ที่ห้องพิจารณา 906 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก วันนี้ ( 10 ก.ค.)
ศาลอ่านคำพิพากษาหมายเลขดำ อ.404/2552 ที่นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนาย จตุพร
พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) เป็นจำเลย
ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
326, 328, 332 จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 52
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่นำสืบแล้ว รับฟังได้ว่า ขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรี จำเลย เป็น. ส.ส.สัดส่วน สังกัดพรรคเพื่อไทยที่เป็นฝ่ายค้าน โดยวันที่ 13 ม.ค.52 จำเลยได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า “...โจทก์ออกมานั่งทำตัวเสมอกับพระเจ้าแผนดิน”
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 50,000 บาท แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยรับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ทั้งนี้หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนค่าปรับ และให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาย่อในหนังสือมติชนและผู้จัดการรายวัน เป็นเวลา 7 วันติดต่อกันโดยจำเลยเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่าย
ขณะที่นายจตุพร กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาว่า ตนน้อมรับคำพิพากษา แต่จะหารือกับทนายความเพื่อใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อไป เพราะคดีหมิ่นประมาทที่มีกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ มีผลัดกันแพ้และชนะ โดยอาจจะนำคดีที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฟ้องหมิ่นประมาท ฯ นายสุเทพ มาเทียบเคียงในชั้นอุทธรณ์ต่อไปอย่างไรก็ตามไม่กังวลในคดีที่อื่นที่ถูกนาย อภิสิทธิ์ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท เพราะตนพูดไปตามหลักฐานและเอกสารกระบวนการสู้คดีโดยวันหนึ่ง นายอภิสิทธิ์ก็อาจตกเป็นจำเลยบ้างก็ได้
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่นำสืบแล้ว รับฟังได้ว่า ขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรี จำเลย เป็น. ส.ส.สัดส่วน สังกัดพรรคเพื่อไทยที่เป็นฝ่ายค้าน โดยวันที่ 13 ม.ค.52 จำเลยได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า “...โจทก์ออกมานั่งทำตัวเสมอกับพระเจ้าแผนดิน”
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 50,000 บาท แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยรับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ทั้งนี้หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนค่าปรับ และให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาย่อในหนังสือมติชนและผู้จัดการรายวัน เป็นเวลา 7 วันติดต่อกันโดยจำเลยเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่าย
ขณะที่นายจตุพร กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาว่า ตนน้อมรับคำพิพากษา แต่จะหารือกับทนายความเพื่อใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อไป เพราะคดีหมิ่นประมาทที่มีกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ มีผลัดกันแพ้และชนะ โดยอาจจะนำคดีที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฟ้องหมิ่นประมาท ฯ นายสุเทพ มาเทียบเคียงในชั้นอุทธรณ์ต่อไปอย่างไรก็ตามไม่กังวลในคดีที่อื่นที่ถูกนาย อภิสิทธิ์ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท เพราะตนพูดไปตามหลักฐานและเอกสารกระบวนการสู้คดีโดยวันหนึ่ง นายอภิสิทธิ์ก็อาจตกเป็นจำเลยบ้างก็ได้
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น