ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มี.ค.เวลา 08.00น.ว่า นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังบ้านพิษณุโลก เพื่อจัดรายการสด“รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” โดยมีนายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ร่วมรายการ จากนั้น เวลา 09.00น. นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา (แท็บเล็ต) เพื่อใช้นโยบายแจกเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยมีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) นายสุชาติ ธาดาธำรงค์เวช รมว.ศึกษาธิการ และนายชินภัทร ภูมิรัตน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เข้าร่วมประชุม โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพการประชุมดังกล่าว ซึ่งใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
ต่อมา นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เชิญรมว.ต่างประเทศ รมว.ไอซีทีและรมว.ศึกษาธิการ มารายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการแท็บเลต รวมทั้งการปรับความเข้าใจให้ตรงกันว่าขณะนี้ขั้นตอนต่างๆเดินหน้าไปถึงไหน มีรายละเอียดและมีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้นบ้าง ทั้งหมดเมื่อประสานแล้ว นายกรัฐมนตรีได้ขอและเน้นย้ำว่าต้องดูให้เกิดความรอบคอบและเป็นไปตามระเบียบ อีกทั้ง นายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการนำโครงการนี้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้เร็วที่สุด โดยตั้งใจว่าจะเป็นการประชุม ครม.นอกสถานที่ ที่จ.ภูเก็ต ในวันที่ 20 มี.ค.นี้ เพื่อจะได้ทันในการเปิดปีการศึกษาในเดือน พ.ค.-มิ.ย.นี้ ส่วนเรื่องการติดต่อประสานงานในการจัดซื้อว่าจะเป็นบริษัทใดนั้นคณะกรรมการของทั้ง 3 กระทรวงฯที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้พิจารณา นายกรัฐมนตรจะไม่ไปฟันธงว่าจะต้องเป็นบริษัทใด ส่วนประเด็นปัญหาต่างๆ นั้นทั้งกระทรวงศึกษาธิการ ไอซีที และการต่างประเทศต้องไปคุยกันให้จบ และเป็นไปตามระเบียบพัสดุของราชการ
ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาที่กระทรวงไอซีทีและศึกษาธิการยังมีความเห็นไม่ตรงกัน นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ทั้ง 2กระทรวงไม่ได้มีความเห็นไม่ตรงกัน เพียงแต่อาจมีข้อมูลความเข้าใจที่ไม่ตรงกันเพราะมีข้อมูลที่ไม่ตรงกัน จึงเป็นการมองคนละมุมมอง ฝ่ายหนึ่งมองจากเรื่องของเทคโนโลยี ฮาร์ดแวร์ และซอฟท์แวร์ ส่วนอีกฝ่ายมองจากเนื้อหาและการที่จะทำอย่างไรให้นักเรียน ครู และผู้ปกครองเข้าใจในกระบวนการทั้งหมด เมื่อถามว่าบทสรุปจะยังคงสั่งเครื่องจากประเทศจีนใช่หรือไม่ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บทสรุปคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่ทั้งหมดจะต้องมีการเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา
“ในการจัดซื้อเครื่องแท็ปเลตนั้น นายกรัฐมนตรีอยากให้เป็นในลักษณะของการทำสัญญาระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เพราะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของประเทศ และเป็นการแก้ไขปัญหาหรืออุดช่องโหว่ไม่ให้เกิดการรั่วไหลด้วย แต่ทั้งหมดอยู่ที่ขั้นตอนและกระบวนการและเงื่อนไขสัญญาต่างๆที่ได้มีการตกลงไว้ โดยทั้งหมดนายกฯต้องการเห็นในเรื่องของคุณภาพและการนำมาใช้ประโยชน์”นายสุรนันทน์ กล่าว
เมื่อถามว่าทางไอซีทีชี้แจงเหตุผลของปัญหาความล่าช้าอย่างไร นายสุรนันทน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องทำให้เกิดความแน่ใจในเรื่องของคุณภาพมากกว่า ทางไอซีทีอยากให้คุณภาพดีที่สุดเมื่อถึงมือเด็ก ครูและผู้ปกครอง ขณะเดียวกันราคาก็ต้องมีความเหมาะสม ความสมดุลตรงนี้ก็มีปัจจัยหลายด้าน ซึ่งต้องให้เกิดความแน่ใจว่าเหมาะสมจริงๆ และขั้นตอนที่นักเรียนจะสามารถใช้ได้ทันที โดยมีครูที่เข้าใจต้องมีกระบวนการในการทำความเข้าใจกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีปัญหาจริง จะเลื่อนโครงการนี้ออกไปอีกได้หรือไม่ นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงจุดดังกล่าว และปีการศึกษาที่จะถึงนี้เด็กนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1 จะได้ใช้แท็ปเลตแน่นอนตามที่รัฐบาลประกาศไว้ ยกเว้นจะติดปัญหาใหญ่จริงๆ เช่น ข้อปฏิบัติต่างๆที่ต้องทำให้ถูกต้องเพราะแต่ละกระทรวงก็มีระเบียบและกฎหมายกำกับอยู่ แต่เท่าที่ฟัง พบว่ายังไม่มีอะไรที่เป็นอุปสรรค
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น