“ปลอด” ฉะฝ่ายค้านอีก ต่อต้านนาซาใช่อู่ตะเภา

“ปลอด” ฉะฝ่ายค้านอีก ต่อต้านนาซาใช่อู่ตะเภาสำรวจสภาพอากาศ คนที่ทำให้ล่าช้าต้องรับผิดชอบ ขู่ฟ้องประชาชนเพราะทำให้ประเทศเสียหาย ด้าน ผอ.จิสด้า ยันไทยจำเป็นต้องพึ่งนาซาเนื่องจากมีเทคโนโลยีล้ำหน้ากว่า

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ ( 26 มิ.ย.) นายปลอดประสพ  สุรัสวดี  รมว.วิทยาศาสตร์  ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม.ถึงการพิจารณาให้องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือนาซา ใช้สนามบินอู่ตะเภา จอดอากาศยานขึ้นบินเพื่อสำรวจสภาพชั้นบรรยากาศ ว่า ต้องรอผลการประชุม ครม.วันนี้ว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายรัฐธรรมนูญ มาตรา190 วรรค 2  หรือไม่ หากไม่เข้าข่าย   รัฐบาลก็สามารถเดินหน้าได้ทันที แต่หากเข้าข่าย จะต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา  ซึ่งอาจทำเกิดความล่าช้า  ผู้ที่หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาทักท้วง และนำมาเป็นประเด็นการเมือง จะต้องรับผิดชอบ  “ฝ่ายค้านไม่ใช่จะทักท้วงเพื่อให้เกิดความสะใจทางการเมือง จะเอามัน เอาสะใจคงไม่ได้ คนอื่นเขาเสียหาย ถ้าเกิดความเสียหายผมจะฟ้องประชาชน จะบอกประชาชนไปเรื่อย ๆว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเรื่องนี้เกิดจากใคร”
นายปลอดประสพ กล่าวต่อไปว่า  การที่นาซ่าเข้ามาสำรวจชั้นบรรยากาศ ส่งผลดีกับประเทศไทยโดยตรง เพราะจะทำให้การพยากรณ์อากาศมีความแม่นยำมากขึ้น   และยังพยากรณ์น้ำ เพื่อป้องกันสถานการณ์น้ำท่วมได้อีกด้วยด้านนายอานนท์  สนิทวงศ์  ณ อยุธยา  ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีและภูมิสารสนเทศ หรือ จิสด้า  ซึ่งได้มาชี้แจงที่ประชุม ครม. กล่าวว่า ต้องการเข้ามาชี้แจงถึงความจำเป็นที่ประเทศไทย ควรอนุญาตให้นาซ่าเข้ามาเก็บตัวอย่างเมฆ เพราะจะทำให้การพยากรณ์อากาศมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งเป็นโอกาสทางวิชาการที่จะได้ข้อมูลจากการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการ เก็บข้อมูลซึ่งประเทศไทยไม่เคยมี เพราะเรามีเครื่องมือจำกัด ที่ผ่านมามีเพียงการใช้อุปกรณ์ที่เขาให้ยืมมาเท่านั้น ซึ่งนักวิชาการของไทยก็จะได้มีโอกาสทำงานร่วมกับนักวิชาการระดับนานาชาติ ทั้งนี้การเก็บตัวอย่างเมฆในลักษณะนี้มีการทำมานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยองค์การนาซ่า รับผิดชอบโซนประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่สำคัญเครื่องบินที่นำมาใช้ไม่ใช่เครื่องบินจารกรรม ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ ที่จะนำมาใช้มากกว่าว่าจะใช้เพื่อภารกิจใด.

This entry was posted in News