ตะครุบแก็งฟิลิปปินส์แสบฉกเพชร-ทองตามห้างดัง

รวบแก็งฟิลิปปินส์ฉกเพชร-ทองตามห้างดัง แฉพฤติกรรมสุดแสบทำทีเข้าไปซื้อของ เบี่ยงเบนความสนใจ ก่อนฉวยจังหวะฉกสินค้าโกยแนบหน้าตาเฉย เจ้าทุกข์แห่ชี้ตัวเพียบ

วันนี้( 8 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวัน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัวแก็งคนร้ายชาวฟิลิปปินส์ที่ก่อเหตุลักทรัพย์ร้านทองย่านเยาวราช และร้านเพชรชื่อดังบนห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ประกอบด้วย 1.นายเพอร์ซี่ กัมบัน คอแนล อายุ 39 ปี 2.น.ส.เอเวอลีน เมนโดซ่า ควินโต้ อายุ 32 ปี 3.น.ส.เจสิก้า บาโรกา เดลลาครูซ อายุ 29 ปี 4.นายเอดัวร์โด้ เมดินา ลาโซ่ อายุ 58 ปี 5.นางเออลินดา เฟอนาเดซ โฟกาต้าร์ อายุ 57 ปี และ6.นางเซซิเลีย โค เซวิลลา อายุ 59 ปี ทั้งหมดถือสัญชาติฟิลิปปินส์ พร้อมด้วยของกลางสร้อยคอเพชร จำนวน 1 เส้น ราคาประมาณ 2ล้านบาท แหวนทองคำหนัก 1 สลึง 150 วง ราคา 940,000 บาท สร้อยเพชรมรกต  1 เส้น ราคาประมาณ 2.5 ล้านบาท เสื้อผ้าที่ใช้ใส่ก่อเหตุ 1 ชุด และกระเป๋าเดินทางสีดำที่ใช้ซ่อนของกลาง 1 ใบ โดยจับกุมตัวได้ขณะที่กำลังเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในร้านเจมส์ พาวิลเลียน บริเวณชั้น  ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน

สืบเนื่องจาก แก๊งคนร้ายดังกล่าวเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ได้กเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายชาวต่างชาติ เข้าไปลักทรัพย์ภายในร้านทองและร้ายเพชร ภายในห้างวรรพสินค้าและโรงแรมชื่อดังหลายแห่ง โดยพฤติการณ์ของคนร้ายกลุ่มนี้จะแบ่งหน้าที่กันทำงานเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งใช้อุบายเลือกซื้อ อีกกลุ่มพยายามล่อหลอกพนักงานเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ กระทั่งสบโอกาสคนร้ายชายในกลุ่มจะเอื้อมมือผ่านเคาน์เตอร์โชว์สินค้า ไปหยิบถุงใส่แหวนทอง และเครื่องเพชร ส่งให้หญิงเพื่อนร่วมแก๊ง ก่อนที่ทั้งหมดจะทยอยเดินหนีออกไปจากร้าน ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดกล้องวงจรปิดของทางร้านทองสามารถบันทึกภาพไว้ได้ตลอด แต่กลุ่มคนร้ายก็ยังย่ามใจออกตระเวนก่อเหตุอีกหลายแห่ง กระทั่งเมื่อวันที่ 7 มี.ค.คนร้ายได้เข้าไปก่อเหตุภายในร้านเจมส์ พาวิลเลียน บริเวณชั้น 1 ในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน แต่รปภ.ของทางห้างได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ จึงรีบแจ้งพนักงานในร้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ก่อนรวบตัวได้เกือบยกแก็งพร้อมกับของกลาง

พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ยังมีผู้ต้องหาชาวฟิลิปปินส์อีก 1คนที่หลบหนีไปได้ คือนายครูซ เจอร์วาซิโอ จาเรมี่ อายุ 33 ปี ยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการประสานกับสตม.เพื่ออายัดตัวตามด่านตรวจต่างๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ปทุมวัน ได้ทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 มี.ค. กำนดกลับวันที่ 8 มี.ค. จากนั้นได้เข้าพักที่โรงแรมเซ็นเตอร์พอยท์ ย่านราชเทวี จึงนำกำลังเข้าไปตรวจค้น พบทรัพย์สินที่ได้มาจากการก่อเหตุอีกหลายรายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 6,390,000 บาท เมื่อผู้ต้องหาได้ทรัพย์สินจำนวนมากก็จะรีบเดินทางออกนอกประเทศทันที จะไม่นำทรัพย์สินกระจายขายในประเทศไทย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน ดำเนินคดีต่อไป พร้อมทั้งมอบของกลางคืนให้กับเจ้าของที่เดินทางมาตรวจสอบของกลางด้วย

จากการตรวจสอบพบว่าเมื่อวันที่ 4 มี.ค. เวลาประมาณ 14.20 น. กลุ่มคนร้ายได้เข้าไปลักทรัพย์ที่ร้านทองทองใบ เยาวราช ท้องที่สน.จักรวรรดิ์ ได้ทรัพย์สินเป็นแหวนทอง หนัก 1 สลึง จำนวน 150 วง ราคาเกือบ 1 ล้านบาท วันที่ 4 มี.ค. เวลา 18.30 น.เข้าไปลักทรัพย์ภายในร้านมายด์ จิวเวอร์รี่ ท้องที่สน.ปทุมวัน ได้แหวนเพชร 1 วง ราคา1.6 ล้านบาท วันที่ 5 มี.ค. เวลา 15.00 น. เข้าไปลักทรัพย์ที่ร้านมิราเคิล ชั้น 2 โรงแรมอินเตอร์ คอนติเนลตัล ท้องที่สน.ลุมพินี ได้สร้อยเพชรมรกต 1 เส้น และสร้อยเพชร 1 เส้น รวมมูลค่า2.8 ล้านบาท วันที่ 6 มี.ค.เวลา 14.44 น.เข้าไปลักทรัพย์ภายในร้านเจมส์ จินดา ท้องที่ สน.ลุมพินนี ได้แหวนเพชร 1 วง มูลค่า 9.9 แสนบาท

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

This entry was posted in News