วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2555

สองขั้วแยกเขี้ยว เมินปรองดอง

Pic_242733

ผ่าสถานการณ์สมานฉันท์ “ภาคปฏิบัติ” หลายส่วนผสม

ร้อนแรงแข่งกับอุณหภูมิที่ร้อนระอุ

หลัง จากรัฐสภามีมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อเปิดช่องให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาแก้ไขยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่านมาแค่ 1 สัปดาห์

และคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพิ่งประชุมเลือกประธานคณะกรรมาธิการฯ และกำหนดกรอบในการพิจารณา

โดยขั้นตอนยังต้องมีการพิจารณาแปรญัตติ ต้องมีการประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตให้ความเห็นชอบในวาระที่ 2 และวาระที่ 3

กว่ารัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมจะคลอดออกมาบังคับใช้ยังต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือน

และ กว่าจะไปถึงขั้นตอนการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ทั่วประเทศ การคัดเลือก  ส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ขั้นตอนการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ขั้นตอนจัดทำประชามติ

ยังอีกนานหลายเดือนกว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นรูปเป็นร่างประกาศบังคับใช้

ทั้ง นี้โดยทฤษฎีของฝ่ายที่เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ นำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มองว่า การแก้ไขยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ คือหนทางที่จะนำไปสู่ความปรองดองภายในชาติ

ขณะที่หลายภาคส่วนในสังคมแสดงความวิตกกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะเป็นชนวนไปสู่ความขัดแย้งแตกแยก

อย่างไรก็ตาม เมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291

ได้ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาในวาระแรก และอยู่ระหว่างขั้นตอนแปรญัตติของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ

ปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหวของฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง ได้ทำให้เห็นถึงสถานการณ์ความเป็นไปในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น

เพราะนอกจากมีการแสดงความเห็นที่แตกต่างกันของฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายที่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว

ยังมีความเคลื่อนไหวของแต่ละฝ่ายที่วางกรอบตั้งธงการแก้ไขรัฐธรรมนูญในแนวทางของตัวเองเอาไว้อย่างแข็งกร้าว

โดย ทางฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาศักยภาพสาขา พรรค 14 จังหวัดภาคใต้ ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ประกาศทิศทางการเมือง ภายใต้ชื่อ “ปฏิญญาหาดใหญ่” 8 ข้อ คือ

1.ปก ป้องและรักษาเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ในทุกกรณี 2.คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 309 เพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้พ้นผิดจาก 4 คดีที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของป.ป.ช.และคำพิพากษาจำคุกในคดีจัดซื้อ ที่ดินรัชดา

3.คัดค้านการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 4.ต่อต้านการจัดตั้งหมู่บ้านสีแดง เพื่อลดความขัดแย้งแบ่งฝักแบ่งฝ่ายและความแตกแยกของประชาชน

5.ขจัด การโฆษณาชวนเชื่อที่ทำให้หลงผิด คิดทรยศต่อแผ่นดิน บิดเบือนความจริงที่ดำรงอยู่ เพื่อปลุกปั่นสร้างความแตกแยกวุ่นวายในบ้านเมือง 6.ต่อต้านการดำเนินการทางการเมืองเพื่อคนใดคนหนึ่ง เพื่อผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อพวกพ้องและการจัดสรรงบประมาณให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือพื้นที่ใด พื้นที่หนึ่งโดยเฉพาะ

7. สร้างเครือข่ายและร่วมต่อต้านการทุจริตทุกระดับ ทุกรูปแบบ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน 8.เสริมสร้างค่านิยม อุดมการณ์ และการมีส่วนร่วมของเด็ก เยาวชน และประชาชนในการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข
ชูหลักการ อยู่ตรงข้าม “ระบอบทักษิณ” แบบสุดขั้ว

ในขณะที่พรรคเพื่อไทย ก็ออกมาตอบโต้ ด้วยการประกาศ “ปฏิญญาเขาใหญ่” เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์หยุดพฤติกรรมไม่เหมาะสม 8 ข้อ ได้แก่

1.ยุติ การพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้ผู้อื่น 2.ยุติการเล่นการเมืองแบบน้ำเน่า หันมาเล่นการเมืองแบบสร้างสรรค์ 3.เลิกนำประเด็นเกี่ยวกับสถาบันมาทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

4.ขอ ให้ฝ่ายค้านตรวจสอบเนื้อหาการทำงานมากกว่ามุ่งโจมตีตัวบุคคลด้วยความเท็จ 5.หากต้องการให้คำพูดนายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ ที่ระบุว่า “ผมเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา” เป็นความจริง ก็ควรเคารพมติรัฐสภา และเสนอเนื้อหารัฐธรรมนูญผ่านส.ส.ร.
6.ยุติการนำประเด็นแก้รัฐธรรมนูญไป สร้างความขัดแย้งทางสังคม 7.เลิกหมกมุ่นไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ 8.หยุดดูถูกความคิดประชาชนโดยกล่าวหาว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นใบสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อล้มล้างการทำความผิดทางคดี
ตั้งป้อมตีโต้ทุกเม็ดทุกดอก ไม่มีประนีประนอม

ขณะเดียวกัน เมื่อหันไปทางกลุ่มพลังในสังคม ทั้งฝ่ายที่สนับสนุน และฝ่ายต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็มีการเคลื่อนไหวกันอย่างเข้มข้น

