วันนี้(9ก.ค.) นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องการดำเนินการกับไม้ของกลางจำนวนมากในความรับผิด
ชอบของกรมป่าไม้ ว่า ปริมาณไม้ของกลางที่กรมป่าไม้ดูแลอยู่ ระหว่างปี
2548-ปัจจุบันนั้น แยกประเภทเป็นไม้สัก อยู่ระหว่างคดี 2,723 คดี จำนวน
93,733 ท่อน /3,093.76 ลูกบาศก์เมตร ตกเป็นของแผ่นดินหรือคดีถึงที่สุดแล้ว
11,646 คดี 169,322 ท่อน / 8,612.081 ลูกบาศก์เมตร ไม้กระยาเลย
อยู่ระหว่างคดี 6,739 คดี 203,360 ท่อน/21,246.01 ลูกบาศก์เมตร
ตกเป็นของแผ่นดินหรือคดีถึงที่สุด 4,806 คดี 132,322 ท่อน/10,389.71
ลูกบาศก์เมตร รวมปริมาตรไม้สักและไม้กระยาเลยกว่า 43,340 ลูกบาศก์เมตร
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ทั้งนี้สำหรับในส่วนของไม้พะยูง ตั้งแต่ปีงบประมาณ ต.ค. 2548-มี.ค.2555 มีคดีไม้พะยูงทั้งสิ้น 2,813 คดี จำนวนผู้ต้องหา 1,796 คน จำนวนไม้พะยูงของกลาง 178,609 ท่อน ปริมาตรรวม 16,953.731 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าความเสียหายกว่า 884,426,710 บาท คดีสิ้นสุดหรือตกเป็นของแผ่นดินแล้ว 20,771 ท่อน / 1,730 ลูกบาศก์เมตร สำหรับแนวทางในการจัดการไม้ของกลางที่อยู่ในความรับผิดชอบ ของกรมป่าไม้นั้น ในส่วนไม้ของกลางที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายเสื่อมสภาพแก่ไม้ของกลาง หากเก็บไว้จนคดีถึงที่สุดหรือตกเป็นของแผ่นดิน มีแนวทางปฏิบัติในการจัดการไม้ของกลางดังกล่าวคือ หากผู้ต้องหา จำเลย หรือผู้เป็นเจ้าของไม่คัดค้าน พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาล แล้วแต่กรณีให้ความเห็นชอบ ให้มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาราคาแห่งท้องถิ่น โดยคณะกรรมการประกอบด้วยผู้แทน ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ผู้แทน ทสจ. และผู้แทน ออป. เพื่อกำหนดราคาขายบวกค่าภาระผูกพันถ้ามี โดยขายให้ ออป. และ ออป.รับซื้อในราคาสี่เท่าค่าภาคหลวงสำหรับไม้สัก สามเท่าค่าภาคหลวงสำหรับไม้กระยาเลย ส่วนราคาที่เหลือให้ทำสัญญาประกันไว้ หากมีผู้ร้องสิทธิในไม้และชนะคดี ออป.จะยินยอมชำระตามสัญญาแก่ผู้ชนะคดี ส่วนไม้ของกลางที่ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว มีระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการปฏิบัติเกี่ยวกับไม้ของกลางในคดี ความผิดเกี่ยวกับการป่าไม้ พ.ศ. 2533 ข้อ 7 ให้ขายโดยวิธีทอดตลาดหรือวิธีประกวดราคาเว้นแต่จะมีกฎหมายหรือมติ ครม. กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น หรือให้หน่วยงานราชการนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งกรมป่าไม้จะนำเสนอให้กระทรวงทรัพยากรฯ และ ครม. พิจารณาต่อไป
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ทั้งนี้สำหรับในส่วนของไม้พะยูง ตั้งแต่ปีงบประมาณ ต.ค. 2548-มี.ค.2555 มีคดีไม้พะยูงทั้งสิ้น 2,813 คดี จำนวนผู้ต้องหา 1,796 คน จำนวนไม้พะยูงของกลาง 178,609 ท่อน ปริมาตรรวม 16,953.731 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าความเสียหายกว่า 884,426,710 บาท คดีสิ้นสุดหรือตกเป็นของแผ่นดินแล้ว 20,771 ท่อน / 1,730 ลูกบาศก์เมตร สำหรับแนวทางในการจัดการไม้ของกลางที่อยู่ในความรับผิดชอบ ของกรมป่าไม้นั้น ในส่วนไม้ของกลางที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายเสื่อมสภาพแก่ไม้ของกลาง หากเก็บไว้จนคดีถึงที่สุดหรือตกเป็นของแผ่นดิน มีแนวทางปฏิบัติในการจัดการไม้ของกลางดังกล่าวคือ หากผู้ต้องหา จำเลย หรือผู้เป็นเจ้าของไม่คัดค้าน พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาล แล้วแต่กรณีให้ความเห็นชอบ ให้มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาราคาแห่งท้องถิ่น โดยคณะกรรมการประกอบด้วยผู้แทน ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ผู้แทน ทสจ. และผู้แทน ออป. เพื่อกำหนดราคาขายบวกค่าภาระผูกพันถ้ามี โดยขายให้ ออป. และ ออป.รับซื้อในราคาสี่เท่าค่าภาคหลวงสำหรับไม้สัก สามเท่าค่าภาคหลวงสำหรับไม้กระยาเลย ส่วนราคาที่เหลือให้ทำสัญญาประกันไว้ หากมีผู้ร้องสิทธิในไม้และชนะคดี ออป.จะยินยอมชำระตามสัญญาแก่ผู้ชนะคดี ส่วนไม้ของกลางที่ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว มีระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการปฏิบัติเกี่ยวกับไม้ของกลางในคดี ความผิดเกี่ยวกับการป่าไม้ พ.ศ. 2533 ข้อ 7 ให้ขายโดยวิธีทอดตลาดหรือวิธีประกวดราคาเว้นแต่จะมีกฎหมายหรือมติ ครม. กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น หรือให้หน่วยงานราชการนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งกรมป่าไม้จะนำเสนอให้กระทรวงทรัพยากรฯ และ ครม. พิจารณาต่อไป
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น