จากกรณีที่ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
จ.เพชรบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าแก่งกระจาน
และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แก่งกระจานเข้าจับกุม พ.ต.ท.ธีรยุทร เกตุมั่งมี
สว.สส.สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมชาวบ้านอีก 8 คน
และของกลางในข้อหาร่วมกันกระทำผิด มีและพกพาอาวุธปืน ยิงปืน ล่าสัตว์
ครอบครองซากสัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติ(
พ.ร.บ.)สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
โดยได้ควบคุมตัวทั้งหมดเอาไว้พร้อมของกลางเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น
วันนี้ (13 พ.ย.) นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ให้สัมภาษณ์ ว่า ทส.มีนโยบายชัดเจนเรื่องการปราบปรามเอาผิดกับผู้ที่ลักลอบทำลายป่าและล่า สัตว์ เป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้ กรณีที่ป่าแก่งกระจานนั้น ต้องชมเจ้าหน้าที่ที่เข้มงวดกวดขัน และไม่เกรงกลัวว่า จะเป็นใครมาจากไหน แต่หากทำผิดก็ต้องได้รับโทษทางกฎหมาย ได้รับรายงานว่า เวลานี้ เรื่องทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการสืบสวน สอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว คนที่ทำความผิดคงจะหนีไม่พ้น เพราะหลักฐานชัดเจนออกขนาดนั้น
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าตำรวจจะกันตัวให้ พ.ต.ท.ธีรยุทธ เป็นพยาน โดยจะบอกว่า เป็นเพียงคนเข้าไปเที่ยวในป่า ไม่ใช่คนล่าสัตว์ นายปรีชา กล่าวว่า ไม่น่าจะทำเช่นนั้นได้ และขอให้มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม เชื่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิจารณาเรื่องจากพยานหลักฐานที่มีอยู่ ซึ่งตนก็เห็นว่าหนักแน่นและครอบคลุมพอ
นายเริงชัย ประยูรเวช รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรณีที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าไปล่า สัตว์ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้ แสดงให้เห็นว่า มีการเข้มงวดกวดขันในพื้นที่ มีการหาข่าว และได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่อย่างดี เพราะก่อนจะเข้าจับกุมนั้น ได้วางแผนกันพอสมควร จนมั่นใจว่า จะดำเนินการในวันดังกล่าวแน่จึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด
เมื่อถามถึงกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าชุดที่ออกปฏิบัติการครั้งนี้ บอกว่า หากมีการล้มคดี หรือไม่สามารถเอาผิดกับนายตำรวจคนดังกล่าวได้ จะขอลาออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทันที นายเริงชัย กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น ทั้งนี้ นายปรีชา ได้กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวแล้วคือ ในมาตรา 36 ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่าสงวนหรือคุ้มครอง มีโทษ ปรับ 5 หมื่น จำคุก 5 ปี หรือ ทั้งจำและปรับ..
วันนี้ (13 พ.ย.) นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ให้สัมภาษณ์ ว่า ทส.มีนโยบายชัดเจนเรื่องการปราบปรามเอาผิดกับผู้ที่ลักลอบทำลายป่าและล่า สัตว์ เป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้ กรณีที่ป่าแก่งกระจานนั้น ต้องชมเจ้าหน้าที่ที่เข้มงวดกวดขัน และไม่เกรงกลัวว่า จะเป็นใครมาจากไหน แต่หากทำผิดก็ต้องได้รับโทษทางกฎหมาย ได้รับรายงานว่า เวลานี้ เรื่องทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการสืบสวน สอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว คนที่ทำความผิดคงจะหนีไม่พ้น เพราะหลักฐานชัดเจนออกขนาดนั้น
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าตำรวจจะกันตัวให้ พ.ต.ท.ธีรยุทธ เป็นพยาน โดยจะบอกว่า เป็นเพียงคนเข้าไปเที่ยวในป่า ไม่ใช่คนล่าสัตว์ นายปรีชา กล่าวว่า ไม่น่าจะทำเช่นนั้นได้ และขอให้มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม เชื่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิจารณาเรื่องจากพยานหลักฐานที่มีอยู่ ซึ่งตนก็เห็นว่าหนักแน่นและครอบคลุมพอ
นายเริงชัย ประยูรเวช รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรณีที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าไปล่า สัตว์ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้ แสดงให้เห็นว่า มีการเข้มงวดกวดขันในพื้นที่ มีการหาข่าว และได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่อย่างดี เพราะก่อนจะเข้าจับกุมนั้น ได้วางแผนกันพอสมควร จนมั่นใจว่า จะดำเนินการในวันดังกล่าวแน่จึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด
เมื่อถามถึงกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าชุดที่ออกปฏิบัติการครั้งนี้ บอกว่า หากมีการล้มคดี หรือไม่สามารถเอาผิดกับนายตำรวจคนดังกล่าวได้ จะขอลาออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทันที นายเริงชัย กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น ทั้งนี้ นายปรีชา ได้กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวแล้วคือ ในมาตรา 36 ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่าสงวนหรือคุ้มครอง มีโทษ ปรับ 5 หมื่น จำคุก 5 ปี หรือ ทั้งจำและปรับ..
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น