วันนี้(23เม.ย.)นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกยอ.ได้สั่งการให้สศช.และกระทรวงการคลัง กลับไปจัดทำแหล่งเงินทุนให้ชัดเจนสำหรับแผนการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศทั้ง 95 โครงการวงเงิน 2.27 ล้านล้านบาท รวมทั้งเร่งรัดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเสนอรายละเอียดของแต่ละโครงการให้ที่ประชุมครม.พิจารณาโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันสศช.จะเสนอให้นายกฯเร่งรัดให้หน่วยงานจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้การดำเนินแต่ละโครงการสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
“สศช.ได้รวบรวมแผนงานและโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศโดยแบ่งเป็น 3 ประเภท คือโครงการที่ผ่านการพิจารณาของครม.แล้ว ซึ่งต้องเร่งดำเนินการให้ตามกำหนดกรอบเวลาที่ขอไว้ โครงการที่อยู่ระหว่างการรอเสนอขออนุมัติจากครม. ซึ่งกยอ.เร่งรัดให้กระทรวงเจ้าของโครงการต้องเร่งนำเสนอให้ครม.พิจารณาโดยเร็ว ซึ่งอาจมีบางเรื่องบางโครงการที่ยังไม่พร้อมนำเสนอโดยอาจติดเรื่องของสิ่งแวดล้อม เป็นต้น และโครงการที่อยู่ระหว่างเตรียมการ”
อย่างไรก็ตามวงเงินลงทุนทั้ง 2.27 ล้านล้านบาท จะมาจากการจัดสรรวงเงินงบประมาณ 50% หรือประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกันในส่วนของวงเงินกู้เพื่อพัฒนาระบบน้ำของประเทศวงเงิน 3.5 แสนล้านบาทที่ครม.ได้เห็นชอบไว้ก่อนหน้านี้มีอยู่ 10,000 ล้านบาท ที่จะจัดสรรมาเป็นวงเงินของโครงการลงทุนระบบพื้นฐานของประเทศด้วย ซึ่งกยอ.มอบให้สศช.และกระทรวงการคลังไปพิจารณาในรายละเอียดว่าควรจัดสรรให้โครงการใดบ้างก่อนเสนอโครงการให้ครม.พิจารณาต่อไป
นายอาคม กล่าวว่า สำหรับโครงการลงทุนทั้งหมดโครงการด้านระบบขนส่งและโลจิสติกส์ ถือว่าเป็นโครงการที่สำคัญที่สุดเพราะสุดท้ายแล้วจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้มาก รองลงมาได้แก่การขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งแนวทางการลงทุนจะมีทั้งการใช้งบประมาณ การใช้เงินกู้ การร่วมลงทุนกับภาคเอกชนในรูปแบบพีพีพี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอกฎหมายต่อที่ประชุมรัฐสภา หากผ่านการพิจารณาแล้วจะทำให้เกิดความสะดวกกับภาคเอกชนมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้โครงการที่สามารถเกิดขึ้นได้ภายในปี 55 ได้แก่โครงการติดตั้งอาณัติสัญญาณ รวมถึงจุดตัดต่างๆ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขณะที่โครงการที่สำคัญอย่างรถไฟความเร็วสูง นั้นขึ้นอยู่กับกระทรวงคมนาคมว่าจะสามารถสรุปรายละเอียดให้รัฐบาลตัดสินใจได้อย่างไรว่าจะลงทุนในระบบใดเช่นรัฐต่อรัฐ หรือร่วมลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยี หรือในรูปแบบอื่นๆ เป็นต้นล
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น