สวนดุสิตโพล ชี้ ประชาชนร้อยละ 63.87 กังวลการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หวั่นเกิดความขัดแย้งแตกกลุ่ม ขณะที่มองทางแก้ ประชาชนต้องได้มีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น และทุกฝ่ายต้องเห็นประโยชน์ชาติเป็นหลัก จะสามารถสกัดการแบ่งแยกขัดแย้งได้
เมื่อ วันที่ 4 มี.ค. มีรายงานว่า สวนดุสิตโพล ออกสำรวจความคิดเห็นประชาชนในหัวข้อ "แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร จึงไม่เกิดความขัดแย้ง" โดยสำรวจจากประชาชน 2,118 คน ช่วงระหว่างวันที่ 28 ก.พ. - 3 มี.ค. พบว่า ร้อยละ 63.87 มีความกังวลกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ โดยส่วนใหญ่กังวลเรื่องความขัดแย้ง การกระทบกระทั่งของกลุ่มต่างๆ ความโปร่งใส และผลประโยชน์ ขณะที่ร้อยละ 36.13 ไม่กังวล เพราะเชื่อในกระบวนการพิจารณาของคนที่เกี่ยวข้อง และถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนสิ่งที่ประชาชนอยากฝากบอกผู้สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ อันดับที่ 1 ร้อยละ 53.88 ต้องการให้ผู้สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ คำนึงถึงประโยชน์ของบ้านเมืองและส่วนรวมเป็นสำคัญ ส่วนสิ่งที่ประชาชนอยากฝากบอกผู้คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้นั้น อันดับที่ 1 ร้อยละ 35.12 ต้องการให้รับฟังข่าวสารอย่างมีสติ และมีเหตุผลในการไตร่ตรองข้อเท็จจริง
นอกจากนี้ สิ่งที่อยากฝากบอกคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญ นั้นอันดับที่ 1 ร้อยละ 50.52 ต้องการให้คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาโดยยึดหลักความถูกต้อง โปร่งใส ยุติธรรม มีคุณธรรม และเป็นกลาง อันดับที่ 2 ร้อยละ 23.81 ต้องการให้คณะกรรมาธิการฯ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของชาติเป็นสำคัญ เปิดโอกาสให้ทุกคนร่วมแสดงความคิดเห็น และรับฟังข้อเสนอจากทุกภาคส่วน ขณะที่เมื่อสอบถามประชาชนถึงเงื่อนไขการแก้รัฐธรรมนูญโดยไม่ให้เกิดความขัด แย้งนั้น ร้อยละ 43.27 เชื่อว่าการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น การทำประชาพิจารณ์หรือประชามติเพื่อฟังเสียงประชาชนตามขั้นตอนกฎหมายจะช่วย ไม่ให้เกิดความขัดแย้งได้ ร้อยละ 27.93 เชื่อว่าหากทุกฝ่ายยึดมั่นในประโยชน์ส่วนรวมของชาติบ้านเมือง และมองเห็นว่ารัฐธรรมนูญเป็นของคนไทยทุกคน การจะแก้ไขความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่การทำลาย จะช่วยลดความขัดแย้งได้เช่นกัน.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น