วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แม่บ้านรุดพบตร. คดีนร.ใช้เก้าอี้ฟาดหน้า


จากกรณีเด็กนักเรียนวัยรุ่นใช้เก้าอี้ฟาดหน้าแม่บ้านต่อหน้านักท่อง เที่ยวชาวต่างชาติกลางกรุง จนมีการนำไปลงในเว็บไซต์ต่างประเทศ สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ประจำศูนย์ขอนแก่นได้เดินทางไปพบนางสมจิตร พลายเนาว์ แม่บ้านเคราะห์ร้าย ที่บ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงใต้ถุนโล่ง เลขที่ 7/1 บ้านห้วยไผ่ หมู่ 3 ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เมื่อไปถึงนางสมจิตรกำลังนั่งอยู่กับญาติ พร้อมเพื่อนบ้าน 4 – 5 คน ที่มาให้กำลังใจ พร้อมกันนั้นนายทองเปลว ชะทา อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านห้วยไผ่ มาสอบถามเหตุการณ์ซึ่งทำให้ได้รับบาดเจ็บหน้าแตกต้องเย็บถึง 12 เข็ม จากการสังเกตนางสมจิตรมีรอยแผลแตกจากหน้าผากมาที่ขอบจมูกด้านขวา แพทย์ได้ใช้ผ้าปิดแผลไว้ และเห็นรอยฟกช้ำตามใบหน้าขอบตาอีกหลายแห่ง

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางสมจิตรไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใด ๆ และพยายามเดินหนีตลอด ระหว่างนั้นมีโทรศัพท์เรียกเข้า คาดว่าจะเป็นตำรวจหรือแพทย์ที่ได้โทรมาสอบถามเหตุการณ์ ได้แต่บ่นว่าตอนนี้ปวดแผลมากพูดอะไรไม่ได้อยากพักผ่อน และไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วตอนนี้กลัวมากๆ

อย่างไรก็ตามญาตินางสมจิตรได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค.เวลา 19.00 น.นางสมจิตรเลิกงานจากการทำงานเป็นแม่บ้านที่บริษัท บีซีเอส. จึงเดินทางกลับบ้านโดยเดินผ่านสยามเซ็นเตอร็ 4 แยกมาบุญครอง เมื่อมาถึงบริเวณหน้าหอศิลป์วัฒนธรรมไทย รู้สึกว่ามีสิ่งของมาติดที่รองเท้าผ้าใบที่สวมใส่มา จึงสลัดเท้าแต่สิ่งของดังกล่าวไม่หลุด จึงก้มลงดูพบว่าเป็นนาฬิกา จากนั้นได้หยิบมาถือแล้วเดินต่อไปข้างหน้า

แต่ยังไม่ทันไรมีชายวัยรุ่น 2 คนแต่งชุดนักเรียนเดินตามหลังมา แล้วเข้ามาถามว่าเก็บนาฬิกาได้หรือเปล่า ตอนแรกนางสมจิตรตอบไปว่าไม่ได้เอาไป เด็กทั้ง 2 คน จึงได้ไปเดินหาต่อแต่ก็ไม่พบ ได้ย้อนกลับมาถามซ้ำอีก จนนางสมจิตรบอกว่าเก็บได้ และกำลังจะคืนให้เด็กไป แต่เด็กทั้ง 2 คน ก็ได้ต่อว่านางสมจิตรด้วยวาจาหยาบคาย ก่อนเด็กอีกคนใช้เก้าอี้ฟาดหน้าจนหน้าหงายเกือบล้มทั้งยืน ก่อนจะพากันเดินหนีไป ขณะเดียวกันคนขับรถสามล้อเครื่องซึ่งเห็นเหตุการณ์ จึงเข้าช่วยเหลือและรีบนำร่างโชกเลือดส่งที่ รพ.ตำรวจ โดยได้นอนพักรักษาตัวอยู่ถึงวันที่ 19 ก.ค. ก่อนที่พี่สาวและน้องสาว จะเดินทางมารับตัวกลับมาพักฟื้นที่บ้าน จ.ขอนแก่น

