วันนี้เรามีหนุ่มฮอตที่เรียกว่าฮอตจริง ๆ มานั่งพูดคุยกับเราตรงนี้
เพราะเขาคือเดอะสตาร์คนที่ 8 ของประเทศไทย และถือว่าเป็นชาวใต้คนที่ 3
ที่คว้าเดอะสตาร์ขวัญใจมหาชนไปครอง "โดม จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม"
หนุ่มคนนี้เราต้องบอกว่าเขามาพร้อมกับความสามารถจริง ๆ จนคว้าอันดับ 1
จากเวทีเดอะสตาร์มาได้ และแน่นอนว่ามีแฟนคลับเยอะขนาดนี้
เราต้องจัดเต็มเพื่อแฟนคลับของเขาเสียหน่อย และวันนี้ โดม
พร้อมแล้วที่จะมาพูดคุยกับเราถึงทุกเรื่องราว
ก่อนที่จะมาเป็นเดอะสตาร์คนที่ 8
คิดยังไงถึงเข้ามาประกวด เดอะสตาร์?
“ตัดสินใจมาประกวด ดูรายการเดอะสตาร์มาตั้งแต่แรก ตอนนั้นยังอยู่ ป.6 เป็นรายการที่สนุก ทำความฝันแต่ละคนให้เป็นจริง และทุกคนออกมาแล้วดังกันหมด ผมก็แอบคิดในตอนนั้นว่าถ้าเราได้เข้าไปเป็นหนึ่งในนั้นบ้างก็คงจะดี และอีกอย่างจริง ๆ เป็นคนชอบฟังเพลงมาตั้งแต่เด็ก ชอบร้องแล้วก็เข้าประกวดร้องเพลงครั้งแรกเลยตอนอยู่มัธยม ตอนนั้นเป็นเวทีของโรงเรียนก็ได้รางวัลชนะเลิศไป จากนั้นก็ประกวดเรื่อย ๆ ก็ได้รางวัลมาบ้างเหมือนกัน”
ได้ข่าวว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่เข้าประกวด?
“ครับ ผมเคยไปสมัครมาแล้วสองครั้ง แต่ตอนนั้นถามผมว่าท้อไหม ก็ไม่ถึงกับท้อครับ แต่กลับมามองตัวเองว่าเรามีจุดบกพร่องตรงไหนบ้าง ก็เอากลับมาพัฒนาตัวเอง แล้วพอครั้งนี้ผมไม่คิดว่ามันจะเข้ามาขนาดนี้ ตอนแรกคิดแค่ว่าเข้า 8 คนก็ดีใจมากแล้ว แต่พอมันค่อย ๆผ่านไปเรื่อย ๆ จนเหลือสองคนก็ดีใจมาก”
ตอนที่ยืนอยู่สองคนบนเวที ในระหว่างที่รอประกาศผล ตอนนั้นคิดอะไรอยู่?
“ตอนนั้นเบลอมากครับ เพราะว่าคนเยอะมากแล้วก็ตะโกนโน่นนี่นั่น ผมก็ตื่นเต้นมาก เบลอไปหมด แล้วพอได้ยินประกาศชื่อว่าเป็นเรา ผมตกใจมาก คือตอนเราอยู่ในบ้านเราไม่รู้กระแสว่าเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้”
“แฟนคลับ”
ตอนนี้มีแฟนคลับแล้วด้วย?
“ใช่ครับ ดีใจ คือเหมือนทึ่งกับการเป็นแฟนคลับของทุกคน เขาทุ่มเทให้เรามาก ๆ มานั่งรอ วิ่งตาม ซื้อขนมซื้อของมาให้ ซึ่งเขาทุ่มเทเสียสละทุกอย่าง และให้กำลังใจเรามาตลอด”
งง กับตัวเองไหม อยู่ ๆ ก็มีคนมาวิ่งตามเรา?
