่างไรบ้าง แต่หากไม่สามารถเจรจาได้ทางผู้เสียหายก็สามารถยื่นฟ้องร้องต่อศาลแพ่งได้  เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นชาวรัสเซีย ขณะนี้ได้มีการส่งหนังสือถึงสถานทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทย เพื่อให้ประสานติดต่อญาติ ส่วน นางบาเดร่า ลิวมิลา อายุ 40 ปี และนายอิกอร์ บาดาร่า  อายุ 45 ปี ผู้เสียชีวิตชาวรัสเซียทั้ง 2 รายนั้น แพทย์อยู่ระหว่างชันสูตรพลิกศพก่อนจะประสานส่งกลับประเทศต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว รอง ผกก.สส.สน.ท่าเรือ ช่วยราชการแทนรอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ ในฐานะเจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทำเรื่องประสานกับทางเจ้าหน้าที่โรงแรมเพื่อพยายามเรียกตัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากกรณีเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว เนื่องด้วยขณะนี้ทางคณะทัวร์ของผู้บาดเจ็บได้เดินทางไปท่องเที่ยวตามกำหนดการของตน จึงเร่งประสานให้กลับมาสอบปากคำเพื่อบันทึกรวบรวมเป็นหลักฐานในคดี นอกจากนี้สาเหตุของเพลิงไหม้ยังไม่สามารถระบุให้แน่ชัดได้ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจสอบจากทาง พฐ. เสียก่อน เบื้องต้นจากการสอบสวนทางโรงแรมยินดีที่จะรับผิดชอบทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และผู้ที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการสอบถามไปยังทางโรงพยาบาลจุฬาฯ ทราบว่า ขณะนี้ยังคงมีผู้บาดเจ็บจากกรณีดังกล่าวหลงเหลืออยู่อีก 1 ราย คือ นายซีรีจิน เยฟกีนี่ อายุ 39 ปี ชาวรัสเซีย ซึ่งเข้ารักษาตัวตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ และได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันเข้าไป ล่าสุดทางแพทย์ขอดูอาการคนไข้สักระยะก่อน จึงยังคงไม่สามารถปล่อยให้คนไข้รายดังกล่าวกลับบ้านได้ ส่วนผู้บาดเจ็บอีกราย น.ส.เชอร์คาชิน่า มาริน่า อายุ 54 ปี ชาวรัสเซีย ทางแพทย์เห็นว่ามีอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources