วันนี้( 14 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ
และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ว่า
ถ้าหลังจากปิดสมัยประชุมไปแล้ว รัฐบาลยังไม่มีการคิดทบทวนเรื่องนี้
เมื่อเปิดสมัยประชุมมา เราก็ย้อนกลับมาสู่เหตุการณ์เช่นเดิมอีก
ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใคร นับวันก็ยิ่งชัดเจนขึ้นโดยเฉพาะเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.
ที่ผ่านมา อัยการสูงสุดได้มีการยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี และพวก
คดีนี้ก็อาจเป็นตัวอย่างที่จะถูกล้มหากกฎหมายฉบับนี้ผ่านไป
ดังนั้นตนอยากให้รัฐบาลใช้เวลาในช่วงปิดสมัยประชุมไปทบทวนในเรื่องนี้
อีกทั้งคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย รวมทั้ง
คอป.ก็ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้อย่างชัดเจน
หากรัฐบาลยังไม่ฟังอะไรก็ยิ่งเป็นบทพิสูจน์ว่า
เป็นการช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ และพวก
แล้วอย่างนี้จะเป็นการสร้างความปรองดองตามแนวทางนิติรัฐนิติธรรมได้อย่างไร
ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ได้ชี้มูลความผิดนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในกรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ว่า การที่ ป.ป.ช ชี้มูลว่ามีความผิดร้ายแรงนั้น ตามหลักกฎหมายผู้บังคับบัญชาของนายยงยุทธในขณะนั้น ก็จะต้องเป็นผู้สั่งการลงโทษตามการชี้มูลของ ป.ป.ช. ที่มีทั้งไล่ออก หรือปลดออก ซึ่งบทลงโทษนี้เองจะทำให้มีผลต่อตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้นจึงคิดว่า นายยงยุทธ ต้องพิจารณาตนเองว่าตามมารยาทนั้นจะต้องทำอย่างไร หากนายยงยุทธ ยังนั่งอยู่ในตำแหน่งรมว.มหาดไทย ก็อาจจะทำให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเกิดความลำบากใจที่จะต้องสั่งการตามกฎหมาย หรือหากให้รมว.มหาดไทย สั่งการก็เท่ากับว่านายยงยุทธจะต้องสั่งไล่ตัวเองออก จะเป็นไปได้หรือไม่ ดังนั้นตามมารยาทนายยงยุทธจะต้องทบทวนในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า จะนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเร็วเกินไปที่จะบอกว่าจะนำมาอภิปรายฯหรือไม่ เพราะหากจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ต้องเป็นในสมัยประชุมหน้า ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรืออาจมีการปรับครม.แล้วก็ เป็นได้
ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ได้ชี้มูลความผิดนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในกรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ว่า การที่ ป.ป.ช ชี้มูลว่ามีความผิดร้ายแรงนั้น ตามหลักกฎหมายผู้บังคับบัญชาของนายยงยุทธในขณะนั้น ก็จะต้องเป็นผู้สั่งการลงโทษตามการชี้มูลของ ป.ป.ช. ที่มีทั้งไล่ออก หรือปลดออก ซึ่งบทลงโทษนี้เองจะทำให้มีผลต่อตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้นจึงคิดว่า นายยงยุทธ ต้องพิจารณาตนเองว่าตามมารยาทนั้นจะต้องทำอย่างไร หากนายยงยุทธ ยังนั่งอยู่ในตำแหน่งรมว.มหาดไทย ก็อาจจะทำให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเกิดความลำบากใจที่จะต้องสั่งการตามกฎหมาย หรือหากให้รมว.มหาดไทย สั่งการก็เท่ากับว่านายยงยุทธจะต้องสั่งไล่ตัวเองออก จะเป็นไปได้หรือไม่ ดังนั้นตามมารยาทนายยงยุทธจะต้องทบทวนในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า จะนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเร็วเกินไปที่จะบอกว่าจะนำมาอภิปรายฯหรือไม่ เพราะหากจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ต้องเป็นในสมัยประชุมหน้า ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรืออาจมีการปรับครม.แล้วก็ เป็นได้
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น