ที่รัฐสภาวันนี้(21พ.ค.) แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายสาทิตย์
วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี นายพุทธพงษ์
ปุณณกันต์ ส.ส.กรุงเทพฯ และนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง
แถลงข่าวตอบโต้กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา และนายจตุพร
พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ออกมากล่าวหาทางพรรคประชาธิปัตย์ว่า
มีการรับเงินบริจาคช่วงน้ำท่วมในปี
2553ผิดกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์รับเงินบริจาคจากบริษัท
จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกจำกัด(มหาชน) หรือ บริษัท อีสต์
วอเตอร์ ซึ่งมีการประปาส่วนภูมิภาค ที่เป็นหน่วยงานของรัฐ ถือหุ้นมากที่สุด
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนขอชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการกล่าวหาที่เป็นเท็จ เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นเพียงหน่วยประสานในการรับบริจาคเงินและสิ่งของ เพื่อส่งต่อให้รัฐบาล หรือกองทุนผู้ประสบอุทกภัยของสำนักนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ซึ่งการที่มีผู้บริจาคก็จะมีการออกใบรับของชั่วคราวให้ อย่างไรก็ตาม ผู้บริจาคทั้งสิ้น 191คน รวมเงินสุทธิจำนวน 36,454,909 บาท เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2553 ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี อีกทั้งในวันที่ 1 ธ.ค. 2553 พร้อมยังได้ทำหนังสือ ลงนาม และได้แนบรายชื่อผู้บริจาคทั้ง 191ราย จากนั้นทางสำนักนายกฯก็ได้นำเงินเข้ากองทุนผู้ประสบอุทกภัย ในวันที่ 2 ธ.ค.2553และได้ออกไปเสร็จรับเงิน ให้กับผู้บริจาคทุกราย ไม่เว้นแม้แต่บริษัท อีสต์ วอเตอร์ ซึ่งเป็นใบเสร็จรับเงินจำนวน1,000,000 บาท ซึ่งตรงกับใบเสร็จที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ออกให้ก่อนหน้านี้
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ดังนั้นข้อกล่าวหาจึงคลาดเคลื่อนและเป็นเท็จ ที่สำคัญคิดว่าเป็นเรื่องประเด็นการเมือง เพราะขณะนี้ก็มีการพูดถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายจตุพรพ้นจาก ตำแหน่ง ส.ส. และการยุบพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ยังมองว่าเป็นการสร้างประเด็นเพื่อเหมารวมให้ประชาธิปัตย์ถูกยุบ พรรคและเพื่อเป็นการต่อรองในคดีด้วย แต่โชคดีที่ประชาธิปัตย์ไม่มีมูลอันเป็นเหตุให้ยุบพรรคได้ตลอด 2 คดีที่ผ่านมา ทั้งนี้ไม่ว่าผู้ใด หน่วยงานใด ที่กล่าวหาพรรคโดยการใส่ร้ายและเป็นเท็จ ฝ่ายกฏหมายของพรรคจะพิจารณาดำเนินคดีกับบุคคลและหน่วยงานนั้นๆด้วย
“ผมขอเตือนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ที่เป็นข้าราชการ ไม่ใช่เป็นพวกของนักการเมืองที่สามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้ ไม่ใช่นั้นจะกลายเป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม อย่างไรก็ตามขอยึดหลักกฏหมายให้ระบบราชการเป็นที่พึ่งที่หวังได้ วันนี้ดีเอสไอได้เรียกผู้บริจาคเข้าไปสอบถามซึ่งมองได้ว่าเป็นการเรียกไปขู่ ว่าต่อไปนี้อย่าไปช่วยพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นเรื่องชั่วร้ายที่เราต้องจัดการ และผมเกรงว่าหากเป็นเช่นนี้เมื่อเกิดอุทกภัยเกิดขึ้น คงไม่มีเอกชนรายใดจะไปบริจาคเงินหรือสิ่งของ เพราะอาจจะถูกตรวจสอบได้ ซึ่งในอนาคตประเทศจะไม่มีใครช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอีก” ส.ส.ตรัง กล่าวพร้อมกับนำนำใบเสร็จที่เป็นหลักฐานในการรับมอบเงินมาแสดงด้วย
