นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติภักดี ชี้นักการเมืองฉุดดัชนีความโปร่งใสประเทศไทยลดฮวบ
วันนี้ (6 ธ.ค.) นายภักดี โพธิศิริ
กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
กล่าวกรณีองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ
จัดอันดับภาพลักษณ์ความโปร่งใสประเทศไทยอยูที่ลำดับ 88 จาก 176
ประเทศทั่วโลก ลดอันดับลงจากปี 2554 ที่อันดับ
80 อีกทั้งคะแนนก็ไม่ถึงครึ่งทั้ง 2 ปีว่า ที่ประชุมรับทราบเรื่องนี้แล้ว
ได้ให้สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์วิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึกต่อไป
โดยวิเคราะห์คะแนนที่เราได้ว่ามีจากฐานข้อมูลอะไรบ้าง
มีรายละเอียดการให้คะแนนอย่างไร
ส่วนตัวมองว่าผลการจัดอันดับดังกล่าวมากจากฐานข้อมูลทั้งหมด 8 ฐาน โดยปีนี้ใช้การให้คะแนนเต็ม 100 คะแนน ซึ่งคะแนนที่เราได้มาอยู่ในช่วงต่ำสุดคือ 31 คะแนน และสูงสุดคือ 45 คะแนน จากการติดตามการให้คะแนนจากองค์กรต่างๆ ในส่วนที่เราได้คะแนนต่ำสุดเขาจะดูปัญหาในส่วนของนักการเมือง ระบบอุปถัมภ์ที่เกิดขึ้น การเอาพรรคเอาพวกเข้ามาดำเนินการในส่วนต่างๆ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ที่เราได้คะแนนสูงสุดนั้นเขาดูในเรื่องความตั้งใจของหน่วยงานต่างๆ ในการเอาจริงเอาจังกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. หรือภาคีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
นายภักดี กล่าวต่อว่า ผลการจัดอันดับครั้งนี้ในเชิงคะแนนถือว่าดีขึ้น แต่ถ้ามองในแง่อันดับถือว่าแย่ลง เพราะไทยอยู่อันดับที่ 88 ที่ผ่านมาเราอยู่อันดับที่ 80 ชี้ให้เห็นว่าเปรียบเทียบแล้ว เราสู้คนอื่นไม่ได้ เรื่องนี้ต้องหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐบาล จะต้องถามว่านายกรัฐมนตรีมีความจริงใจแค่ไหน ในเรื่องการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น เพื่อให้ค่าดัชนีชี้วัดความโปร่งใส หรือซีพีไอของประเทศไทยสูงขึ้น ที่ผ่านมา ป.ป.ช. ก็เต็มที่กับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต โดยดึงให้ภาครัฐและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม แต่ก็อาจจะยังไม่บรรลุผลเท่าที่ควร
ดังนั้นจึงต้องศึกษา วิเคราะห์เรื่องนี้อย่างละเอียดเพื่อนำมาเป็นบทเรียนในการขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในรอบที่ 2 ที่จะดำเนินการ ในช่วงปี 2556-2560 ต่อไปด้วย..
ส่วนตัวมองว่าผลการจัดอันดับดังกล่าวมากจากฐานข้อมูลทั้งหมด 8 ฐาน โดยปีนี้ใช้การให้คะแนนเต็ม 100 คะแนน ซึ่งคะแนนที่เราได้มาอยู่ในช่วงต่ำสุดคือ 31 คะแนน และสูงสุดคือ 45 คะแนน จากการติดตามการให้คะแนนจากองค์กรต่างๆ ในส่วนที่เราได้คะแนนต่ำสุดเขาจะดูปัญหาในส่วนของนักการเมือง ระบบอุปถัมภ์ที่เกิดขึ้น การเอาพรรคเอาพวกเข้ามาดำเนินการในส่วนต่างๆ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ที่เราได้คะแนนสูงสุดนั้นเขาดูในเรื่องความตั้งใจของหน่วยงานต่างๆ ในการเอาจริงเอาจังกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. หรือภาคีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
นายภักดี กล่าวต่อว่า ผลการจัดอันดับครั้งนี้ในเชิงคะแนนถือว่าดีขึ้น แต่ถ้ามองในแง่อันดับถือว่าแย่ลง เพราะไทยอยู่อันดับที่ 88 ที่ผ่านมาเราอยู่อันดับที่ 80 ชี้ให้เห็นว่าเปรียบเทียบแล้ว เราสู้คนอื่นไม่ได้ เรื่องนี้ต้องหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐบาล จะต้องถามว่านายกรัฐมนตรีมีความจริงใจแค่ไหน ในเรื่องการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น เพื่อให้ค่าดัชนีชี้วัดความโปร่งใส หรือซีพีไอของประเทศไทยสูงขึ้น ที่ผ่านมา ป.ป.ช. ก็เต็มที่กับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต โดยดึงให้ภาครัฐและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม แต่ก็อาจจะยังไม่บรรลุผลเท่าที่ควร
ดังนั้นจึงต้องศึกษา วิเคราะห์เรื่องนี้อย่างละเอียดเพื่อนำมาเป็นบทเรียนในการขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในรอบที่ 2 ที่จะดำเนินการ ในช่วงปี 2556-2560 ต่อไปด้วย..
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น