(วันนี้ 22 ส.ค.) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.ธัณย์จิรา
พงษ์ศิริรัตน์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/664 ซอยคู้บอน 27 ถนนรามอินทรา
แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. พร้อมกลุ่มผู้เสียหาย 12 ราย เข้าพบ
พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นางสุมณีย์
หรือแขก วราโรจน์วงศ์ และ น.ส.มนต์ปภาส์ หรือปอม วราโณจน์วงศ์ สองแม่ลูก
ในความผิดฐานฉ้อโกงและจ่ายเช็คที่ไม่สามารถขึ้นเงินได้
น.ส.ธัณย์จิรา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2553 นางสุมณีย์ และ น.ส.มนต์ปภาส์ ได้ชักชวนให้เข้าร่วมลงทุนค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยอ้างว่าได้รับโควต้าจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมาในราคาเล่มละ 8,500 บาท สามารถนำไปขายให้ลูกค้าในราคา 9,000 บาท ซึ่งจะมีกำไร 500 บาทต่อเล่ม หากตนยินดีร่วมลงทุนก็จะปันผลกำไรให้ จึงหลงเชื่อยอมลงทุนในครั้งแรกจำนวน 89 เล่ม เป็นเงิน 756,000 บาท โดยโอนเงินให้กับนางสุมณีย์ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2553 และเมื่อเห็นว่าได้รับเงินปันผลจริง ถึงได้ลงทุนเพิ่มอีกในปี 2554-2555 พร้อมกับชักชวนญาติพี่น้องและเพื่อนมาลงทุน รวมเป็นเงินกว่า 7 ล้านบาท ซึ่งมีการโอนเงินให้กับนางสุมณีย์ผ่านบัญชีธนาคารต่างๆ แต่ภายหลังกลับไม่ได้เงินปันผลกำไรตามที่ตกลงกันไว้
น.ส.ธัณย์จิรา กล่าวต่อว่า หลังจากทวงถามกับนางสุมณีย์ก็ได้รับการบอกปัด อ้างว่ามีลูกค้าจ่ายเงินให้ช้า หุ้นส่วนคนอื่นๆ ก็เข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้น ต่อมาได้พบกับผู้ที่ร่วมลงทุนกับนางสุมณีย์เช่นเดียวกับตน ซึ่งมีกว่า 20 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งหลายรายได้เงินปันผลไม่ครบ หรือบางงวดก็ไม่ได้รับเงินเลย โดยนางสุมณีย์อ้างว่ามีบุคคลที่ 3 เอาสลากกินแบ่งฯ ไปจำหน่ายแล้วถูกลูกค้าโกงเงิน จึงไม่มีเงินมาจ่ายปันผลดังกล่าว แต่พวกตนก็เริ่มพบข้อพิรุธหลายอย่าง จนที่สุดจึงต้องการยกเลิกการลงทุนและขอเงินลงทุนคืน แต่นางสุมณีย์กลับบ่ายเบี่ยง ขอยืดเวลาคืนเงิน จากนั้นก็มีการจ่ายเช็คแต่ก็ไม่มีเงินในธนาคาร หรือเช็คเด้ง จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความในครั้งนี้
ด้าน พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้ โดยสั่งการให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.สอบปากคำผู้เสียหายและตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป.
น.ส.ธัณย์จิรา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2553 นางสุมณีย์ และ น.ส.มนต์ปภาส์ ได้ชักชวนให้เข้าร่วมลงทุนค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยอ้างว่าได้รับโควต้าจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมาในราคาเล่มละ 8,500 บาท สามารถนำไปขายให้ลูกค้าในราคา 9,000 บาท ซึ่งจะมีกำไร 500 บาทต่อเล่ม หากตนยินดีร่วมลงทุนก็จะปันผลกำไรให้ จึงหลงเชื่อยอมลงทุนในครั้งแรกจำนวน 89 เล่ม เป็นเงิน 756,000 บาท โดยโอนเงินให้กับนางสุมณีย์ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2553 และเมื่อเห็นว่าได้รับเงินปันผลจริง ถึงได้ลงทุนเพิ่มอีกในปี 2554-2555 พร้อมกับชักชวนญาติพี่น้องและเพื่อนมาลงทุน รวมเป็นเงินกว่า 7 ล้านบาท ซึ่งมีการโอนเงินให้กับนางสุมณีย์ผ่านบัญชีธนาคารต่างๆ แต่ภายหลังกลับไม่ได้เงินปันผลกำไรตามที่ตกลงกันไว้
น.ส.ธัณย์จิรา กล่าวต่อว่า หลังจากทวงถามกับนางสุมณีย์ก็ได้รับการบอกปัด อ้างว่ามีลูกค้าจ่ายเงินให้ช้า หุ้นส่วนคนอื่นๆ ก็เข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้น ต่อมาได้พบกับผู้ที่ร่วมลงทุนกับนางสุมณีย์เช่นเดียวกับตน ซึ่งมีกว่า 20 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งหลายรายได้เงินปันผลไม่ครบ หรือบางงวดก็ไม่ได้รับเงินเลย โดยนางสุมณีย์อ้างว่ามีบุคคลที่ 3 เอาสลากกินแบ่งฯ ไปจำหน่ายแล้วถูกลูกค้าโกงเงิน จึงไม่มีเงินมาจ่ายปันผลดังกล่าว แต่พวกตนก็เริ่มพบข้อพิรุธหลายอย่าง จนที่สุดจึงต้องการยกเลิกการลงทุนและขอเงินลงทุนคืน แต่นางสุมณีย์กลับบ่ายเบี่ยง ขอยืดเวลาคืนเงิน จากนั้นก็มีการจ่ายเช็คแต่ก็ไม่มีเงินในธนาคาร หรือเช็คเด้ง จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความในครั้งนี้
ด้าน พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้ โดยสั่งการให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.สอบปากคำผู้เสียหายและตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น