“แรก ๆ ก็งง ๆ ครับ ไม่ชิน แต่ว่าเห็นแล้วก็มีความสุข แต่เราก็เป็นห่วงเวลาที่เขามารอ เขาจะรอกันตรงไหน ร้อนไหม แต่พอเห็นเขามีความสุข ก็เลยคิดว่าเขาทำเพราะเขามีความสุข และเราทำให้เขามีความสุขได้จริง ๆ เราก็มีความสุขไปด้วย”
เริ่มรู้สึกอึดอัด หรือกดดันไหม เริ่มมีคนมาคาดหวังกับเราแล้ว?
“มันก็อาจจะตรงที่ว่า เราเองต้องพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ มันมีคนที่รอและติดตามผลงานของเราอยู่ เหมือนกับว่าแฟนคลับของทุกคนน่ารักมาก ๆ แล้วเหมือนกับว่าแฟนคลับของทุกคนเขารู้ว่าเขามีลิมิตของเขาแค่ไหน เขาสามารถทำได้แค่ไหน เขาทำเต็มที่ในส่วนของเขา ปล่อยให้เรามีความเป็นส่วนตัวของเราด้วย”
“เพลงแรก”
ได้ข่าวมีเพลงเป็นของตัวเองแล้ว?
“ครับ ชื่อเพลง “คำอธิษฐาน ด้วยน้ำตา” เข้าห้องอัดครั้งแรกตื่นเต้นครับ พี่โปรดิวเซอร์ เขาก็พยายามตีความเนื้อเพลงให้ เพราะเข้าห้องอัดครั้งแรกไม่เข้าใจ ก็ร้องไปเรื่อย ๆ หลัก ๆ การร้องเพลงในห้องอัดคือการสื่อสารให้คนเข้าใจ ก็ต้องมีการตีความเนื้อเพลงด้วย งานนี้พี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) เข้ามาช่วยดูด้วยครับ”
เข้าห้องอัดครั้งแรกในชีวิต เป็นยังไง?
“เข้าห้องอัดครั้งแรกเลยในชีวิตคือ อัดเพลง ดาวดวงนั้น แต่ตอนนั้นไปกับเพื่อน ๆ หลายคน แต่พอเข้าห้องอัดที่เป็นเพลงของเราเอง เพลงแรกในชีวิตของเราก็ตื่นเต้น
มาก ๆ ครับ คืนก่อนหน้าเข้าห้องอัดก็แอบมีคิดเยอะ แต่ไม่ถึงขั้นนอนไม่หลับ”
“ฝันเป็นจริง”
ขอย้อนไปตอนเด็ก ๆ หน่อย ตอนเด็กโดมมีความฝันอะไร?
“เด็ก ๆ เลยไม่ได้มีความฝันอยากเป็นอะไรที่ชัดเจน แต่หลัก ๆ ผมชอบฟังเพลง ดูหนัง พอเข้ามหาวิทยาลัย ตอนแรกอยากจะเรียนสายบันเทิงเหมือนกัน อยากจะเรียนนิเทศฯ สาขาภาพยนตร์ สุดท้ายก็เลือกเรียนนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ก็คิดว่าอยากทำงานในสายแต่ไม่รู้จะไปถึงขั้นไหน”
วันนี้เรียกว่าฝันเป็นจริงแล้วในระดับหนึ่ง จะทำอะไรต่อ?
“ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่จะให้โอกาสเลยครับ ว่าจะให้เราทำอะไรต่อ คืออยากจะทำทุก ๆ อย่าง ไม่ว่าผู้ใหญ่จะให้โอกาสทำอะไรก็จะลองทุก ๆ อย่างเพราะผมเองไม่เคยทำมาก่อน อยากจะลองฝึกตัวเอง คนเราพอได้เข้ามาตรงนี้แล้วก็ต้องลองครับ”
“ศัลยกรรม”
พอเข้าวงการมาแล้วก็ต้องมีการดูแลตัวเองมากขึ้น โดมอยากจะทำอะไรกับตัวเองบ้าง?
“ผมไม่สำอางเลย ไม่ดูแลตัวเองเท่าไร คือที่บ้านมีอะไรก็ใช้อย่างนั้นไม่เคยไปแสวงหาอะไรมาใช้ แต่พอเราเข้ามาตรงนี้ผมเข้าใจครับ ว่าเราต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ตอนนี้ก็เริ่มปรึกษาพี่ ๆ ว่าเราต้องดูแลตัวเองยังไง เริ่มศึกษาเรื่องครีมแล้ว พอเข้ามาตรงนี้มันก็ต้องดูแลตัวเองกันนิดหนึ่ง”
ในเรื่องศัลยกรรม สนใจกับเขาไหม?
