วันนี้(6 ก.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
ศาลอ่านคำพิพากษาคดีชิงทรัพย์ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10
เป็นโจทก์ฟ้องนายอรรถพล หรือเทิง เปี่ยมประยูร อายุ 23 ปี และนายณัฐวุฒิ
หรือเจี๋ย ทองห่อ อายุ 26 ปี ทั้งสองเป็นชาวกรุงเทพมหานคร
ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1 - 2
ตามลำดับในความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำ
ผิด ฟ้องโจทก์ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 54 เวลา 05.30 น. ขณะที่ นางปราณีย์ เวชสุวรรณ ผู้เสียหายเดินออกจากบ้านพักจะไปทำงาน ภายใน ซอยบ้านญวน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต จำเลยที่ 1 ได้ขี่รถ จยย. ทะเบียน ฬงฬ 346 กรุงเทพมหานคร โดยมีจำเลยที่ 2 นั่งซ้อนท้าย ขับตามผู้เสียหาย จากนั้นจำเลยที่ 2 ลงจากรถตรงเข้ากระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ รวมมูลค่า 13,000 บาท แต่ผู้เสียหายขัดขืน ใช้มือจับสร้อยไว้จำเลยที่ 2 จึงใช้มือบีบคอและผลักผู้เสียหายศีรษะกระแทกพื้นก่อนจะพากันหลบหนีไป และนำสร้อยคอไปจำนำได้เงิน 11,000 บาทมาแบ่งกัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสนติดตามจับกุมจำเลยทั้งสองได้ พร้อมให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคสอง,340 ตรี ประกอบมาตรา 83 จำคุกคนละ 10 ปี และให้เพิ่มโทษจำเลยที่ 2 อีก 1 ใน 3 เป็นจำคุก 13 ปี 4 เดือน เนื่องจากจำเลยที่ 2 กลับมากระทำผิดอีก หลังจากพ้นโทษคดีหลบหนีการควบคุมตัวตัวของศาลจังหวัดปราจีนบุรีภายในระยะ เวลา 5 ปี ซึ่งคำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 5 ปี จำเลยที่ 2 ไว้ 6 ปี 8 เดือน .
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 54 เวลา 05.30 น. ขณะที่ นางปราณีย์ เวชสุวรรณ ผู้เสียหายเดินออกจากบ้านพักจะไปทำงาน ภายใน ซอยบ้านญวน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต จำเลยที่ 1 ได้ขี่รถ จยย. ทะเบียน ฬงฬ 346 กรุงเทพมหานคร โดยมีจำเลยที่ 2 นั่งซ้อนท้าย ขับตามผู้เสียหาย จากนั้นจำเลยที่ 2 ลงจากรถตรงเข้ากระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ รวมมูลค่า 13,000 บาท แต่ผู้เสียหายขัดขืน ใช้มือจับสร้อยไว้จำเลยที่ 2 จึงใช้มือบีบคอและผลักผู้เสียหายศีรษะกระแทกพื้นก่อนจะพากันหลบหนีไป และนำสร้อยคอไปจำนำได้เงิน 11,000 บาทมาแบ่งกัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสนติดตามจับกุมจำเลยทั้งสองได้ พร้อมให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคสอง,340 ตรี ประกอบมาตรา 83 จำคุกคนละ 10 ปี และให้เพิ่มโทษจำเลยที่ 2 อีก 1 ใน 3 เป็นจำคุก 13 ปี 4 เดือน เนื่องจากจำเลยที่ 2 กลับมากระทำผิดอีก หลังจากพ้นโทษคดีหลบหนีการควบคุมตัวตัวของศาลจังหวัดปราจีนบุรีภายในระยะ เวลา 5 ปี ซึ่งคำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 5 ปี จำเลยที่ 2 ไว้ 6 ปี 8 เดือน .
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น