สลดเหตุแม่เฒ่า 62 ถูกยิงร่างพรุนตายสยองคารถ หลังสามีควบกระบะหนีตาย หวั่นเป็นโจรใต้ดักทำร้าย แท้จริงเป็นกลายเป็นชุดปราบยาเสพติด กำลังสกัดจับคนร้ายค้ายารายใหญ่ เห็นขับหนีจำต้องยิงกระสุนเจาะรถโดนร่างดับคาที่ ด้านผู้ใหญ่บ้านโวย ไม่มีการแจ้งตั้งด่านในพื้นที่ พอเกิดเหตุหนีหายเงียบ ยันประท้วงขอความเป็นธรรมเอาเรื่องถึงที่สุด
วันนี้ (31 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เดินทางไปยัง รพ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อร่วมตรวจสอบชันสูตรพลิกศพ นางโสภา พิบูลย์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183/2 หมู่ 14 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช หลังจากถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างว่าเป็นชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจตระเวณชายแดนที่ 42 ค่ายศรนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดระดมยิงเข้าใส่รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน กง-2425 พัทลุง โดยมี ร.ต.อ.สมชัย รักษ์ศรีทอง ร้อยเวร สภ.ร่อนพิบูลย์ และนายแพทย์ พีระ คงทอง ผอ.รพ.ร่อนพิบูลย์ ร่วมชันสูตรพลิกศพนางโสภา พบว่าถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบชนิดและขนาดเข้าบริเวณแผ่นหลัง ลำคอ และแขนซ้าย รวม 4 นัด เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านหมู่ 14 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
โดย นายสุจินต์ พิบูลย์ สามีของนางโสภา ผู้ตาย เล่าเหตุการณ์ให้ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถเก๋งกลับมาจากทำธุระนอกบ้านโดยมีนางโสภา ผู้ตายนั่งคู่มาด้านหน้า เพื่อกลับบ้านซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 1 กม. ได้มีชายฉกรรจ์ประมาณ 5-6 คน ลักษณะใช้รถยนต์กระยนต์กระบะ ไม่ทราบสี่ ยี่ห้อและทะเบียนขับสวนทางมาและส่งสัญญาณไฟพร้อมส่งเสียงบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้ตนหยุดรถ แต่ตนไม่ยอมหยุดเพราะไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่เกรงจะเป็นคนร้ายมาดักปล้นทรัพย์ก็เป็นได้ จึงตัดสินใจเร่งเครื่องยนต์หลบหนี หลังจากนั้นจึงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอย่างถี่ยิบกว่า 10 นัด กระสุนถูกนางโสภา ภรรยาล้มฟุบแน่นิ่งคาที่ ในขณะที่ล้อยางรถของตนโดนกระสุนจนระเบิด รถจึงหยุดไม่สามารถขับต่อไปได้
ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวจึงกรูกันเข้ามาล้อมรถเก๋งของตน จนเมื่อตรวจสอบพบว่านางโสภา ภรรยาของตนถูกยิงแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่ในรถ ชายฉกรรจ์ทั้งหมดแสดงอาการตกใจและพูดกันว่า "ไม่ใช่ ยิงผิดตัว" ในขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.จุฬาภรณ์ ซึ่งมีพื้นที่ติดกันขับรถสายตรวจมายังที่เกิดเหตุ ช่วยน้ำร่างโชกเลือดของนางโสภา ส่ง รพ.ร่อนพิบูลย์ พร้อมแจ้งว่าชายฉกรรจ์ที่ยิงถล่มรถของตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจตระเวณชายแดนที่ 42 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ที่ออกปฏิบัติการไล่ล่าจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด โดยได้วิทยุให้ตำรวจสายตรวจ สภ.จุฬาภรณ์ และตำรวจสายตรวจ สภ.ร่อนพิบูลย์ ช่วยสกัดจับคนร้ายที่ขับรถเก๋งหลบหนี โดยเชื่อว่าชุดปราบปรามยาเสพติด ตชด.ชุดดังกล่าวเข้าใจผิดคิดว่ารถเก๋งของตน เป็นรถของคนร้ายจึงใช้อาวุธปืนระดมยิงใส่ทำให้นางโสภา ภรรยาตนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนตนรอดตายราวปาฏิหาริย์
