เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ
ถนนแจ้งวัฒนะ พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์
ที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.)
พร้อมแนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดง จำนวนหนึ่งเดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อ
นายไพฑูรย์ ขัมภรัตน์ อัยการพิเศษฝ่ายพัฒนากฎหมาย สำนักงานวิชาการ
เพื่อขอให้นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา 68 ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
รับคำร้องที่มีผู้มียื่นตรวจสอบการกระทำความผิดมาตรา 68 วรรคแรก
ในการเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 291
ทั้งนี้พ.ต.ต. เสงี่ยม และพวก ผู้ร้อง เห็นว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องไว้วินิจฉัย เนื่องจากเมื่อมีการพบเห็นการกระทำต้องยื่นเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อ เท็จจริงแล้วจึงเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการขยายเขตอำนาจของตัวเอง ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ฯ มาตรา 68 อีกทั้งยังเป็นการตัดสิทธิของอัยการสูงสุดไป จึงขอให้อัยการสูงสุด ดำเนินการสอบสวนตามรัฐธรรมนูญ ฯ ตามมาตรา 68 ว่าการกระทำของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขัดต่อมาตรา 68 หรือไม่
ด้านนายไพฑูรย์ กล่าวว่า จากที่สอบถามเบื้องต้นคำร้องของ พ.ต.ต.เสงี่ยม ขอให้ตรวจสอบเรื่องการกระทำของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขัดต่อมาตรา 68 เท่านั้น ไม่มีประเด็นเสนอการถอดถอน ดังนั้นอัยการสูงสุดจึงมีอำนาจรับคำร้องนี้ไว้ตรวจสอบ โดยตนจะเสนอเรื่องต่อนายจุลสิงห์ พิจารณา คงจะตั้งคณะทำงานมาตรวจสอบ ขณะที่การพิจารณาจะดูข้อเท็จจริงที่ปรากฏแต่การพิจารณากฎหมายไม่ได้กำหนด กรอบเวลาไว้ ทั้งนี้หากการพิจารณาข้อเท็จจริงปรากฏว่าการกระทำที่เป็นมูลความผิดก็จะเสนอ เรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 แต่หากไม่ปรากฏการกระทำที่เข้าข่าย มาตรา 68 อัยการก็จะยกคำร้องเหมือนที่ผ่านมา
“ขอ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาอัยการสูงสุด ได้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องที่มีผู้ร้องการกระทำตามมาตรา 68 มาโดยตลอดและมีคำสั่งให้ยกร้องเมื่อเห็นว่าข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าการกระทำ นั้นเป็นความผิด “ นายไพฑูรย์ กล่าวตอนท้าย
ทั้งนี้พ.ต.ต. เสงี่ยม และพวก ผู้ร้อง เห็นว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องไว้วินิจฉัย เนื่องจากเมื่อมีการพบเห็นการกระทำต้องยื่นเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อ เท็จจริงแล้วจึงเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการขยายเขตอำนาจของตัวเอง ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ฯ มาตรา 68 อีกทั้งยังเป็นการตัดสิทธิของอัยการสูงสุดไป จึงขอให้อัยการสูงสุด ดำเนินการสอบสวนตามรัฐธรรมนูญ ฯ ตามมาตรา 68 ว่าการกระทำของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขัดต่อมาตรา 68 หรือไม่
ด้านนายไพฑูรย์ กล่าวว่า จากที่สอบถามเบื้องต้นคำร้องของ พ.ต.ต.เสงี่ยม ขอให้ตรวจสอบเรื่องการกระทำของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขัดต่อมาตรา 68 เท่านั้น ไม่มีประเด็นเสนอการถอดถอน ดังนั้นอัยการสูงสุดจึงมีอำนาจรับคำร้องนี้ไว้ตรวจสอบ โดยตนจะเสนอเรื่องต่อนายจุลสิงห์ พิจารณา คงจะตั้งคณะทำงานมาตรวจสอบ ขณะที่การพิจารณาจะดูข้อเท็จจริงที่ปรากฏแต่การพิจารณากฎหมายไม่ได้กำหนด กรอบเวลาไว้ ทั้งนี้หากการพิจารณาข้อเท็จจริงปรากฏว่าการกระทำที่เป็นมูลความผิดก็จะเสนอ เรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 แต่หากไม่ปรากฏการกระทำที่เข้าข่าย มาตรา 68 อัยการก็จะยกคำร้องเหมือนที่ผ่านมา
“ขอ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาอัยการสูงสุด ได้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องที่มีผู้ร้องการกระทำตามมาตรา 68 มาโดยตลอดและมีคำสั่งให้ยกร้องเมื่อเห็นว่าข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าการกระทำ นั้นเป็นความผิด “ นายไพฑูรย์ กล่าวตอนท้าย
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น