“ในเรื่องศัลยกรรมผมไม่ค่อยจะสนใจเท่าไร แต่สิ่งที่ผมอยากทำคือเรื่องของฟัน ผมอยากจะจัดฟัน ผมไม่ได้มองว่าไปทำเพื่อให้หล่อหรือดูดีขึ้น แต่มีคนบอกว่า ถ้าเราปล่อยฟันไม่เป็นระเบียบ มันจะส่งผลถึงรูปหน้าและรูปปาก ก็คิดว่าต้องทำจริง ๆ เพราะฟันผมไม่สบกัน และเบี้ยวหน่อย ๆ ถ้าปล่อยไว้ต่อไปจะทำให้มีปัญหา แต่พวกเรื่องอื่นผมไม่ค่อยกล้า ผมว่านะครับ เราเคยเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นไป ที่แฟนคลับเขารักเราเพราะเราเป็นเรา อันนี้แฟนคลับเขาจะบอกเสมอ เราก็ต้องฝึกพัฒนาตัวเองในด้านอื่น ๆ ด้วย”
ในเรื่องของน้ำหนักล่ะ?
“ผมก็อยากลด ก่อนเข้าบ้านน้ำหนัก 103 กิโล ตอนนี้ 86 กิโล ตอนที่อยู่ในบ้านก็ออกกำลังกายตามโปรแกรม แล้วลดเรื่องอาหารลง แต่ตอนนี้ก็ต้องลดลงไปอีก เพราะว่ามีงานที่จะต้องทำมากขึ้น จะให้แบกน้ำหนัก 80 กว่ากิโลไปมันอาจจะดูไม่คล่องแคล่ว และในเรื่องสุขภาพก็ไม่ดี เลยต้องลดลงมาเพื่อสุขภาพที่ดี ก็ตั้งเป้าไว้สัก 70 กิโล”
สำหรับหนุ่มโดม ชีวิตเพิ่งเริ่มต้นสำหรับเส้นทางสายนี้ และเราก็ขอเอาใจช่วย ให้ประสบความสำเร็จกับเส้นทางที่เลือกนะจ๊ะ หนุ่มโดม แล้วกลับมาเจอกันอีกครั้งในวันเสาร์หน้าจ้ะ.
กาญจนา สิทธิเม่ง
คิดยังไงถึงเข้ามาประกวด เดอะสตาร์?
“ตัดสินใจมาประกวด ดูรายการเดอะสตาร์มาตั้งแต่แรก ตอนนั้นยังอยู่ ป.6 เป็นรายการที่สนุก ทำความฝันแต่ละคนให้เป็นจริง และทุกคนออกมาแล้วดังกันหมด ผมก็แอบคิดในตอนนั้นว่าถ้าเราได้เข้าไปเป็นหนึ่งในนั้นบ้างก็คงจะดี และอีกอย่างจริง ๆ เป็นคนชอบฟังเพลงมาตั้งแต่เด็ก ชอบร้องแล้วก็เข้าประกวดร้องเพลงครั้งแรกเลยตอนอยู่มัธยม ตอนนั้นเป็นเวทีของโรงเรียนก็ได้รางวัลชนะเลิศไป จากนั้นก็ประกวดเรื่อย ๆ ก็ได้รางวัลมาบ้างเหมือนกัน”
ได้ข่าวว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่เข้าประกวด?
“ครับ ผมเคยไปสมัครมาแล้วสองครั้ง แต่ตอนนั้นถามผมว่าท้อไหม ก็ไม่ถึงกับท้อครับ แต่กลับมามองตัวเองว่าเรามีจุดบกพร่องตรงไหนบ้าง ก็เอากลับมาพัฒนาตัวเอง แล้วพอครั้งนี้ผมไม่คิดว่ามันจะเข้ามาขนาดนี้ ตอนแรกคิดแค่ว่าเข้า 8 คนก็ดีใจมากแล้ว แต่พอมันค่อย ๆผ่านไปเรื่อย ๆ จนเหลือสองคนก็ดีใจมาก”
ตอนที่ยืนอยู่สองคนบนเวที ในระหว่างที่รอประกาศผล ตอนนั้นคิดอะไรอยู่?
