เดนคุกคลั่งยาปังตอจี้คอเภสัชเป็นตัวประกัน

เดนคุกคลั่งยา จี้จับเภสัชสาวเป็นตัวประกันนานกว่า 2 ชั่วโมง สารภาพเพิ่่อพ้นโทษมาแค่3วัน ขึ้นรถมาระแวงว่ามีผู้ชายตามตลอด พยายามหนีจนมาเจอเหยื่อลงรถวานให้ไปส่งแต่ไม่ยอม เลยใช้มีดปังตอจี้ หลังเหตุสงบ ญาติผู้เสียหายโมโหเห็นหน้าตอนสอบปากคำ คว้าขวดขว้างระบายแค้นตำรวจต้องห้ามกันจ้าละหวั่น

  เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้(17 มี.ค.) พ.ต.ท.ธนาพันธุ์ ผดุงการ สว.สส.สน.พระโขนง รับแจ้งเหตุชายคลั่งใช้มีดปังตอ 2 เล่มจี้ผู้หญิงเป็นตัวประกันในซอยสุขุมวิท 62 แยก 1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น.ที่เกิดเหตุเป็นถนนเลียบทางด่วนบางนา-ตราด ทางลงสุขุมวิท 62 พบนายกิตติพงศ์ ถ่านประดับ อายุ 31 ปี ชาวสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ใช้มีดปังตอ2เล่มจับน.ส.ชลิตา อินทราไสย อายุ 39 ปี เภสัชกรสังกัดกรุงเทพมหานคร เป็นตัวประกัน โดยทีท่าคนร้ายลักษณะคล้ายคนเมา มีท่าทางหวาดระแวงตลอดเวลา และยังเพ้อว่าจะมีคนมาทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ต้องทำการเจรจาเกลี้ยกล่อม แต่ผู้ก่อเหตุร้องขอจะคุยกับผู้สื่อข่าวช่อง 3 พร้อมเรียกร้องขอรถแท็กซี่ จึงวางแผลให้ผู้สื่อข่าวช่อง 3 เข้าไปพูดคุย แต่ก็ยังไม่เป็นผล จึงนำแท็กซี่ที่ต้องการมาให้โดยเสนอแลกกับตัวประกัน แต่ก็ไม่ยอมบอกแต่เพียงให้ผู้สื่อข่าวไปส่งเท่านั้น กระทั้งเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.วิชัย จึงเข้าไปเจรจาพร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดพร้อมชาร์จได้ทันที แต่คนร้ายกลับมีท่าทีอ่อนลงและยอมปล่อยตัวประกันในที่สุด โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

สอบถามนางรุ่งนภา อินทราไสย อายุ 46 ปี พี่สาวของตัวประกัน เปิดเผยว่า ที่บ้านเปิดเป็นโรงงานทำเบาะรถไฟ โดยวันนี้มีการถือศีลนุ่งขาวห่มขาว สวดมนต์ และจะมีแต่พวกผู้หญิงกับคนแก่อยู่ โดยรวมตัวกันอยู่ที่ชั้น 3 ของบ้าน ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้เข้ามาในบ้าน ก่อนจะขึ้นไปที่ชั้น 3 แล้วบอกว่า พวกแม่ๆไม่ต้องกลัว จะไม่ทำร้ายใคร แค่มาขอเงิน ตนบอกไม่มี และพยายามไล่คนร้ายออกไป คนร้ายพยายามจับคนบนบ้านเป็นตัวประกันเพื่อเรียกเงิน แต่ตนและคนในบ้านช่วยกันดึงฉุดกลับมาได้ ก่อนล็อกประตูห้อง ทำให้คนร้ายตกใจรีบลงมาที่ชั้นล่าง โดยคนร้ายหยิบมีดจากห้องครัวชั้น 2 ติดมือไปด้วย ระหว่างนั้นน้องสาวกำลังเลื่อนรถอยู่บริเวณหน้าบ้านอีกหลัง ซึ่งห่างจากบ้านหลังดังกล่าวประมาณ 50 เมตร คนร้ายจึงปรี่เข้าไปหาแล้วเปิดประตูรถใช้มีดจี้ล็อกคอเป็นตัวประกัน จึงรีบแจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือ เพราะเกรงว่าน้องสาวจะได้รับอันตราย

  จากการสอบปากคำนายกิตติพงษ์ ให้การวกไปวนมาว่า ตนเป็นรปภ.ของหมู่บ้านศุภาลัย ย่านแบริ่ง ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางมาที่หมู่บ้านดังกล่าว เพื่อเก็บข้าวของ จากนั้นก็ได้นั่งรถมาที่ลงที่ย่านพระโขนงก็สังเกตเห็นว่ามีผู้ชายได้ตามมาตั้งแต่ขึ้นรถ ก็เกิดความหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้ายเลยหนีเข้ามาในซอยเกิดเหตุพบน.ส.ชลิตา กำลังลงจากรถเลยบอกให้ไปส่งแต่ไม่ยอมเลยจี้จับตัวประกันดังกล่าว

 อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่าระหว่างการสอบปากคำนั้น ได้มีทางญาติของเภสัชกรไม่พอใจคนร้าย ได้คว้าขวดน้ำปาเข้าไปที่บริเวณใบหน้าของผู้ต้องหาทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวญาติไปสงบสติอารมณ์นอกห้อง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดก็พบว่าผู้ต้องหามีปัสสาวะสีม่วง ซึ่งนายกิตติพงษ์ได้ยอมรับว่าเพิ่งออกจากเรือนจำลาดยาวมา 3 วัน โดยถูกจับคุกมา1 เดือน  รวมทั้งก่อนหน้านี้ยังเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดที่สน.สำราญราษฎร์และสน.พลับพลาไชย 1 เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ,กักขังหน่วงเหนี่ยวโดยใช้อาวุธมีด และพกพาและมีอาวุธมีดไว้ในความครอบครอง ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม 2555 เวลา 17:33 น.

 

 

 

 

 

 

This entry was posted in News