ในขณะที่นายไพโรจน์ ศิริมี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 14 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า จุดที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากบ้านของตนเพียงไม่ถึง 300 เมตร โดยก่อนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงรถยนต์วิ่งเข้ามาและหยุดอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ โดยสุนัขของชาวบ้านหลายตัวส่งเสียงเก่ากรรโชกอย่างต่อเนื่อง ตนจึงถืออาวุธปืนลูกซอง 5 ออกมาซุ่มดูอยู่ข้างบ้าน ได้เห็นชายฉกรรจ์ยืนอยู่บนรถกระบะหลายคน จนกระทั้งมีรถเก๋งของนายสุจินต์ ขับผ่านมาตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 10 นัด รอจนกระทั้งเสียงปืนสงบลงและมีรถตำรวจสายตรวจ สภ.จุฬาภรณ์ ผ่านมาจึงได้ออกมาร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบชายฉกรรจ์ที่ก่อเหตุซึ่งตนพอจะจำไดว่าเป็น ตชด.เมื่อตำรวจ สภ.จุฬาภรณ์ นำนางโสภา ส่ง รพ.ร่อนพิบูลย์ ส่วนตำรวจตระเวณชายแดนชุดที่ก่อเหตุพากันขับรถออกจากที่เกิดเหตุหายไป
“เรื่องนี้ตนจะร้องขอความเป็นธรรมจนถึงที่สุด เพราะการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ของ ตชด.ในลักษณะนี้อันตรายมาก ๆ ตนและชาวบ้านไม่รู้ว่าใครเป็นใครเพราะล้วนแต่งกายนอกเครื่องแบบซึ่งอาจจะปะทะกับชุดรักษาความสงบหมู่บ้านก็ได้ ตำรวจที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละพื้นที่ควรจะแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของพื้นที่ทราบบ้าง ถ้าเข้ามาเช่นนี้ไม่รู้ว่าโจรหรือตำรวจตนอาจจะยิงตำรวจตายก็ได้ ซึ่งตนและญาติ ๆ ของนางโสภา ผู้ตายและชาวบ้านจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเรื่องที่เกิดขึ้นตนและชาวบ้านจะรวมตัวกันร้องเรียนและเรียกร้องความเป็นธรรมจนถึงที่สุด”
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงนายหนึ่งว่า ตำชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจตระเวนชายแดนได้บุกเข้าตรวจค้นบ้านเพื่อจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่สุดใน อ.ร่อนพิบูลย์ แต่ผู้ต้องหาคนดังกล่าวไหวตัวทันขับรถเก๋งหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด จากการตรวจค้นบ้านของผู้ต้องหาที่หลบหนีตำรวจตระเวณชายแดนสามารถตรวจค้นบ้านยึดยาไอซ์หนัก 1 ก.ก. ยาบ้าอีก 4,000 เม็ด หลังจากนั้นจึงได้วิทยุขอการสนับสนุนจากตำรวจ สภ.ร่อนพิบูลย์ และ สภ.จุฬาภรณ์ ให้ช่วยสกัดจับรถเก๋งของคนร้าย ในขณะที่ตำรวจตระเวณชายแดนชุดดังกล่าวขับรถกระบะมุ่งหน้าไปบ้านญาติของผู้ต้องหาที่หลบหนีเพราะได้รับรายงานว่ามียาเสพติดอีกจำนวนหนึ่งถูกเก็บไว้ที่บ้านพ่อตาของผู้ต้องหา แต่ระหว่างทางนายสุจินต์ ขับรถเก๋งสวนทางมา และรถเก๋งของนายสุจินต์เป็นรถที่มีลักษณะใกล้เคียงกับรถของผู้ต้องหาที่หลบหนี เจ้าหน้าตำรวจตระเวณชายแดนเข้าใจว่าเป็นรถของผู้ต้องหาจึงส่งสัญญาณพร้อมตะโกนให้หยุดรถเพื่อตรวจค้น แต่นาย สุจินต์ ไม่ยอมหยุดรถให้ตรวจค้น ตำรวจตระเวนชายแดนจึงเข้าใจว่าเป็นรถของผู้ต้องหาที่พยายามจะขับหลบหนีจึงระดมยิงใส่นับ 10 นัด กระสุนถูกนางโสภา ที่นั่งคู่มากับนายสุจินต์ เสียชีวิตดังกล่าว.ข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น