ฮือฮาคลิปยูเอฟโอในชิลี

ยูเอฟโอโผ่ลอีกในชิลี เผยคลิปถ่ายติดเมื่อปี 53 ขณะที่ต่างฝ่ายออกมาวิพากวิจารณ์ต่างๆกันไป ส่วนหน่วยงาน"ซีอีเอฟเอเอ"ยันมีการบันทึกภาพวัตถุลึกลับไว้ด้วยกล้อง 7 ตัว 7 มุมด้วยกัน ด้านเว็บไซต์สอบสวนเรื่องแนวนี้แนะให้นำภาพจากกล้องออกมาเผยให้หมดรวมถึงรายละเอียดเพื่อกันข้อครหา

เว็บไซต์ข่าวของหนังสือพิมพ์เดลิเมล์ฉบับวันที่ 16 มี.ค.รายงานว่า  ภาพจากคลิปวิดีโอในประเทศชิลี ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางเรื่องจานบินลึกลับต่างดาว (ยูเอฟโอ) เพราะการเคลื่อนตัวเร็วผิดปกติของจานบิน จึงเป็นจุดสังเกตในเรื่องนี้ ในระหว่างการแสดงการบิน (แอร์โชว์)

โดยภาพจากคลิปวิดีโอดังกล่าวบันทึกไว้ได้ตั้งแต่ปี 2553 ที่ฐานทัพอากาศเอล บอสเก้ ในกรุงซันติอาโก เมืองหลวงของชิลี แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วของวัตถุลึกลับ ทำให้วิศวกรผู้ตรวจพบความผิดปกติดังกล่าวรีบแจ้งให้ทางรัฐบาลชิลีรับทราบ

จานบินลึกลับได้มาปรากฏตัวในระหว่างงานแสดงการบินที่ฐานทัพอากาศเอล บอสเก้นั้น ดูเหมือนว่าแทบจะไม่มีใครสังเกตเห็นได้เลย แต่ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ทั้งเทคโนโลยีลึกลับของต่างดาว หรือเป็นเพียงแค่วัตถุลวงตาที่ทำเลียนแบบขึ้นมา ก็ขึ้นอยู่กับผู้อ่านเป็นผู้พิจารณา

นายเลสลี่ คีน ผู้สื่อข่าวเชิงสอบสวนและนักเขียนเรื่องจานบินลึกลับ เปิดเผยว่า นี่เป็นเรื่องที่ผิดปกติมากและหวังว่าเรื่องยูเอฟโอที่ประเทศชิลีจะช่วยขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้เป็นที่ยอมรับว่าสมควรที่จะศึกษาเพิ่มเติมหรือไม่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถเปิดเผยให้ทราบกันโดยทั่ว

เขากล่าวต่อไปว่า ซีอีเอฟเอเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานสอบสวนปรากฏการณ์ผิดปกติในอวกาศของรัฐบาลชิลี พบว่าภาพจากคลิปวิดีโอดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า มี 7 จุดด้วยกันที่พบการเคลื่อนที่ของวัตถุลึกลับต่างดาว ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม แต่ก็ทำให้คลิปนี้ดูน่าตื่นเต้น

ส่วนนายริคาร์โด เบอร์มูเดซ ผู้อำนวยการของซีอีเอฟเอเอ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า สิ่งผิดปกติที่พบนี้ เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงเกินกว่า 4,000 ไมล์ต่อชั่วโมง

นายเลสลี่ คีน ผู้สื่อข่าวเชิงสอบสวนตั้งข้อสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นว่า ไม่มีทางเด็ดขาดที่คนปกติจะมีชีวิตอยู่ได้ภายในวัตถุที่เคลื่อนด้วยความเร็วสูงขนาดนั้นได้ และ ประเด็นที่สองคือ ไม่มีการบินทะลุความเร็วเหนือเสียง หรือ โซนิคบูม ปรากฏให้เห็นเลย อย่างไรก็ตาม เขาตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้น่าประหลาดมาก แต่คนที่ไม่เชื่อก็ยังไม่เชื่อต่อไป

ผู้สื่อข่าวเชิงสอบสวน ตั้งข้อสังเกตอีกว่า แล้วเป็นไปได้ไหมว่าเป็นแมลงที่บินผ่านหน้ากล้องในระยะประชิด จึงทำให้ดูเหมือนวัตถุลึกลับเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ซึ่งเมื่อได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ของซีอีเอฟเอเอ ก็ได้รับคำตอบว่า ตอนแรกเจ้าหน้าที่ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน แต่เมื่อดูจากหลายมุมแล้ว คิดว่าไม่น่าจะใช่แมลงที่บินผ่านหน้ากล้อง จึงอยากให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนช่วยกันตรวจสอบ

ขณะที่เว็บไซต์สอบสวนเรื่องยูเอฟโอ ตั้งข้อสังเกตว่า ยังมีคลิปวิดีโอเรื่องนี้อีก 6 ตัวที่ยังไม่เปิดเผยออกมา รวมถึงรายละเอียดของคนที่บันทึกภาพนี้ไว้ได้ และเกี่ยวข้องกันอย่างไร ทั้งนี้เพื่อป้องกันข้อครหาว่า ทำขึ้นมาหลอกกัน

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

This entry was posted in News