“ตอนนั้นเบลอมากครับ เพราะว่าคนเยอะมากแล้วก็ตะโกนโน่นนี่นั่น ผมก็ตื่นเต้นมาก เบลอไปหมด แล้วพอได้ยินประกาศชื่อว่าเป็นเรา ผมตกใจมาก คือตอนเราอยู่ในบ้านเราไม่รู้กระแสว่าเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้”
“แฟนคลับ”
ตอนนี้มีแฟนคลับแล้วด้วย?
“ใช่ครับ ดีใจ คือเหมือนทึ่งกับการเป็นแฟนคลับของทุกคน เขาทุ่มเทให้เรามาก ๆ มานั่งรอ วิ่งตาม ซื้อขนมซื้อของมาให้ ซึ่งเขาทุ่มเทเสียสละทุกอย่าง และให้กำลังใจเรามาตลอด”
งง กับตัวเองไหม อยู่ ๆ ก็มีคนมาวิ่งตามเรา?
“แรก ๆ ก็งง ๆ ครับ ไม่ชิน แต่ว่าเห็นแล้วก็มีความสุข แต่เราก็เป็นห่วงเวลาที่เขามารอ เขาจะรอกันตรงไหน ร้อนไหม แต่พอเห็นเขามีความสุข ก็เลยคิดว่าเขาทำเพราะเขามีความสุข และเราทำให้เขามีความสุขได้จริง ๆ เราก็มีความสุขไปด้วย”
เริ่มรู้สึกอึดอัด หรือกดดันไหม เริ่มมีคนมาคาดหวังกับเราแล้ว?
“มันก็อาจจะตรงที่ว่า เราเองต้องพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ มันมีคนที่รอและติดตามผลงานของเราอยู่ เหมือนกับว่าแฟนคลับของทุกคนน่ารักมาก ๆ แล้วเหมือนกับว่าแฟนคลับของทุกคนเขารู้ว่าเขามีลิมิตของเขาแค่ไหน เขาสามารถทำได้แค่ไหน เขาทำเต็มที่ในส่วนของเขา ปล่อยให้เรามีความเป็นส่วนตัวของเราด้วย”
“เพลงแรก”
ได้ข่าวมีเพลงเป็นของตัวเองแล้ว?
“ครับ ชื่อเพลง “คำอธิษฐาน ด้วยน้ำตา” เข้าห้องอัดครั้งแรกตื่นเต้นครับ พี่โปรดิวเซอร์ เขาก็พยายามตีความเนื้อเพลงให้ เพราะเข้าห้องอัดครั้งแรกไม่เข้าใจ ก็ร้องไปเรื่อย ๆ หลัก ๆ การร้องเพลงในห้องอัดคือการสื่อสารให้คนเข้าใจ ก็ต้องมีการตีความเนื้อเพลงด้วย งานนี้พี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) เข้ามาช่วยดูด้วยครับ”
เข้าห้องอัดครั้งแรกในชีวิต เป็นยังไง?
“เข้าห้องอัดครั้งแรกเลยในชีวิตคือ อัดเพลง ดาวดวงนั้น แต่ตอนนั้นไปกับเพื่อน ๆ หลายคน แต่พอเข้าห้องอัดที่เป็นเพลงของเราเอง เพลงแรกในชีวิตของเราก็ตื่นเต้น
มาก ๆ ครับ คืนก่อนหน้าเข้าห้องอัดก็แอบมีคิดเยอะ แต่ไม่ถึงขั้นนอนไม่หลับ”
“ฝันเป็นจริง”
ขอย้อนไปตอนเด็ก ๆ หน่อย ตอนเด็กโดมมีความฝันอะไร?
