เสี่ยร้านทองพลิ้วบอกแท็กซี่อยากได้รางวัลที่เหลือให้เดินทางมาเอาเองที่อุบลฯ

เสี่ยร้านทองพลิ้ว! บอกคนขับแท็กซี่อยากได้รางวัลที่เหลืออีก 3 แสน ให้เดินทางมาเอาเองที่อุบลฯ เปรยถ้าบริสุทธิ์ใจจริงก็น่าจะนำทองมาคืนให้โดยเร็ว ไม่ใช่ปล่อยล่วงเลยนานกว่า 3 วัน

จากกรณีเสี่ยร้านทองนายเอกรัตน์ กนกวรรณาการ เจ้าของร้านทองเยาวราชภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี จ.อุบลราชธานี ลืมกระเป๋าใส่ทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 540 บาท มูลค่าประมาณ 13 ล้านบาท ไว้ในรถแท็กซี่ โตโยต้า อัลติส สีชมพู โดยนายเอกรัตน์ประกาศจะให้รางวัลสินน้ำใจ 5 แสนบาท หากแท็กซี่นำมาคืน ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ หรือ “สวพ.91” ได้มีนายศักดิ์ศรี เกษศรีแก้ว อายุ 56 ปี เจ้าของแท็กซี่คันดังกล่าวได้นำทองรูปพรรณมาคืนให้กับนายเอกรัตน์ และนายเอกรัตน์ได้มอบทองคำน้ำหนัก 5 บาทจำนวน 1 เส้น และน้ำหนักจำนวน 3 บาทจำนวน 1 เส้น นำหนักรวม 8 บาท มูลค่าประมาณ 2 แสนบาท โดยเงินที่เหลือนายเอกรัตน์รับปากว่าจะมอบให้ภายหลังตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายนายศักดิ์ศรี เกษศรีแก้ว อายุ 56 ปี เจ้าของแท็กซี่คันดังกล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายเอกรัตน์เลยตั้งแต่เมื่อวานที่ไป สภ.คูคต จ.ปทุมธานี หลังจากลงบันทึกประจำวันเสร็จ ทางเสี่ยร้านทองก็ไม่ได้ขอบัญชีของตนเองไว้ และก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องเงินที่เหลืออีกเลยในขณะนี้ตนเองก็รอติดต่อกลับมาเพื่อจะไปรับเงินรางวัลสินน้ำใจที่เหลืออยู่เพื่อที่จะกลับบ้าน ที่จ.ร้อยเอ็ด หากมอบให้เพียงเท่านี้ก็ขอให้ติดต่อกลับมา

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรไปสอบถามนายเอกรัตน์ ซึ่งกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนคิดว่าหากนายศักดิ์ศรีมีความบริสุทธิ์ใจก็น่าจะนำทองทั้งหมดมาคืนให้โดยเร็ว ไม่ใช่ปล่อยเวลาผ่านไปนานกว่า 3 วัน และตนเองนั้นได้หมดเงินในการจ้างคนติดตามหาเจ้าของแท็กซี่ไปเป็นจำนวนมากและกำลังคิดว่าจะแจ้งความดำเนินคดีหากไม่นำมาคืน เมื่อนายศักดิ์ศรีนำทองดังกล่าวมาคืน ตนเองจึงได้มอบรางวัลสินน้ำใจเป็นทองน้ำหนักรวม 8 บาท มูลค่าประมาณ 2 แสนบาท เพื่อเป็นการตอบแทน ถ้าหากนายศักดิ์ศรีต้องการเงินที่เหลือนั้น ก็ขอให้ติดต่อกลับมาและเดินให้ทางมารับเงินรางวัลที่เหลือด้วยตนเองที่ จ.อุบลราชธานี

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

This entry was posted in News