วันนี้ (13 พ.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายชวรัตน์
ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายชุมพล ศิลปอาชา
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอเพื่อให้ปากคำคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้า
หน้าที่รัฐ 91 ศพ จากเหตุรุนแรงทางการเมืองเมื่อปี 2553
ตามหมายเรียกของดีเอสไอ เนื่องจากทั้ง2
คนถือเป็นผู้มีบทบาทร่วมในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รัฐบาลชุด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยมี พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข
รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนเข้าร่วมสอบปากคำ
นายชุมพล กล่าวว่า ตนเข้าให้ปากคำในฐานะพยานเนื่องจากมีตำแหน่งในครม.เมื่อปี 2553 จึงคาดว่าดีเอสไอจะเรียกเข้ามาสอบถามถึงสถานการณ์เมื่อปี 2553 ส่วนจะสอบถามประเด็นใดบ้างนั้นยังไม่ทราบ แต่พร้อมจะตอบทุกข้อ ข้อซักถาม อย่างไรก็ตาม การประชุมครม.ในขณะนั้นเป็นการประชุมตามปกติ ไม่มีการสั่งการบัญชาการให้ทำอะไรเป็นพิเศษ ขณะที่นายชวรัตน์ ปฏิเสธตอบข้อซักถามถึงการเข้าให้ปากคำ
ด้านพ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวว่า ได้ซักถามทั้ง 2 คน ในประเด็นการประชุมครม.นัดพิเศษเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2553 ที่มีการหารือและประกาศพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยทั้ง 2 ได้ให้การที่สอดคล้องกันแต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยหลังจากนี้จะทยอยเรียกผู้ที่มีชื่อเข้าร่วมประชุมครม. 13 คนเข้าให้ข้อมูลทุกปาก ซึ่งหลังจากนี้ยังมีพยานในส่วนของฝ่ายผู้ปฏิบัติที่ต้องเรียกเข้าให้ปากคำ อีกหลายปาก รวมถึงในวันนี้ตนจะออกหมายเรียกให้พยานที่เป็นเจ้าของบ้านไม้โบราณที่คณะ กรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.) อ้างในรายงานว่าอาจถูกใช้เป็นสถานที่ยิงอาวุธใส่กลุ่มทหารเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 เข้าให้ปากคำด้วย หากไม่มาก็จะถือว่ามีความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานต้องมีโทษทางอาญา อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะต้องเรียกพยานที่เคยให้ปากคำกับคอป. รวมถึงคณะทำงานทุกชุดมาให้ปากคำเพื่อรวบรวมข้อมูลก่อนออกหมายเรียกนายคณิต ณ นคร ประธานคอป. เข้าให้การต่อไป..
นายชุมพล กล่าวว่า ตนเข้าให้ปากคำในฐานะพยานเนื่องจากมีตำแหน่งในครม.เมื่อปี 2553 จึงคาดว่าดีเอสไอจะเรียกเข้ามาสอบถามถึงสถานการณ์เมื่อปี 2553 ส่วนจะสอบถามประเด็นใดบ้างนั้นยังไม่ทราบ แต่พร้อมจะตอบทุกข้อ ข้อซักถาม อย่างไรก็ตาม การประชุมครม.ในขณะนั้นเป็นการประชุมตามปกติ ไม่มีการสั่งการบัญชาการให้ทำอะไรเป็นพิเศษ ขณะที่นายชวรัตน์ ปฏิเสธตอบข้อซักถามถึงการเข้าให้ปากคำ
ด้านพ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวว่า ได้ซักถามทั้ง 2 คน ในประเด็นการประชุมครม.นัดพิเศษเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2553 ที่มีการหารือและประกาศพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยทั้ง 2 ได้ให้การที่สอดคล้องกันแต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยหลังจากนี้จะทยอยเรียกผู้ที่มีชื่อเข้าร่วมประชุมครม. 13 คนเข้าให้ข้อมูลทุกปาก ซึ่งหลังจากนี้ยังมีพยานในส่วนของฝ่ายผู้ปฏิบัติที่ต้องเรียกเข้าให้ปากคำ อีกหลายปาก รวมถึงในวันนี้ตนจะออกหมายเรียกให้พยานที่เป็นเจ้าของบ้านไม้โบราณที่คณะ กรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.) อ้างในรายงานว่าอาจถูกใช้เป็นสถานที่ยิงอาวุธใส่กลุ่มทหารเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 เข้าให้ปากคำด้วย หากไม่มาก็จะถือว่ามีความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานต้องมีโทษทางอาญา อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะต้องเรียกพยานที่เคยให้ปากคำกับคอป. รวมถึงคณะทำงานทุกชุดมาให้ปากคำเพื่อรวบรวมข้อมูลก่อนออกหมายเรียกนายคณิต ณ นคร ประธานคอป. เข้าให้การต่อไป..
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น