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ กล่าวว่า อยากฝากไปถึงนายเรืองไกร ว่า อย่ามัวแต่ตรวจบัญชีของผู้อื่น ขอให้ตรวจสอบบัญชีของตัวเองด้วยเพราะว่าหลังจากที่ฟ้องยุบพรรคปชป.เงินใน บัญชีก็เพิ่มขึ้นทุกวัน
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนขอชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการกล่าวหาที่เป็นเท็จ เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นเพียงหน่วยประสานในการรับบริจาคเงินและสิ่งของ เพื่อส่งต่อให้รัฐบาล หรือกองทุนผู้ประสบอุทกภัยของสำนักนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ซึ่งการที่มีผู้บริจาคก็จะมีการออกใบรับของชั่วคราวให้ อย่างไรก็ตาม ผู้บริจาคทั้งสิ้น 191คน รวมเงินสุทธิจำนวน 36,454,909 บาท เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2553 ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี อีกทั้งในวันที่ 1 ธ.ค. 2553 พร้อมยังได้ทำหนังสือ ลงนาม และได้แนบรายชื่อผู้บริจาคทั้ง 191ราย จากนั้นทางสำนักนายกฯก็ได้นำเงินเข้ากองทุนผู้ประสบอุทกภัย ในวันที่ 2 ธ.ค.2553และได้ออกไปเสร็จรับเงิน ให้กับผู้บริจาคทุกราย ไม่เว้นแม้แต่บริษัท อีสต์ วอเตอร์ ซึ่งเป็นใบเสร็จรับเงินจำนวน1,000,000 บาท ซึ่งตรงกับใบเสร็จที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ออกให้ก่อนหน้านี้
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ดังนั้นข้อกล่าวหาจึงคลาดเคลื่อนและเป็นเท็จ ที่สำคัญคิดว่าเป็นเรื่องประเด็นการเมือง เพราะขณะนี้ก็มีการพูดถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายจตุพรพ้นจาก ตำแหน่ง ส.ส. และการยุบพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ยังมองว่าเป็นการสร้างประเด็นเพื่อเหมารวมให้ประชาธิปัตย์ถูกยุบ พรรคและเพื่อเป็นการต่อรองในคดีด้วย แต่โชคดีที่ประชาธิปัตย์ไม่มีมูลอันเป็นเหตุให้ยุบพรรคได้ตลอด 2 คดีที่ผ่านมา ทั้งนี้ไม่ว่าผู้ใด หน่วยงานใด ที่กล่าวหาพรรคโดยการใส่ร้ายและเป็นเท็จ ฝ่ายกฏหมายของพรรคจะพิจารณาดำเนินคดีกับบุคคลและหน่วยงานนั้นๆด้วย
“ผมขอเตือนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ที่เป็นข้าราชการ ไม่ใช่เป็นพวกของนักการเมืองที่สามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้ ไม่ใช่นั้นจะกลายเป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม อย่างไรก็ตามขอยึดหลักกฏหมายให้ระบบราชการเป็นที่พึ่งที่หวังได้ วันนี้ดีเอสไอได้เรียกผู้บริจาคเข้าไปสอบถามซึ่งมองได้ว่าเป็นการเรียกไปขู่ ว่าต่อไปนี้อย่าไปช่วยพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นเรื่องชั่วร้ายที่เราต้องจัดการ และผมเกรงว่าหากเป็นเช่นนี้เมื่อเกิดอุทกภัยเกิดขึ้น คงไม่มีเอกชนรายใดจะไปบริจาคเงินหรือสิ่งของ เพราะอาจจะถูกตรวจสอบได้ ซึ่งในอนาคตประเทศจะไม่มีใครช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอีก” ส.ส.ตรัง กล่าวพร้อมกับนำนำใบเสร็จที่เป็นหลักฐานในการรับมอบเงินมาแสดงด้วย
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ กล่าวว่า อยากฝากไปถึงนายเรืองไกร ว่า อย่ามัวแต่ตรวจบัญชีของผู้อื่น ขอให้ตรวจสอบบัญชีของตัวเองด้วยเพราะว่าหลังจากที่ฟ้องยุบพรรคปชป.เงินใน บัญชีก็เพิ่มขึ้นทุกวัน
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น