“เด็ก ๆ เลยไม่ได้มีความฝันอยากเป็นอะไรที่ชัดเจน แต่หลัก ๆ ผมชอบฟังเพลง ดูหนัง พอเข้ามหาวิทยาลัย ตอนแรกอยากจะเรียนสายบันเทิงเหมือนกัน อยากจะเรียนนิเทศฯ สาขาภาพยนตร์ สุดท้ายก็เลือกเรียนนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ก็คิดว่าอยากทำงานในสายแต่ไม่รู้จะไปถึงขั้นไหน”
วันนี้เรียกว่าฝันเป็นจริงแล้วในระดับหนึ่ง จะทำอะไรต่อ?
“ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่จะให้โอกาสเลยครับ ว่าจะให้เราทำอะไรต่อ คืออยากจะทำทุก ๆ อย่าง ไม่ว่าผู้ใหญ่จะให้โอกาสทำอะไรก็จะลองทุก ๆ อย่างเพราะผมเองไม่เคยทำมาก่อน อยากจะลองฝึกตัวเอง คนเราพอได้เข้ามาตรงนี้แล้วก็ต้องลองครับ”
“ศัลยกรรม”
พอเข้าวงการมาแล้วก็ต้องมีการดูแลตัวเองมากขึ้น โดมอยากจะทำอะไรกับตัวเองบ้าง?
“ผมไม่สำอางเลย ไม่ดูแลตัวเองเท่าไร คือที่บ้านมีอะไรก็ใช้อย่างนั้นไม่เคยไปแสวงหาอะไรมาใช้ แต่พอเราเข้ามาตรงนี้ผมเข้าใจครับ ว่าเราต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ตอนนี้ก็เริ่มปรึกษาพี่ ๆ ว่าเราต้องดูแลตัวเองยังไง เริ่มศึกษาเรื่องครีมแล้ว พอเข้ามาตรงนี้มันก็ต้องดูแลตัวเองกันนิดหนึ่ง”
ในเรื่องศัลยกรรม สนใจกับเขาไหม?
“ในเรื่องศัลยกรรมผมไม่ค่อยจะสนใจเท่าไร แต่สิ่งที่ผมอยากทำคือเรื่องของฟัน ผมอยากจะจัดฟัน ผมไม่ได้มองว่าไปทำเพื่อให้หล่อหรือดูดีขึ้น แต่มีคนบอกว่า ถ้าเราปล่อยฟันไม่เป็นระเบียบ มันจะส่งผลถึงรูปหน้าและรูปปาก ก็คิดว่าต้องทำจริง ๆ เพราะฟันผมไม่สบกัน และเบี้ยวหน่อย ๆ ถ้าปล่อยไว้ต่อไปจะทำให้มีปัญหา แต่พวกเรื่องอื่นผมไม่ค่อยกล้า ผมว่านะครับ เราเคยเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นไป ที่แฟนคลับเขารักเราเพราะเราเป็นเรา อันนี้แฟนคลับเขาจะบอกเสมอ เราก็ต้องฝึกพัฒนาตัวเองในด้านอื่น ๆ ด้วย”
ในเรื่องของน้ำหนักล่ะ?
“ผมก็อยากลด ก่อนเข้าบ้านน้ำหนัก 103 กิโล ตอนนี้ 86 กิโล ตอนที่อยู่ในบ้านก็ออกกำลังกายตามโปรแกรม แล้วลดเรื่องอาหารลง แต่ตอนนี้ก็ต้องลดลงไปอีก เพราะว่ามีงานที่จะต้องทำมากขึ้น จะให้แบกน้ำหนัก 80 กว่ากิโลไปมันอาจจะดูไม่คล่องแคล่ว และในเรื่องสุขภาพก็ไม่ดี เลยต้องลดลงมาเพื่อสุขภาพที่ดี ก็ตั้งเป้าไว้สัก 70 กิโล”
สำหรับหนุ่มโดม ชีวิตเพิ่งเริ่มต้นสำหรับเส้นทางสายนี้ และเราก็ขอเอาใจช่วย ให้ประสบความสำเร็จกับเส้นทางที่เลือกนะจ๊ะ หนุ่มโดม แล้วกลับมาเจอกันอีกครั้งในวันเสาร์หน้าจ้ะ.
กาญจนา สิทธิเม่ง
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น