นางเอกตกม้าตายตอนจบ
ตามฉากในท้องเรื่องที่วอลสตรีท เจอร์นัล สื่อหัวนอกรายงานข่าว “เก็บตก” ในคิวที่นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของประเทศไทย ใช้เวลา 7 นาที ในการกล่าวสุนทรพจน์ภาษาไทยกับนักธุรกิจญี่ปุ่นนับร้อยคน ในแผนเดินสายเรียกคืนความเชื่อมั่นให้นักธุรกิจ ผู้บริหาร และนักลงทุนชาวอาทิตย์อุทัย หลังเหตุอุทกภัยใหญ่ในประเทศไทย
แต่ปรากฏว่า ผู้นำหญิงของไทยและทีมงาน ไม่ได้เตรียมล่ามแปลภาษาให้คนญี่ปุ่นฟังระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ เพียงแค่แจกเอกสารที่แปลเป็นภาษาญี่ปุ่นแจกให้ไปก่อนหน้า
ตามภาษาข่าวสำนวนอังกฤษบอกว่า นักลงทุนญี่ปุ่นเกิดอาการ “แปลกใจ” นิดหน่อย
ตรงกันข้ามกับที่เมืองไทยกลาย “เป็นเรื่อง” ขยายผลกันใหญ่โต ยิ่งในอารมณ์ที่เหมือนจงใจ “ตอกลิ่ม” วอลสตรีท เจอร์นัล ได้เปรียบเทียบทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่จบปริญญาโทจากสหรัฐฯ กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้นำฝ่ายค้านของไทย ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เมืองผู้ดีอังกฤษ ว่า นายอภิสิทธิ์มีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษมากกว่า
ประเด็นเลยกลายเป็นวัดกันเรื่องความเชี่ยวชาญภาษา
ในจังหวะ “เขี่ยลูกเปิดเกม” ให้แนวร่วมขบวนการ “หมั่นไส้” ที่เมืองไทย ได้ทีถล่มซ้ำ “ยิ่งลักษณ์” ตามแห่ประจานกันยกใหญ่ โดยเฉพาะคิวของคนยี่ห้อประชาธิปัตย์ ทั้งนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทวีตผ่านทวิตเตอร์ บลัฟเลยว่า เรื่องนายกฯไม่เกี่ยวกับเรื่องภาษา ควรพูดไทยอยู่แล้ว แต่ต้องมีการแปลพร้อมกันไป
ไม่ควรแจกคำแปลแล้วขึ้นไปพูดแล้วจบ ดูไม่ดี เสียหาย
ไล่เลี่ยๆและอารมณ์เดียวกันกับทวิตเตอร์ของทีมงานนายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เย้ยซ้ำ แผนรับมือน้ำท่วมปีนี้ 2555 ยังไม่มี ว่าแย่แล้ว แผนทำเอกสารแปลภาษาชี้แจงนักลงทุนหลายร้อยคน
“ไปถึงที่แล้วเสียโอกาสขนาดนี้ น่าเศร้าครับ”
“ฟาวล์” ในอารมณ์ของคนประชาธิปัตย์ชิงเหมาเอาเลยว่า เสียหาย เสียโอกาส การเดินทางเยือนญี่ปุ่นเพื่อฟื้นความมั่นใจในการป้องกันน้ำท่วมของนายกฯยิ่งลักษณ์
ไม่ได้เนื้อได้หนัง แถมยังเสียหน้า เสียเครดิต
ทั้งๆที่ว่าไปในข่าวเดียวกัน วอลสตรีท เจอร์นัล ก็ได้เสนอข้อมูลจากการสอบถามตัวแทนจากบริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นที่ร่วมเข้าฟัง ยืนยันการชี้แจงจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นหลายคนรู้สึกพอใจที่รัฐบาลไทย มีความเอาใจใส่ ทำให้มีความเชื่อมั่นในแผน
รวมถึงมาตรการป้องกันนํ้าท่วมของรัฐบาลไทยให้กับทางบรรดานักธุรกิจญี่ปุ่น
เพียงแค่สงสัยว่า ทำไมทีมงานของนายกรัฐมนตรีไทย ไม่แปลสุนทรพจน์ให้ฟัง
ยังไม่ถึงขั้นกลบ “ประเด็นใหญ่” ที่เป็นสาระ
เอาเป็นว่า มองกันตามมุมของผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เจืออารมณ์ “หมั่นไส้” นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุถึงกรณีการเดินทางไปโรดโชว์แผนการจัดการน้ำที่ประเทศญี่ปุ่น ของนายกฯยิ่งลักษณ์ ถือว่า “เป็นสัญญาณบวก”
เนื่องจากการเดินทางไปโรดโชว์ครั้งนี้ มีนักลงทุนของประเทศญี่ปุ่น ได้ให้ความสนใจเดินทางมารับฟังแผนในการจัดการน้ำของประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
แสดงให้เห็นถึงแผนมีความชัดเจน มีการดำเนินการเป็นขั้นตอนมากกว่าเมื่อครั้งที่นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เดินทางไป
ประเทศญี่ปุ่นมีความมั่นใจในแผนการจัดการน้ำของไทย เห็นได้จากที่ไม่มีสัญญาณย้ายฐานการลงทุนออกจากประเทศไทย ขณะเดียวกัน ทางญี่ปุ่นได้เร่งเดินหน้าแผนฟื้นฟู และเดินหน้าการผลิตต่อไป มีแนวโน้มขยายการลงทุนเพิ่มเติม
หนังคนละม้วนกันเลย
เรื่องของเรื่อง ทุกภาคส่วนก็เห็นกันอยู่ว่างานนี้เป็นเรื่องของเครดิตผู้นำที่ผูกโยงกับผลประโยชน์ในภาพรวมของประเทศชาติและประชาชน หลังอุทกภัยใหญ่ แต่ถูกลากมาเป็นประเด็นหักหน้า ดิสเครดิตกันทางการเมือง โยงต่อเนื่องกับอารมณ์หมั่นไส้ที่จ้องเจาะยางกันไม่เลือกเวลา
ถามหาสปิริตจากผู้เล่นเกมอำนาจในเมืองไทย ไม่มีเลยจริงๆ.
ทีมข่าวการเมือง
แหล่งที่มาข้อมูล www.thairath.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น