วันนี้ (4 ก.พ.)ที่บน.6 กองทัพอากาศดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการเยือนประเทศกัมพูชา ว่า
วัตถุประสงค์ในการเดินทางครั้งนี้เพื่อถวายพระเพลิงพระศพของสมเด็จพระเจ้า
นโรดมสีหนุฯ
ซึ่งในโอกาสนี้มีผู้นำหลายประเทศร่วมทั้งผู้นำอาเซียนมาร่วมงานด้วย
ซึ่งตนและคณะได้รับพระราชทานพระราชวโรกาสในการเข้าเฝ้าฯสมเด็จนโรดมสีหมุนีฯ
และสมเด็จพระวรราชมารดานอกจากนี้ยังได้หารือข้อราชการกับสมเด็จฯฮุนเซน
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ซึ่งการหารือประเด็นแรกคือการแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของสมเด็จพระเจ้า
นโรดมสีหนุฯ
นอกจากนี้ในนามของรัฐบาลยังได้ขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาที่ได้อภัยโทษ
รวมไปถึงการลดโทษของนายวีระ สมความคิดและนางราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์
ขณะเดียวกันยังได้ขอให้รัฐบาลกัมพูชาได้ช่วยในเรื่องที่จะโอนตัวนักโทษไทย
ให้มารับโทษที่ประเทศไทย
นายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นยังมีเจตนารมณ์ที่อยากจะเห็นร่วมกันคือการประสานงานเกี่ยวกับความ สัมพันธ์ของไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณชายแดนให้เป็นพื้นที่ที่มีความสงบ ประชาชนสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างราบรื่น รวมไปถึงการเสริมการค้าระหว่างแนวชายแดน ซึ่งกัมพูชาเห็นชอบตามข้อเสนอของรัฐบาลไทย ที่เสนอให้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ชาย แดน รวมไปถึงกำหนดโครงสร้างการทำงานของการเชื่อมโยงประสานระหว่างกันตลอดเวลา และการเปิดด่านด้วย สรุปว่าจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันในพื้นที่ โดยมีวัตถุประสงค์ที่อยากจะเห็นความเข้าใจและความสงบในพื้นที่เพื่อประโยชน์ สูงสุดของประชาชนสองประเทศ รวมไปถึงการที่เราจะอยู่ในประชาคมอาเซียนด้วย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้เรายังเห็นพ้องต้องกันว่าเพื่อให้เกิดความสงบในการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติ เราจึงเห็นว่าควรเคารพและร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาต่างๆ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน โดยเฉพาะระหว่างประชาชนและประชาชน และในส่วนที่ไม่สอดคล้องกับเอ็มโอยู 2543 ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหารได้หยิบยกมาหารือ ด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าได้พูดคุยกับสมเด็จฮุนเซนด้วยซึ่งเห็นตรงกันว่าทุกอย่างเป็น ตามกลไกที่มีคณะกรรมการดูแลในกรอบข้อตกลงเอ็มโอยู 43 และความร่วมมือของสองประเทศเพื่อเกิดสันติสุขระหว่างประชาชนสองประเทศ.
นายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นยังมีเจตนารมณ์ที่อยากจะเห็นร่วมกันคือการประสานงานเกี่ยวกับความ สัมพันธ์ของไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณชายแดนให้เป็นพื้นที่ที่มีความสงบ ประชาชนสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างราบรื่น รวมไปถึงการเสริมการค้าระหว่างแนวชายแดน ซึ่งกัมพูชาเห็นชอบตามข้อเสนอของรัฐบาลไทย ที่เสนอให้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ชาย แดน รวมไปถึงกำหนดโครงสร้างการทำงานของการเชื่อมโยงประสานระหว่างกันตลอดเวลา และการเปิดด่านด้วย สรุปว่าจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันในพื้นที่ โดยมีวัตถุประสงค์ที่อยากจะเห็นความเข้าใจและความสงบในพื้นที่เพื่อประโยชน์ สูงสุดของประชาชนสองประเทศ รวมไปถึงการที่เราจะอยู่ในประชาคมอาเซียนด้วย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้เรายังเห็นพ้องต้องกันว่าเพื่อให้เกิดความสงบในการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติ เราจึงเห็นว่าควรเคารพและร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาต่างๆ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน โดยเฉพาะระหว่างประชาชนและประชาชน และในส่วนที่ไม่สอดคล้องกับเอ็มโอยู 2543 ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหารได้หยิบยกมาหารือ ด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าได้พูดคุยกับสมเด็จฮุนเซนด้วยซึ่งเห็นตรงกันว่าทุกอย่างเป็น ตามกลไกที่มีคณะกรรมการดูแลในกรอบข้อตกลงเอ็มโอยู 43 และความร่วมมือของสองประเทศเพื่อเกิดสันติสุขระหว่างประชาชนสองประเทศ.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น