ต่อมาเวลา 19.00 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบเพิ่มเติม กรณีนักเรียนชั้น ม.6 ก่อเหตุใช้เก้าอี้ฟาดหน้าแม่บ้านพบว่า ตำรวจกำลังตรวจสอบประวัติย้อนหลัง เมื่อทราบเบาะแส ก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงเด็กนักเรียนต่างโรงเรียนจนได้รับบาด เจ็บมาแล้วเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. โดยผู้ปกครองของนายกอล์ฟ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านเทเวศน์ ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ปทุมวันว่า ลูกชายถูกนายเติ้ล ใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่ลำคอขณะที่กำลังเดินเล่นกับกลุ่มเพื่อนในห้างมาบุญ ครอง ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน

ในกรณีผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยโทรศัพท์ไปสอบถามบิดาของนายกอล์ฟ ก็ได้รับการชี้แจงว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.00 น.ขณะที่ลูกชายตนกับเพื่อนในกลุ่มกำลังเดินเล่นอยู่ภายในห้างดังกล่าว ก็พบนักเรียน ม.6 คนดังกล่าวกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง เดินสวนกันบนบันไดเลื่อน จากนั้นก็มีการพูดท้าทาย เมื่อเห็นท่าไม่ดี ลูกชายของตนจึงเดินไปแจ้งให้ รปภ.ทราบว่า แต่ไม่ได้รับความสนใจ จนกระทั่งนักเรียน ม.6กับเพื่อนได้ย้อนกลับขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะควงอาวุธมีดพูดจาข่มขู่ ลูกชายจึงพูดขอโทษ ระหว่างนั้นนักเรียน ม.6 ทำท่าเหมือนจะเก็บมีด แต่ก็ตวัดมีดแทงคอลูกชายตนเข้าด้านซ้าย ได้รับบาดเจ็บ เมื่อ รปภ.ของห้างเห็นจึงรีบพาส่งโรงพยาบาลจุฬาฯ ทันที ก่อนจะย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไท แพทย์แจ้งว่า บาดแผลนั้นเฉียดลูกกระเดือกกับกล่องเสียง ห่างเส้นเลือดใหญ่ไปแค่ 2-3 มิลลิเมตรเท่านั้น ตนจึงเดินทางมาแจ้งความแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ผู้ปกครองของนายกอล์ฟ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นก็มีการโพสต์คลิปการทำร้ายร่างกายแม่บ้านทางอินเตอร์เน็ต เพื่อนของลูกชายซึ่งจำหน้านักเรียน ม.6 ผู้ก่อเหตุ จึงโทรมาบอกตนว่า ได้ดูคลิปดังกล่าวแล้วก็พบว่าเป็นคนเดียวกับที่ทำร้ายแม่บ้าน ตนจึงประสานไปยังฝ่ายคู่กรณีให้ผู้ปกครองพาตัวนายเติ้ลผู้ก่อเหตุมาไกล่ เกลี่ยกัน โดยฝ่ายคู่กรณีก็ยินยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับค่าทำขวัญให้ลูกชายตน ฝ่ายตนก็ไม่อยากเอาเรื่องเนื่องจากเห็นคู่กรณีเรียนอยู่ชั้น ม.6 และกำลังจะจบการศึกษาแล้ว ส่วนเรื่องของคดีความนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไป

ด้าน พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน กล่าวว่า ทราบเรื่องกรณีนี้แล้ว และกำลังให้ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนำสำนวนมาตรวจสอบอีกครั้ง เนื่องจากทางตำรวจยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า นักเรียน ม.6 เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงเด็กนักเรียนต่างโรงเรียนด้วยหรือไม่ ต้องให้พนักงานสอบสวน ประสานไปยังเด็กผู้เสียหายที่ถูกแทงได้รับบาดเจ็บให้มาทำการชี้รูปยืนยันอีก ครั้ง หากผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน ก็จะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ต่อไป.

อย่างไรก็ตาม ทั้งนางสมจิตรและญาติ ๆ ไม่อยากจะติดใจเอาความกับเด็กทั้งสองเพราะเป็นเยาวชน แต่ทางผู้ใหญ่บ้านบอกว่าได้รับการประสานงานกับตำรวจให้พาตัวนางสมจิตรไปสอบ ปากคำกับตำรวจที่ สน.ปทุมวัน

0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources