มาร์คแนะดูปั่นราคาพลังงานช่วยปตท.รวย

“อภิสิทธิ์”แนะ จับตาปั่นราคาพลังงาน ให้ปตท.ขายได้ราคาดี กัดกปพ.คิดยกเลิกกม.ขวางพ.ร.ก.ปรองดอง ลั่นขัดรธน. เหตุไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน

วันนี้ ( 12 มี.ค.) นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาสินค้าราคาแพงว่า รัฐบาลระบุไว้ตอนหาเสียงเลือกตั้งว่าการยกเลิกกองทุนน้ำมันจะช่วยกระชากค่า ครองชีพนั้น แต่จะเห็นว่าในปัจจุบันการยกเลิกดังกล่าวส่งผล 3 อย่างคือ 1. เลิกดูแลราคาน้ำมัน และปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด 2. เลิกอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้มซึ่งเคยช่วยเหลือประชาชน และ3. เลิกส่งเสริมพลังงานทดแทน ดูเหมือนกระทรวงพลังงานหรือพรรคเพื่อไทยจะเป็นห่วงฐานะปตท. ค่อนข้างมาก จึงต้องจับตาดูว่า การยกเลิกกองทุนน้ำมันนี้ จะมาโยงกับการปรับโครงสร้างการขายปตท.หรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ก็เท่ากับว่า ขณะนี้ที่ทำทั้งหมดนั้นก็เพิ่มกำไร เพื่อให้ได้ราคาดี แต่ว่าประโยชน์จริง ๆ สุดท้ายคงจะไปอยู่ในมือของผู้ถือหุ้นมากกว่าที่จะอยู่กับประชาชน

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายประสพ บุษราคัม ประธานคณะกรรมการปรับปรุงและพัฒนากฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ปัจจุบัน (กปพ.)  จะเสนอประธานสภาให้ยกเลิกกฎหมายที่ออกในสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จำนวน 191 ฉบับ โดยอ้างว่าเป็นกฎหมายที่มาจากเผด็จการว่า คณะกรรมการฯ ควรพิจารณาเนื้อหาสาระมากกว่าที่จะดูเพียงแค่ว่ากฎหมายข้อไหนออกในสมัย สนช. ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นความพยายามที่จะต่อกระแสเรื่องการ ต้านรัฐประหาร เพื่อตอบสนองในเรื่องของผลกระโยชน์ทางการเมือง

นาย อภิสิทธิ์ กล่าวถึงข่าวว่าจะเสนอให้มีการออกพ.ร.ก.ปรองดองว่า ไม่น่าจะเข้าข่ายกระทำได้ เพราะในการออก พ.ร.บ. เป็นเรื่องของนิติบัญญัติ รัฐสภา แต่ถ้าเป็นพ.ร.ก. แล้ว จะเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี และจะทำได้ในกรณีที่ฉุกเฉิน เร่งด่วน มีความจำเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเพื่อประโยชน์ของความมั่นคงของประเทศ หรือความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องของการลบล้างความผิด กับเรื่องของการปรองดองนั้นเป็นคนละเรื่อง

“เมื่อวันศุกร์ที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ผมไปบรรยายในหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง และได้พูดถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองว่า คู่ขัดแย้งที่แท้จริงก็คือกระบวนการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับรัฐ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังพยายามล้มล้างการใช้อำนาจตุลาการ ในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องเป็นตัวแทนของรัฐ ไม่ใช่ตัวแทนกระบวนการทักษิณ จึงต้องยืนยันในหลักนิติธรรม นิติรัฐ เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ควรจะบอกกับพี่ชายว่า ถึงเวลาที่พี่ชายจะหยุดสร้างปัญหาให้กับประเทศ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นาย อภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีการวางเกณฑ์จ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรในพื้นที่รับน้ำ 600 – 5,000 บาทต่อไร่จำนวน  3 ล้านไร่ว่า อยู่ที่ความโปร่งใส แต่ตนขอความชัดเจน 3 เรื่อง คือ 1. พื้นที่รับน้ำอยู่ที่ไหน 2. เลือกพื้นที่เหล่านั้นเพราะเหตุใด 3. อัตราดังกล่าวที่บอกว่าเป็นธรรมนั้น เป็นธรรมกับผู้รับเงิน และเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีอย่างไรบ้าง

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

This entry was posted in News