กลุ่ม แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือกลุ่มเสื้อแดง นปช. ที่เป็นมวลชนของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นฐานเสียงหลักของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ได้ จัดชุมนุมใหญ่ที่โบนันซ่ารีสอร์ต เขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ภายใต้ชื่อ “คอนเสิร์ตหยุดรัฐประหาร เปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญ”

ประกาศหนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นผลสำเร็จ

ส่ง สัญญาณให้คนเสื้อแดงเตรียมความพร้อมที่จะต่อสู้ปกป้องรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถ้ามีอำนาจหรือกลไกนอกระบอบประชาธิปไตยหวังโค่นล้มรัฐบาล

ขู่ชักธงรบกับฝ่ายที่ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ที่สำคัญ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้วิดีโอลิงค์เข้ามากระตุ้นให้กลุ่มคนเสื้อแดงหนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย บ้านเมืองจะได้สงบสุข

เลี้ยงกระแสมวลชนเอาไว้ไม่ให้แผ่ว

ขณะ เดียวกัน นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.พรรคเพื่อไทย สายตรง“ทักษิณ”หนึ่งในกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ออกมาจุดพลุ ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยลดอำนาจองค์กรอิสระ พุ่งเป้ายุบศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครอง

เขย่าสถานการณ์ให้ร้อนแรงเข้าไปอีก

ในขณะที่ฝ่ายต่อต้านคัดค้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดช่องช่วยเหลือ  พ.ต.ท.ทักษิณให้พ้นผิดจากคดีความต่างๆ

โดย เฉพาะกลุ่มเสื้อหลากสีมีการเคลื่อนไหวแบบต่อเนื่อง นัดรวมตัวกันทุกวันเสาร์เพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังดำเนินการ กันอยู่

ปลุกกระแสต่อต้านการโละรัฐธรรมนูญเพื่อช่วยเหลือคนคนเดียว

ล่า สุด นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี พร้อมคณะได้ยื่นเรื่องต่อประธานวุฒิสภา

ขอ แสดงตนเป็นผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชน 2 หมื่นคน เพื่อเสนอให้วุฒิสภามีมติถอดถอนคณะรัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว.399 คน ที่ร่วมกันเสนอและลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ออกจากตำแหน่ง

เล่นเกมรุกแรง ถึงขั้นถอดถอนกันทั้งยวง

รับมุกกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือม็อบเสื้อเหลือง ที่ประกาศนัดรวมพลใหญ่วันที่ 10 มีนาคมนี้

เพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ตั้งส.ส.ร. เข้ามาล้มล้างรัฐธรรมนูญ ที่จะเป็นการเอื้อประโยชน์ช่วยเหลือ “ทักษิณ”

ม็อบหนุน ม็อบต้าน ต่างขยับเตรียมยกพลประจันหน้า

ใน ขณะที่คนกลางๆ อย่างนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ  (คอป.)  มองการขับเคลื่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลในครั้งนี้ว่า

เป็น การลุกลี้ลุกลน การไม่รอพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ประชาชนยื่นเสนอ จะกลายเป็นปัญหาและเป็นส่วนหนึ่งที่ขยายผลไปสู่ความขัดแย้ง

ขณะที่ ฝ่ายความมั่นคงก็แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่ความแตกแยก โดย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม สั่งการในที่ประชุมสภากลาโหม ให้ ผบ.เหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด

ยิ่งล่าสุดเกิด เหตุพี่น้องฝาแฝดบุกชกหน้านายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ เนื่องจากไม่พอใจที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ก็ยิ่งเป็นการสะท้อนว่า การเริ่มใช้ความรุนแรงในสถานการณ์ขัดแย้งเริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว

จาก ปรากฏการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในภาคปฏิบัติ ไม่ได้เดินไปสู่เส้นทางของการปรองดองสมานฉันท์ อย่างที่มีการเอ่ยอ้างกัน

เพราะเห็นชัดๆว่า สองขั้วการเมืองใหญ่ ต่างวางกรอบตั้งธงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของตัวเองไว้อย่างแข็งกร้าว

พรรค เพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เป็นฝ่ายผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งธงมาแล้วว่า ต้องมีการแก้ไข ยกร่างกันใหม่ เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มเสื้อหลากสี และกลุ่มพันธมิตรฯ ตั้งธงต่อต้านการโละรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ มองตัวเองเป็นฝ่ายถูก มองฝ่ายตรงข้ามเป็นฝ่ายผิด ไม่ยอมให้มีการล้างคดีให้คนผิด

ความคิดต่างกันสุดขั้ว

ไม่มีทางหาจุดลงตัว แบบพบกันครึ่งทางได้

ทั้งที่หลักการใหญ่ของการปรองดอง คือ ต้องพบกันครึ่งทาง

คู่ขัดแย้งต้องยอมเสียบางอย่าง ได้บางอย่าง

ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องได้ทั้งหมดทุกอย่างตามที่ตัวเองต้องการ

แต่เมื่อสองขั้วใหญ่ทางการเมือง ยังยึดกรอบแนวทางและธงของตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่มีใครยอมเสีย จะเอาแต่ได้กันอย่างเดียว

จนมองข้ามเรื่องหลักการที่จะนำไปสู่ความสมานฉันท์

ยิ่งต่างฝ่ายต่างแยกเขี้ยว จ้องฟัดกันอยู่อย่างนี้

ก็ไม่มีทางที่ประเทศไทยจะเดินไปถึงจุดลงตัวของ“ความปรองดอง”

มีแต่จะยิ่งสร้างความแตกแยก แบ่งฝ่าย เผชิญหน้า

เสี่ยงปะทะกันรุนแรงมากขึ้น.

0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources