วันนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตำรวจภูธรภาค 3
จับกุมขบวนการการทุจริตข้อสอบเข้ารับราชการตำรวจยศนายสิบ เมื่อวันที่ 10
มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้รวม 6 ราย
นำโดยนางเตือนใจ พงษ์พันธ์ อายุ 45 ปี ครูโรงเรียนใน จ.ศรีสะเกษ
และนายดาชัย อุชุโกศลการ อายุ 42 ปี ผู้สมัคร นายก อบจ.ลำปาง
และยังมีผู้ต้องหาผู้ร่วมขบวนการเดียวกันที่ทางศาลจังหวัดนครราชสีมา
ได้อนุมัติหมายจับเพิ่มเติมอีก 1 ราย คือนายวิบูลย์ศักดิ์ แสนจักร อายุ 29
ปี ชาวจังหวัดลำปาง ลูกน้องของนายดาชัย
ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี
นอกจากนี้จากการสืบสวนยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ 2 นาย อาจจะมีส่วนพัวพันรู้เห็นในเรื่องนี้ ซึ่งล่าสุดทาง พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 2 นายมาช่วยรายการที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3เป็นการชั่วคราวแล้ว จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าทั้ง 2 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับพยานหลักฐานที่มีอยู่ ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด ชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว ได้ตรวจสอบกระดาษคำถาม-ตอบ ของผู้สมัครสอบที่ผ่านการทำข้อสอบแล้ว เพื่อตรวจสอบหาพิรุธในกระดาษข้อสอบเหล่านั้น หลังจากที่สืบทราบว่าจะมีการใช้วรรณยุกต์และสระที่อยู่ในคำถามและคำตอบข้อ แรกและข้อที่ 2 มาถอดรหัส เพื่อระบุเป็นชุดข้อสอบ รอรับสัญญาณการให้รหัสจากภายนอกมายังห้องสอบ ซึ่งจะทำให้สามารถระบุคำตอบแยกเป็นข้อสอบในแต่ละชุดได้ ซึ่งผลจากการตรวจสอบในเบื้องต้นผ่านไปแล้วประมาณ 4,000 ชุด จากที่มีอยู่กว่า 36,000 ชุด พบว่ามีพิรุธคล้ายการจดตัวเลขสระและวรรณยุกต์ คล้ายจะเป็นการถอดรหัสตามคำให้การของทางผู้สมัครสอบที่ถูกจับได้ และหนึ่งในผู้ต้องหาได้ให้การไว้รวมกว่า 900 ชุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการเรียกตัวผู้ที่ทำข้อสอบเหล่านั้นมาทำการสอบ สวนต่อไป
พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รอง ผบช.ภ.3 ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนกรณีการทุจริตข้อสอบเข้ารับราชการตำรวจ ยศนายสิบของตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบข้อสอบซึ่งได้มอบหมายให้ทางศูนย์ฝึกและอบรมตำรวจภูธรภาค 3 ทำการตรวจสอบหาพิรุธในการจดสระและวรรณยุกต์ เพื่อมาใช้ในการถอดรหัสระบุชุดข้อสอบ เพื่อเตรียมรับสัญญาณคำตอบพบว่า มีข้อสอบที่เข้าข่ายดังกล่าวมากกว่า 900 ชุดจากการตรวจสอบข้อสอบในเบื้องต้นประมาณ 4,000 ชุด จากทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 36,000 ชุด ซึ่งขณะนี้ในจำนวนที่ตรวจสอบพบได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวเจ้า ของชุดข้อสอบเหล่านั้น พร้อมทั้งผู้ปกครองมาสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตข้อสอบในครั้งนี้หรือไม่ และจะยังคงทำการตรวจสอบข้อสอบทั้งหมดเพื่อหาผู้ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องมา ทำการสอบสวนต่อไป ซึ่งคาดว่าการตรวจสอบจะเสร็จสิ้นภายในวันจันทร์ที่ 18 มิ.ย.2555 นี้
ส่วนผลการสืบสวนทางคดีนั้น ชุดสืบสวนสอบสวนได้หลักฐานเป็นภาพวีดีโอของโรงแรมวีวัน ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงแรมที่ทางผู้ต้องหา 5 รายแรกที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้พร้อมอุปกรณ์การส่งสัญญาณ ทุจริตข้อสอบ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2555 ที่ผ่านมา ใช้เป็นที่พักและแนะนำวิธีการใช้อุปกรณ์รับสัญญาณให้กับผู้สมัครสอบที่จ่าย เงินเพื่อใช้บริการ ซึ่งภาพวีดีโอดังกล่าวสามารถจับภาพผู้ร่วมขบวนการนี้ได้เพิ่มอีก 1 ราย เป็นชายรูปร่างสันทัดผิวขาว ผมสั้น สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ ขณะกำลังช่วยกันกับกลุ่มผู้ต้องหาทีเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ชุดแรก นำอุปกรณ์ที่จะใช้เป็นตัวรับสัญญาณออกมาจากโรงแรม เพื่อที่จะนำไปแจกจ่ายให้กับผู้สมัครสอบที่ใช้บริการ ซึ่งบันทึกได้เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการสอบ 1 วัน
และจากการสืบสวนนางเตือนใจ พงษ์พันธ์ หนึ่งในผู้ต้องหาทราบว่า บุคคลในภาพ ชื่อนายโต ไม่ทราบชื่อและสกุลจริง เป็นบุคคลที่ถูกส่งมาแนะนำวิธีการใช้อุปกรณ์ และการถอดรหัสสัญญาณให้กับผู้เข้าสอบ และเป็นนายหน้าหาผู้สมัครสอบมาร่วมกระทำการทุจริต ซึ่งศาลจังหวัดนครราชสีมาอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่านอกจากผู้ต้องหาที่ได้ออกหมายจับคนนี้แล้ว จะต้องมีผู้ร่วมขบวนการหลงเหลืออยู่อีกส่วนหนึ่ง โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเร่งทำการสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มต่างๆ ที่อาจจะมีส่วนเชื่อมโยงกับขบวนการนี้ เพื่อให้สามารถติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมดและเพื่อให้มีหลัก ฐานมัดตัวตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังให้ได้.
