เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้(13พ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว
พล.ต.ต.รอย อิงคไพไรจน์ ผบก.ทท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกก.1.บก.ทท.
ร่วมกันแถลงการจับกุม นายสำรวม ทองตุ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 297/10
ถนนตลาดใหม่ ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี และ นายธนวัฒน์ เฉลิมชัย อายุ
26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/236 หมู่ที่ 3 ถนนเลี่ยงเมือง ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง
จ.สุราษฎร์ธานี
ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันลักทรัพย์บนยานพาหนะอื่นที่ประชาชนโดยสารในเวลากลาง
คืน
ร่วมกันมีเพื่อนำออกใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยประการทีน่าสนจะเกิด
ความเสียหายแก่ผู้อื่น เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตตามีน)
ขณะขับขี่รถโดยสาร และพกพาอาวุธปืนติดตามตัวไปในเมือง
หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ยังมีความผิดแก้ไขเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของตัวรถโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากนายทะเบียน และใช้รถที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้องตามกระทรวง ฯ
เช่นเจาะช่องคนขับ เพื่อให้สามารถเข้าถึงห้องเก็บสัมภาระของผู้โดยสาร
พร้อมด้วยของกลาง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารต่างประเทศ BNP PARIBAS 1 ใบ
อาวุธปืนพกสั้นขนาด 0.22 นิ้ว 1 กระบอก เครื่องกระสุน 4 นัด
อุปกรณ์สะเดาะแม่กุญแจ 1 อัน อุปกรณ์การเสพยาเสพติด 1 ชุด
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก สืบสวนพบว่ารถโดยสารไม่ประจำทางหมายเลขทะเบียน 31-4721 กรุงเทพมหานคร มีอาชญากรแฝงตัวปะปนอยู่ในกลุ่มคนขับและพนักงานประจำรถ เพื่อก่อเหตุลักทรัพย์ของนักท่องเที่ยวมาแล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังเฝ้าดูพฤติกรรมและติดตามอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่ารถโดยสารคันดังกล่าวจะรับนักท่องเที่ยวจากสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา และจะไปส่งยังปลายทาง กทม. บริเวณถนนมหาราช เจ้าหน้าที่จึงติดตามดูพฤติการณ์ระหว่างเดินทาง จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.30 น.ของวันที่ 13 พ.ย. รถโดยสารคันดังกล่าวได้พาผู้โดยสารมาส่งยังบริเวณถนนมหาราช เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวขอตรวจค้น และมีผู้โดยสารชาวต่างชาติเข้ามาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าบัตรเครดิตของตนหายไป หลังจากที่เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางและล็อคกุญแจอย่างดี ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นตัวนายสำรวม คนขับรถและพบบัตรเครดิตซุกซ่อนอยู่ในกางเกงด้านขวา
สอบสวน นายสำรวม ให้การรับสารภาพว่า มีหน้าที่เป็นคนขับรถ หากจะลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ผู้โดยสาร จะให้นายธนวัฒน์ มาขับรถแทนเมื่อก่อเหตุเสร็จจึงจะมาทำหน้าที่ขับรถเหมือนเดิม โดยทำมาแล้วประมาณ 3-4ครั้ง
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่านายสำรวม เคยถูกจับในข้อหาพยายามฆ่านักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน เมื่อวันที่27 มิ.ย. ที่ผ่านมา ส่วนนายธนวัฒน์นั้นเคยถูกจับในข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง เมื่อปี 2551..
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก สืบสวนพบว่ารถโดยสารไม่ประจำทางหมายเลขทะเบียน 31-4721 กรุงเทพมหานคร มีอาชญากรแฝงตัวปะปนอยู่ในกลุ่มคนขับและพนักงานประจำรถ เพื่อก่อเหตุลักทรัพย์ของนักท่องเที่ยวมาแล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังเฝ้าดูพฤติกรรมและติดตามอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่ารถโดยสารคันดังกล่าวจะรับนักท่องเที่ยวจากสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา และจะไปส่งยังปลายทาง กทม. บริเวณถนนมหาราช เจ้าหน้าที่จึงติดตามดูพฤติการณ์ระหว่างเดินทาง จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.30 น.ของวันที่ 13 พ.ย. รถโดยสารคันดังกล่าวได้พาผู้โดยสารมาส่งยังบริเวณถนนมหาราช เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวขอตรวจค้น และมีผู้โดยสารชาวต่างชาติเข้ามาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าบัตรเครดิตของตนหายไป หลังจากที่เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางและล็อคกุญแจอย่างดี ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นตัวนายสำรวม คนขับรถและพบบัตรเครดิตซุกซ่อนอยู่ในกางเกงด้านขวา
สอบสวน นายสำรวม ให้การรับสารภาพว่า มีหน้าที่เป็นคนขับรถ หากจะลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ผู้โดยสาร จะให้นายธนวัฒน์ มาขับรถแทนเมื่อก่อเหตุเสร็จจึงจะมาทำหน้าที่ขับรถเหมือนเดิม โดยทำมาแล้วประมาณ 3-4ครั้ง
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่านายสำรวม เคยถูกจับในข้อหาพยายามฆ่านักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน เมื่อวันที่27 มิ.ย. ที่ผ่านมา ส่วนนายธนวัฒน์นั้นเคยถูกจับในข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง เมื่อปี 2551..
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น