นอกจากนี้จากการสืบสวนยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ 2 นาย อาจจะมีส่วนพัวพันรู้เห็นในเรื่องนี้ ซึ่งล่าสุดทาง พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 2 นายมาช่วยรายการที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3เป็นการชั่วคราวแล้ว จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าทั้ง 2 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับพยานหลักฐานที่มีอยู่ ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด ชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว ได้ตรวจสอบกระดาษคำถาม-ตอบ ของผู้สมัครสอบที่ผ่านการทำข้อสอบแล้ว เพื่อตรวจสอบหาพิรุธในกระดาษข้อสอบเหล่านั้น หลังจากที่สืบทราบว่าจะมีการใช้วรรณยุกต์และสระที่อยู่ในคำถามและคำตอบข้อ แรกและข้อที่ 2 มาถอดรหัส เพื่อระบุเป็นชุดข้อสอบ รอรับสัญญาณการให้รหัสจากภายนอกมายังห้องสอบ ซึ่งจะทำให้สามารถระบุคำตอบแยกเป็นข้อสอบในแต่ละชุดได้ ซึ่งผลจากการตรวจสอบในเบื้องต้นผ่านไปแล้วประมาณ 4,000 ชุด จากที่มีอยู่กว่า 36,000 ชุด พบว่ามีพิรุธคล้ายการจดตัวเลขสระและวรรณยุกต์ คล้ายจะเป็นการถอดรหัสตามคำให้การของทางผู้สมัครสอบที่ถูกจับได้ และหนึ่งในผู้ต้องหาได้ให้การไว้รวมกว่า 900 ชุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการเรียกตัวผู้ที่ทำข้อสอบเหล่านั้นมาทำการสอบ สวนต่อไป
พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รอง ผบช.ภ.3 ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนกรณีการทุจริตข้อสอบเข้ารับราชการตำรวจ ยศนายสิบของตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบข้อสอบซึ่งได้มอบหมายให้ทางศูนย์ฝึกและอบรมตำรวจภูธรภาค 3 ทำการตรวจสอบหาพิรุธในการจดสระและวรรณยุกต์ เพื่อมาใช้ในการถอดรหัสระบุชุดข้อสอบ เพื่อเตรียมรับสัญญาณคำตอบพบว่า มีข้อสอบที่เข้าข่ายดังกล่าวมากกว่า 900 ชุดจากการตรวจสอบข้อสอบในเบื้องต้นประมาณ 4,000 ชุด จากทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 36,000 ชุด ซึ่งขณะนี้ในจำนวนที่ตรวจสอบพบได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวเจ้า ของชุดข้อสอบเหล่านั้น พร้อมทั้งผู้ปกครองมาสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตข้อสอบในครั้งนี้หรือไม่ และจะยังคงทำการตรวจสอบข้อสอบทั้งหมดเพื่อหาผู้ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องมา ทำการสอบสวนต่อไป ซึ่งคาดว่าการตรวจสอบจะเสร็จสิ้นภายในวันจันทร์ที่ 18 มิ.ย.2555 นี้
ส่วนผลการสืบสวนทางคดีนั้น ชุดสืบสวนสอบสวนได้หลักฐานเป็นภาพวีดีโอของโรงแรมวีวัน ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงแรมที่ทางผู้ต้องหา 5 รายแรกที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้พร้อมอุปกรณ์การส่งสัญญาณ ทุจริตข้อสอบ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2555 ที่ผ่านมา ใช้เป็นที่พักและแนะนำวิธีการใช้อุปกรณ์รับสัญญาณให้กับผู้สมัครสอบที่จ่าย เงินเพื่อใช้บริการ ซึ่งภาพวีดีโอดังกล่าวสามารถจับภาพผู้ร่วมขบวนการนี้ได้เพิ่มอีก 1 ราย เป็นชายรูปร่างสันทัดผิวขาว ผมสั้น สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ ขณะกำลังช่วยกันกับกลุ่มผู้ต้องหาทีเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ชุดแรก นำอุปกรณ์ที่จะใช้เป็นตัวรับสัญญาณออกมาจากโรงแรม เพื่อที่จะนำไปแจกจ่ายให้กับผู้สมัครสอบที่ใช้บริการ ซึ่งบันทึกได้เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการสอบ 1 วัน
และจากการสืบสวนนางเตือนใจ พงษ์พันธ์ หนึ่งในผู้ต้องหาทราบว่า บุคคลในภาพ ชื่อนายโต ไม่ทราบชื่อและสกุลจริง เป็นบุคคลที่ถูกส่งมาแนะนำวิธีการใช้อุปกรณ์ และการถอดรหัสสัญญาณให้กับผู้เข้าสอบ และเป็นนายหน้าหาผู้สมัครสอบมาร่วมกระทำการทุจริต ซึ่งศาลจังหวัดนครราชสีมาอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่านอกจากผู้ต้องหาที่ได้ออกหมายจับคนนี้แล้ว จะต้องมีผู้ร่วมขบวนการหลงเหลืออยู่อีกส่วนหนึ่ง โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเร่งทำการสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มต่างๆ ที่อาจจะมีส่วนเชื่อมโยงกับขบวนการนี้ เพื่อให้สามารถติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมดและเพื่อให้มีหลัก ฐานมัดตัวตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังให้ได้.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น